อาชญากรรม

โดนกดดันหนัก สิบโทปืนโหดเข้ามอบตัว รันทดแม่วัย 67 ป่วยต้องอยู่ลำพัง

โดย nicharee_m

20 ส.ค. 2565

412 views

ความคืบหน้าล่าสุด คดียิงพลสารวัตรทหาร ค่ายพระยอดเมืองขวาง มณฑลทหารบกที่ 210 เสียชีวิตคาป้อมยามทางเข้า-ออกค่าย พระยอดเมืองขวางอ.เมืองนครพนม เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม รวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ แล้วเสนอศาลมณฑลทหารบกที่ 24 ค่ายประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี เพื่อขออนุมัติออกหมายจับ สิบโท มานิตย์ จันทะพินิจ พลสารวัตรทหาร หรือ สห. มทบ.210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง ผู้ก่อเหตุเนื่องจากสิบโท มานิตย์ เป็นทหาร จะต้องขึ้นศาลทหาร

โดยศาลทหารมณฑลทหารบกที่ 24 ได้อนุมัติออกหมายจับแล้วเมื่อเย็นวันที่ 19 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าผู้ก่อเหตุยังคงกบดานในพื้นที่ จ.นครพนม โดยได้ประสานผู้บังคับบัญชาให้ช่วยเกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัวเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 19 สิงหาคม 2565 ที่ สภ.เมืองนครพนม พลตรีสถาพร บุญชู ผบ.มทบ.210 พร้อม สารวัตรทหาร ได้พาสิบโท มานิตย์ (สงวนนามสกุล) เข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภจว.นครพนม แล้วที่ สภ.เมืองนครพนม โดยมี พ.ต.อ.ณัฏฐวิชย์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมือง นครพนมรับตัวแล้วนำตัวเข้าห้องสอบสวนทันที

หลังสอบเครียดนานเกือบสองชั่วโมง ก็ได้นำตัวสิบโท มานิตย์ เข้าห้องควบคุมตัว ที่สภ.เมืองนครพนมโดยตลอดเวลาสิบโทมานิตย์ มีสีหน้าเคร่งเครียดและกังกลตลอดเวลา แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับผู้ก่อเหตุเปิดเผยว่าหลังทราบว่าถูกศาลทหารออกหมายจับ สิบโทมานิตย์ ก็โทรหา ผู้ที่ตนเองนับถือ (พ่อฮัก) เพื่อจะขอให้พาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยนัดเจอกันที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.หน้าสนามบินนครพนม

หลังจากนั้นก็ติดต่อผู้บังคับบัญชา คือพลตรี สถาพร บุญชู ผบ.มทบ.210 ให้พาเข้ามอบตัว พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ โดยสิบโทมานิตย์ มีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด บ่นเป็นห่วงแม่ที่ป่วยและสายตาไม่ดี ไม่มีคนดูแล หลังสอบปากคำเบื้องต้นเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจและสารวัตรทหารก็นำตัวสิบโทมานิตย์ เข้าห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ สภ.เมืองนครพนม ทันที



ด้าน นางบัวไร จันทะพินิจ อายุ 67 ปี แม่ของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนยังไม่รับรู้ว่าลูกชายทำอะไรผิดกฎหมาย มีแต่เจ้าหน้าที่มาตามหาตัว ตั้งแต่ช่วงเย็นเมื่อวานที่ผ่านมา โดยปกติลูกชายจะคอยเดินทางมาดูแลซื้อกับข้าวให้แม่ หากวันไหนไม่ได้เข้าเวร เพราะเป็นเสาหลักของครอบครัว มาตลอดหลังจากพ่อเสียชีวิต มากว่า 10 ปีแล้ว

โดยตนมีลูกเพียงสองคน สห.วิทย์ เป็นลูกชายคนโต ปกติพื้นฐานเป็นคนเงียบ ตั้งใจทำงาน ภูมิใจที่ลูกได้รับราชการ หลังจากไปเป็นพลทหาร และสอบเลื่อนชั้นเป็นทหารนายสิบ เข้ารับราชการเป็นสารวัตรทหารได้ เมื่อ 6-7 ปี ที่แล้ว ล่าสุดตนยังไม่รู้ว่าลูกชายทำผิดอะไร เพราะไม่มีคนเล่ารายละเอียดให้ฟัง หากตอนนี้มีคนมาบอกว่าลูกชายทำผิดกฎหมายจริง ตนยังไม่เชื่อ แต่สุดท้ายต้องยอมรับความจริง หากลูกกระทำลงไปในทางที่ผิด และขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ตามกฎหมาย

หากไม่มีลูกชายตนจะต้องอยู่ลำพัง โดยมีโรคประจำตัวคือ ขาอ่อนแรง และตาพร่ามัว ส่วนลูกชายคนเล็กจะต้องทำงานต่างจังหวัด เพราะลำพังครอบครัวยากจน บ้านที่อยู่ปัจจุบัน ได้รับมอบจาก โครงการมอบบ้านพักคนยากจน กองทัพบกเพื่อประชาชน สร้างถวายเป็นพระราชกุศลในหลวง รัชกาลที่ 9 เมื่อปี 2555 ช่วงที่ลูกชายเป็นพลทหาร และได้รับคัดเลือกเพราะยากจน ความประพฤติเรียบร้อย

ส่วน นายมานิต ศรีทองทา อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 บ้านโพนสวาง ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก จ.นครพนม เปิดเผยว่า สำหรับ สิบโท มานิตย์ จันทะพินิจ หรือ สห.วิทย์ อายุ 33 ปี ผู้ก่อเหตุ เป็นลุกบ้าน เสมือนลูกหลาน เห็นมาตั้งแต่เด็ก เป็นครอบครัวที่น่าสงสาร ยากจน พ่อเสียชีวิตแต่ยังเด็ก มีพี่น้อง 2 คน ต้องเป็นเสาหลักดูแลพ่อแม่ และครอบครัว เริ่มเข้าเป็นพลทหาร และสอบเลื่อนตำแหน่งรับราชการ เป็นสารวัตรทหาร ถือเป็นความภูมิใจของญาติพี่น้อง

อีกทั้งถือว่าเป็นคนที่มีความประพฤติเรียบร้อยมาตลอด ไม่ก้าวร้าว และยังเป็นลูกกตัญญู ที่ดูแลแม่ และได้รับคัดเลือก มอบบ้านผู้ยากจนให้ ตามโครงการของกองทัพบก เพราะไม่มีที่อยู่อาศัย สุดท้ายไม่คาดคิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อทำผิดแล้วต้องมารับโทษทางกฎหมาย ยอมรับสภาพกับการกระทำของตัวเอง จากโทษหนักจะได้เป็นเบา


คุณอาจสนใจ

Related News