หนุ่มขับเก๋งเผลอหันไปคุยกับแฟน เบรกไม่ทัน พุ่งชนพระเดินข้ามถนน ตัวลอยกระแทกพื้นเจ็บ

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ร้อยตำรวจเอกสามารถ สัตยา รองสารวัตร สอบสวน สภ.พระประแดง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งชนพระภิกษุสงฆ์ที่กำลังเดินบิณฑบาตและข้ามถนน จุดเกิดเหตุบริเวณปากซอยพระราชวิริยาภรณ์ 2/1 ถนนพระราชวิริยาภรณ์ ตำบลบางพึ่ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ได้ประสานขอรถกู้ชีพเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ

ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู อยู่ระหว่างให้การช่วยเหลือ ทราบชื่อภายหลัง ชื่อพระชัยชนะ อายุ 57 ปี เป็นพระลูกวัดประจำอยู่วัดไพยนต์พลเสพย์ราชวรวิหาร นอนอยู่กลางถนนได้รับบาดเจ็บที่ขาข้างขวา แขนข้างขวา และมีรอยบวมที่ศีรษะ มีแผลถลอกตามร่างกาย

ใกล้กันพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลหรือรถเก๋งยี่ห้อ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ จอดอยู่กลางถนน มีร่องรอยการถูกชนที่กันชนด้านหน้าและกระจกหน้าแตกทั้งบาน โดยที่เกิดเหตุพบนาย ธีรภัทร อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถคันที่ก่อเหตุ ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีอาการตกใจ เจ้าที่ตำรวจจึงบันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานและจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้ง จากนั้นเจ้าที่เป็นให้นายธีรภัทรไปสอบปากคำเพิ่มเติม สภ.พระประแดง ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามนายธีรภัทร คนขับรถเก๋งคันเกิดเหตุได้เล่าให้ฟังว่า ตนได้ขับรถมากับแฟนสาว ขับมาตามปกติบนถนนพระราชวิทยาภรณ์จากสามแยกวัดไพชยนต์พลเสพย์ราชวรวิหาร มุ่งหน้าไปสามแยกนิตยาหรือแยก 86 พอมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนได้หันไปคุยกับแฟนสาว หันกลับมาอีกทีเห็นพระชัยชนะข้ามถนนมาจากปากซอยพระราชวิริยาภรณ์ 2/1 เพื่อจะข้ามไปบิณฑบาตฝั่งปากซอยพระราชวิริยาภรณ์ 5

จึงพยายามมเบรกแล้วแต่ไม่อยู่ รถได้ไหลไปชนพระชัยชนะเข้าอย่างจัง จนพระตัวกระเด็นมากระแทกกระจกหน้าและลอยตกลงไปที่พื้นถนน ตนจึงรีบจอดรถและลงไปดูเพื่อจะช่วยเหลือ จากนั้นจึงโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่

ด้านนายอนันต์ อายุ 63 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนกำลังนั่งรอรถอยู่ข้างถนน บริเวณตรงจุดเกิดเหตุ เห็นพระชัยชนะเดินบิณฑบาตอยู่ฝั่งตรงข้ามและกำลังจะข้ามถนนมาฝั่งที่ตนนั่งอยู่ เดินข้ามมาได้แล้วแต่ได้หยุดอยู่บริเวณตรงกลางถนน เพราะรถอีกด้านหนึ่งมาจำนวนมากไม่สามารถข้ามได้ ยืนรอบริเวณกลางถนน เป็นจังหวะเดียวกันกับรถเก๋งคันก่อเหตุได้วิ่งมาและชนพระเข้าอย่างจัง ตนเห็นจึงได้รีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือและนำตัวเข้าข้างทางเพื่อความปลอดภัย