หนุ่มหลอนยา ลากถังแก๊สเข้าห้อง เผาตัวเองดับพร้อมหมาคู่ใจ-ไก่ชน

วันนี้ (1 ต.ค.65) เวลา 12.30 น. ตร.สภ.เพ็ญ รับแจ้งจากนายสมพร สุขเสริม ผช.ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 บ้านดอนแดง ต.บ้านเหล่า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ว่า มีเหตุลูกบ้านจุดไฟเผาตัวเองจนเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 8 บ้านดอนแดง หลังรับแจ้ง จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมฯ อ.เพ็ญ กู้ชีพอบต.บ้านเหล่า

เมื่อไปถึงพบบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องเก็บของพบศพผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของบ้าน ทราบชื่อต่อมาคือนายวิษณุกร หรือ ตี้ อายุ 37 ปี นอนอยู่ภายในห้องเก็บของ สภาพศพใส่กางเกงยีนส์ตัวเดียว ไม่ใส่เสื้อ และมีสุนัขชื่อข่า เพศเมียเสียชีวิตลักษณะผู้ตายใช้สุนัขนอนหนุนคอไว้ และไก่ชนอีก 1 ตัว ถูกเผาจนไหม้ข้างๆ ศพของนายตี้ ส่วนที่ประตูหน้าห้องมีถังแก๊สอยู่หน้าประตู บริเวณรอบๆ บ้านสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านถูกพังจนเต็มบ้านไปหมด

นางธนียา อายุ 58 ปี ผู้เป็นแม่เปิดเผยว่า ตนเองมีลูก 2 คน คนนี้เป็นลูกชายคนโต เรียนจบ ปวช. ไปทำงานเมืองนอกที่ประเทศเกาหลีนานกว่า 20 ปีแล้ว มีอาการเบลอ เขาก็เลยส่งกลับมาได้ 1 ปีที่ผ่านมา แม่ก็พาไปรักษาเพื่อให้เลิกติดยา แต่เขาไม่กินยา ทำให้ป่วยเป็นจิตเวชและเสพยาประจำ ปกติลูกชายจะนอนที่ทุ่งนา แต่เพราะเมายาอาละวาดทำลายกระท่อมนาจนพัง

จากนั้นก็ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านได้ไม่นาน หลอนยาอาละวาดหนัก ขู่จะฆ่าแม่จนแม่อยู่ด้วยไม่ได้ วานนี้ 1 ทุ่มลูกชายจะมาเอารถยนต์ แต่ตนเองไม่ให้ เพราะกลัวลูกชายขับไปชนหรืออาจจะเอาไปขาย จึงเอารถไปซ่อน อาจจะทำให้เขาโกรธ โวยวายหนักถือไม้ไล่จะฆ่าแม่จนต้องหนีตายไปนอนบ้านญาติ

เช้ามาวันนี้เห็นควันออกมาจากห้องภายในบ้าน จึงเปิดเข้ามาดูก็พบลูกชายนอนเสียชีวิตภายในห้องพร้อมกับสุนัขและไก่ชนแล้ว โดยที่บ้านมีสุนัข 3 ตัวแต่สุนัขที่ตายไปกับลูกชาย เป็นสุนัขที่เขารักมาก แม่ทำใจมาหลายปีแล้วสำหรับลูกชายคนนี้ ไม่ได้เสียใจอะไรมาก ไม่มีแรงจะดูแลลูกชายคนนี้แล้ว เพราะเขาติดยาหนัก เคยไปไปรักษา กินแต่ยาดี ๆ ทั้งนั้น แต่ระยะหลังเขาไม่กิน จึงมีอาการหลอน อาละวาดขู่จะฆ่าพ่อและแม่ประจำ 

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตร.ตรวจสอบที่เกิดเหตุ คาดว่า ผู้ตายเสพยาจนหลอน ได้เข้าไปนอนในห้อง โดยเอาสุนัขและไก่ชนเข้าไปอยู่ด้วย จากนั้นได้ลากถังแก๊สเข้าไป เปิดวาล์วแก๊สแล้วจุดไฟเผาตัวเองทันที แต่เนื่องจากอยู่บ้านคนเดียวไม่มีใครเห็น คนเป็นแม่จึงมาพบศพตอนเช้าวันนี้ หลังชันสูตรศพและตรวจที่เกิดเหตุ ตร.จะได้หาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง