อาชญากรรม

โจรบุกเดี่ยว ควงปืนชิงทองกลางห้าง ได้ทอง 15 บาท ก่อนซิ่งรถหนี

โดย attayuth_b

30 มิ.ย. 2565

1.2K views

วันนี้ (30 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.ท.ภูมิเรศ อินทร์คง รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายบุกชิงทองที่เกิดเหตุห้างทองเยาวราช กรุงเทพ สาขาโลตัสคลอง 7 ภายในห้างเทสโก้ โลตัส สาขาคลอง 7 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังเกิดเหตุคนร้ายได้หลบหนีไป หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ตระกูล เกียวประเสริฐ รอง.ผบก.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.พีรพล โชกติเสถียร รอง.ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี รักษาการ ผกก.สภ.ธัญบุรี พ.ต.ท.ธนกฤต อินภู่ รอง.ผกก.สส.สภ.ธัญบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ธัญบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1

ที่เกิดเหตุเป็นร้านค้าทองจำนวน1ห้องตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าหน้าร้านพบนาย วัชรพงษ์ เนตรนิล อายุ 32 ปีพนักงานของร้านยังอยู่นอาการตื่นตกใจ ให้การว่า ขณะเกิดเหตุมีหน้าพนักงานหน้าร้านจำนวน5คนโดยมีหญิง4คนชาย1คน โดยขณะนั้นตนเองยืนอยู่หน้าร้านคนร้ายเดินมาจากทางศูนย์อาหาร จากนั้นเมื่อมาถึงหน้าร้านคนร้ายซึ่งอายุประมาณ40-50ปี สวมเสื้อยืดคอปกสีเหลือง กางเกงขาวยาวสีดำสวมหน้ากากอนามัยสีขาว ได้ควักอาวุธปืนออกมาพร้อมกับจับมือตนเองไว้ ก่อนที่จะเอาปืนทุบที่ตู้โชว์ และบังคับให้พนักงานหยิบสร้อยคอทองคำ หนัก 3 บาทไป 3 เส้น แล้วทำท่าจะกลับ แต่หันกลับมายอกว่าให้เอาสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทมา 3 เส้น รวมทั้งหมด 15 บาท และพยายามดึงมือตนเองไป เหมือนจะเอาไปเป็นตัวประกัน แต่เมื่อเดินไปก่อนถึงร้านโทรศัพท์ก็ปล่อยตนแล้วบอกว่ามึงวิ่งกลับไป ก่อนที่คนร้ายจะรีบวิ่งหนีไป

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับกุมคนร้ายตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายหลบหนี จากนั้นได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าสาเหตุบันทึกภาพไว้ได้อย่างชัดเจนหลังเกิดเหตุคนร้ายออกประตูหลักด้านหน้าห้างสรรพสินค้า ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ125 สีดำหลบหนีไปใช้ถนนรังสิต-นครนายก

ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อใช้ประกอบคดีและสอบปากคำพนักงานซึ่งเป็นพยานบุคคล และระดมทีมทสืบสวนจากชุดสืบสวนภ.1 ชุดสืบสวนกก.สส.ภซจว.ปทุมธานี และชุดสืบสวนสภ.ธัญบุรี เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง  โจรบุกเดี่ยว ,ชิงทอง ,ซิ่งหนี

คุณอาจสนใจ

Related News