รวบ ‘แนน เซ็กส์เลิฟ’ จี้ชิงทรัพย์สาว ก่อนบังคับเข้ารีสอร์ท หวังขืนใจ

จากกรณี พ.ต.อ.เสวี วุ่นหนู ผกก.สภ.สิงหนคร ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ภูวรา แก้วพารัตน์ ผกก.สภ.เมืองสงขลา ว่ามีคนคนร้ายก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์หลายคดีได้หลบหนีมาทางอำเภอสิงหนคร ซึ่งเป็นบุคคลอันตรายและมักจะเลือกเหยื่อเป็นผู้หญิงพาเข้ารีสอร์ทหวังจะข่มขืน หลังรับรายงานจึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ขวัญชาติ จันทะ สว.สส.สภ.สิงหนคร พร้อมชุดสืบสวน สภ.สิงหนคร ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวและติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ตำบลชิงโค อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา พบคนร้ายกำลังขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ สีขาว ทะเบียน งคง 899 สงขลา พาผู้เสียหายพาเข้าไปภายในรีสอร์ทแต่ผู้เสียหายไม่เข้าห้องพักก่อนที่คนร้ายจะพาผู้เสียหายออกจากรีสอร์ทไปทำการชิงทรัพย์ที่บริเวณข้างนอก

ล่าสุด พ.ต.ท.ขวัญชาติ จันทะ สว.สส.สภ.สิงหนคร พร้อมชุดสืบสวน สภ.สิงหนคร ได้ทำการจับกุมตัวคนร้ายที่บ้านพักส่วนตัว ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา พร้อมของกลางเศษสร้อยคอทองคำฉีกขาดจำนวน 3 ชิ้น รถจักรยานยนต์ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอได้นำมาเปลี่ยนสีเป็นสีดำส่วนป้ายได้ถอดทิ้งและอาวุธปืนปลอม 1 กระบอก

เบื้องต้นทราบชื่อคนร้ายชื่อ นายชลธี ลายสมุทร หรือ แนน เซ็กเลิฟ (ได้สักไว้ที่เปลือกตาของตัวเอง) อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 ซอย 4 ถนนทะเลหลวง ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.สิงหนคร จากนั้นได้ทำการเชิญผู้เสียหาย 2 ราย ที่ถูกนายชลธีก่อเหตุประทุษร้ายมาทำการชี้ตัว ซึ่งทางผู้เสียหายยืนยันว่าคือคนร้ายที่ก่อเหตุจริง

โดยครั้งที่ 1 ก่อเหตุเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. เวลา 15.00 น. หน้าบริเวณโรงพยาบาลสงขลา เส้นถนนสงขลา-ระโนด หลังก่อเหตุชิงทรัพย์พยายามพาผู้เสียหายเข้ารีสอร์ทแต่ผู้เสียหายวิ่งหลบหนีออกมาได้ ครั้งที่ 2 ก่อเหตุเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. เวลา 06.25 น. หลังก่อเหตุชิงทรัพย์พยายามพาผู้เสียหายเข้ารีสอร์ทแต่ผู้เสียหายวิ่งหลบหนีออกมาได้

จากการสอบถาม น.ส.เข็ม (นามสมมุติ) ได้เล่าว่า ตอนแรกหนูขับรถกำลังกลับ เขาก็ขับรถมาเคียงข้าง ๆ หนู แล้วบอกว่าหัวเทียนรถพี่บอด ช่วยไปส่งแถว ๆ เกาะยอหน่อย หนูก็บอกว่าได้ค่ะพี่ หนูถีบรถไม่เป็น เดี๋ยวพี่ให้ผู้หญิงอีกคนช่วยถีบรถให้ ซึ่งหนูไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวเลยค่ะ หนูกับพี่ก็ถีบรถพี่เขามาเรื่อย ๆ เขาก็บอกว่าไปอีกนิดนึง เพื่อที่จะไปเอารถที่บ้านญาติของเขา

เขาขี่ตามหนูมาเรื่อย ๆ เนื่องจากหนูขับรถคนเดียว ซึ่งบวกกับตอนนั้นฝนตกหนักด้วย เขาขับรถมากับผู้หญิง 1 คน ขับมาเรื่อย ๆ แล้วเขาก็บอกผู้หญิงที่มากับเขาว่า ให้ไปเอารถที่บ้านญาติก่อน ส่วนเขาก็มากับหนู เขาก็พาหนูขับวนกลับไปพร้อมบอกว่า รอแปปนึงนะ เขาก็ให้หนูไปซื้อน้ำแดงให้เขา แล้วก็พาหนูขับวนมาเจอผู้หญิงที่เขาให้เอารถไปเปลี่ยน แล้วก็ถามว่า ไปเปลี่ยนรถหรือยัง ผู้หญิงเลยตอบกลับมาว่ายังเลย ด้วยความที่เขาบอกว่าเดี๋ยวไปเอารถที่รีสอร์ท ซึ่งตอนนั้นก็ขี่ออกมาเรื่อยๆจนถึงแยกดังกล่าวก็ยังไม่เห็นอะไรเลย เราเลยได้ถามไปว่าอีกนานไหมเพราะเราต้องกลับไปบ้านสามี เขาจึงตอบกลับว่าไม่นานหลังจากนั้นจึงพาเข้าไปในซอยที่มีหลุมขยะและทำการข่มขู่ว่าที่ตัวมีอะไรบ้าง เมื่อเห็นท่าทีไม่ดีแล้วในระหว่างที่ชะลอรถจึงได้กระโดดลง ตอนนั้นรู้สึกกลัวมาก โชคดีที่ใส่สร้อยทองคำเส้นเล็กมาจากนั้นจึงเกิดการกระชากสร้อยคอสร้อยข้อมือที่ใส่มา พร้อมด้วยเงินสด 200 บาท

ในระหว่างนั้นที่เรากำลังวิ่งหนีออกมาเขาก็ขี่มอเตอร์ไซค์บิดมาด้วยความเร็ว พูดขู่ว่าจะขึ้นมาไหมเดี๋ยวไปส่งเองด้วยความที่กลัวจึงบอกว่าพี่อย่าทำอะไรหนูเลย หนูให้ของทุกอย่างไปหมดแล้ว ก่อนจะชักอาวุธออกมาเป็นด้ามไม้สีน้ำตาล เห็นได้ชัดว่าเป็นปืนจึงรีบวิ่งสุดชีวิตเพื่อไปหาคนมาช่วย และมีการพูดตะโกนว่า "ถ้ามึงวิ่งกูยิงมึงแน่" ก่อนจะบิดรถมากระชากเราขึ้นรถอีกรอบจังหวะนั้นมองไม่เห็นคนจึงทำให้ต้องยอมขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายอีกรอบ แต่พอเห็นโค้งที่มีคนเดินยู่ใกล้ ๆโรงงานจึงตัดสินใจกระโดดลงอีกครั้งพร้อมกับตะโกนว่า "ช่วยหนูด้วย" แต่เขาก็กลัวเราแล้ววิ่งหนีไปกันหมด นาทีนั้นตัดสินใจแล้วว่าจะตายก็ตายแต่ต้องกระโดด จนหัวกระแทกพื้นแล้วมาขอความช่วยเหลือจากโชเฟอร์ที่ขับรถผ่านมาพอดี

ตอนที่เขากระชากสร้อยเขาก็เข้ามาหอมหนู พูดจาลวนลาม และพาเข้ารีสอทร์หนูกลัวมากพยายามหาวิธีเอาตัวรอด แล้วก็วิ่งหนีออกมา ซึ่งตอนเขาพาหนูเข้าไป เขาพยักหน้ากับแม่บ้านแล้วเขาก็บอกว่าห้องหมายเลข 7 ซึ่งใช้เวลาอยู่ในรีสอร์ทประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วแม่บ้านก็มาเก็บตังค์ค่าห้อง ซึ่งเงินที่ตัวหนูไม่มีแล้ว หลังจากนั้นเขาก็บอกว่าจะไปเอารถที่แฟนเขา แล้วเขาก็บอกว่าให้หนูเขามาก่อนเดี๋ยวแฟนพี่เอารถมาให้ อยากฝากไปยังประชาชนให้ควรระมัดระวัง อย่าไว้ใจง่าย ๆ โดยเฉพาะคนแปลกหน้า

จากการสอบสวน นายชลธี ลายสมุทร หรือ แนน เซ็กเลิฟ ให้การรับสารภาพว่า วันนั้นผมไปกับน้อง ซึ่งเดินทางกลับมาจากบ้านแฟน โดยทุกวันผมเดินทางผ่านแพขนานยนต์ น้องบอกผมว่า อยากจะหารถไว้ขับ 1 คัน บังเอิญผมไปเจอผู้หญิงคนนี้ ขับรถยี่ห้อ เวฟไอ สีดำ น้องผมเลยบอกว่าจอด ๆ ผู้หญิงเลยตกใจ ขับหนีเข้าไปในรีสอร์ท แถวท่าสะอ้าน และล้มลง น้องก็เลยให้ผมไปขับรถของผู้หญิงคนดังกล่าว ซึ่งรถคันดังกล่าวนี้ผมยังไม่ได้พาไปขายครับ ผมพาไปพ่นสี และรถก็ไม่มีป้ายทะเบียน อีกทั้งผมไม่กล้าพารถไปคืนเจ้าของ เนื่องจากกลัวเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ เพราะผมพึ่งจะพ้นโทษออกมาจากคุกด้วยครับ

ผมยอมรับสารภาพว่าผมกระทำความผิดจริงทั้ง 2 คดีจริง ผมอยากจะขอโทษผู้เสียหาย ผมไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุ เพียงเพราะว่าวันนั้นผมไปกับน้องชาย ในใจลึกๆของผม ผมไม่อยากจะทำ บังเอิญไปเจอผู้หญิงคนนี้พอดี น้องผมเลยอยากได้รถคันดังกล่าว และน้องก็ให้ผมขับกลับมา พอถึงบ้านผมได้โทรหาน้องชาย โดยบอกว่าผมจะคืนรถให้กลับเจ้าของ ผมก็ได้ให้กลับไป พร้อมทั้งเจ้าของรถบอกว่าจะไม่เอาเรื่อง และจะถอนแจ้งความให้ และให้ผมไปคุยกับร้อยเวรที่รับเรื่อง

หลังเจ้าหน้าที่ทำการสอบปากคำแล้วเสร็จพบมีเหยื่อรายที่ 3 อายุ 64 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสงขลา ซึ่งได้ถูกนายชลธีก่อเหตุลักษณะเดียวกันอีกด้วย ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สิงหนคร ได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณบ่อขยะและภายในรีสอร์ท ตำบลชิงโค พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาข้อหาชิงทรัพย์ ข้อหากระทำอนาจาร ข้อหามียาเสพติด(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและข้อหาเสพยาเสพติด(ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สิงหนคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.