อาชญากรรม

จับพิรุธคดียิง 'สจ.โต้ง' วางแผนไว้ก่อนหรือไม่ หลังพบลูกน้อง 'โกทร' ไม่ถอดรองเท้าเข้าบ้าน แอบซุ่มใต้บันได

โดย nut_p

15 ธ.ค. 2567

105 views

ตำรวจหลายหน่วย ประกอบด้วย กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 2 กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี หน่วยปฏิบัติการพิเศษปราจีนบุรี และตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกันเปิดภารกิจทลายรังนักเลง EP.1 โดยได้รวมพลและปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ที่บริเวณลานด้านหน้ากองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี



ซึ่งภารกิจดังกล่าว สืบเนื่องจากเหตุสังหารนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง คาบ้านนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี วันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา จนนำมาสู่การดำเนินคดีนายสุนทรพร้อมพวกรวม 7 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นและข้อหาอื่น ๆ



สำหรับภารกิจในวันนี้ ได้นำหมายศาลจังหวัดปราจีนบุรีเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งเป็นบ้านพักจำนวน 5 จุดของบุคคล 4 รายที่อาจมีความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับขบวนการของโกทร อยู่ในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ 3 จุด 2 คน คือนายแอ๊ดและนายโจ้ อ.ประจันตคาม 1 จุด 1 คน คือนายเต็งหนึ่ง และ อ.บ้านสร้าง 1 จุด 1 คน คือนายพงศกรหรือกร เลขาส่วนตัวของโกทร



โดยแบ่งกำลังออกเป็น 5 ชุด โดยชุดแรกมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 14 นาย ชุดที่ 2 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 8 นาย ชุดที่ 3 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 15 นาย ชุดที่ 4 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 9 นาย และชุดที่ 5 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 12 นาย ซึ่ง 2 ชุดแรก ลงพื้นที่เป้าหมายใน อ.ศรีมหาโพธิ และ 2 ชุดหลัง ลงพื้นที่เป้าหมายใน อ.ประจันตคาม และ อ.บ้านสร้าง ตามลำดับ



ทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ได้ติดตามปฏิบัติการชุดแรกในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ โดยพื้นที่เข้าตรวจค้นนั้นพบว่า เป็นที่ทำการของนายแอ๊ดซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักที่ทางตำรวจต้องการตัวมากที่สุด เนื่องจากในการสืบสวนพบว่า นายแอ๊ดได้สะสมอาวุธปืนเป็นจำนวนมากและเป็นลูกน้องคนสำคัญของโกทร อีกทั้งยังมีรายงานข่าวจากการสืบสวนว่า ในวันเกิดเหตุยิง สจ.โต้ง นายแอ๊ดได้เข้ามาที่บ้านของโกทรเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะออกจากบ้านไป แล้ว สจ.โต้ง ก็มาที่บ้านโกทรในภายหลังแล้วถูกยิงเสียชีวิต



ซึ่งสภาพพื้นที่เป้าหมายพบว่า มีบ้านอยู่ 2 หลัง หลังหนึ่งเป็นที่ทำการของผู้ใหญ่บ้านหรือนายแอ๊ด อีกหลังเป็นที่พักของผู้ดูแลบ้าน บริเวณด้านหลังเป็นโรงงานรีไซเคิลขยะของเก่า มีเนื้อที่ขนาดประมาณ 3 ไร่เศษ ซึ่งทันทีที่เข้าตรวจค้น พบคนงาน 2 รายอยู่ภายในโรงงานและพบชายสูงอายุ พักอาศัยอยู่ในบ้านผู้ดูแล ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เชิญออกมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงหมายค้น แม้จะมีท่าทียินยอมให้ทางตำรวจเข้าตรวจค้น แต่ได้ขึ้นเสียงใส่ตำรวจ เนื่องจากต้องการจะบันทึกวีดีโอขณะเข้าตรวจค้น ก่อนที่จะนำเข้าตรวจค้นทั้งบ้านพักและบ้านที่เป็นที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน



ผลจากการตรวจค้นพบอาวุธปืน 2 กระบอกในบ้านของลุงวัดหรือผู้ดูแล เป็นปืนลูกโม่ 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 22 นัด และปืนแม็กกาซีน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 13 นัด โดยชายคนดังกล่าว ได้แสดงตนว่าเป็นเจ้าของพร้อมแสดงทะเบียนปืนทั้ง 2 กระบอก ทางตำรวจได้ตรวจยึดเอาไว้เพื่อดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด ส่วนภายในบ้านซึ่งเป็นที่ทำการผู้ใหญ่บ้านไม่พบสิ่งผิดกฎหมายและพบตัวผู้ใหญ่แอ๊ดแต่อย่างใด



ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยสอบถามกับชายคนนี้ เกี่ยวกับตัวผู้ใหญ่แอ๊ด โดยเขาระบุว่า พบเจอผู้ใหญ่แอ๊ดครั้งสุดท้ายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งได้พูดคุยกันตามปกติและตัวผู้ใหญ่แอ๊ดไม่ได้มีท่าทีกระวนกระวายหรือเครียดแต่อย่างใด รวมทั้งไม่ได้ฝากอะไรเป็นพิเศษ ส่วนตัวมีหน้าที่เฝ้าบ้านและดูแลพื้นที่ให้ผู้ใหญ่แอ๊ดมานานกว่า 2 ปีแล้ว มีความสัมพันธ์เป็นพี่เขยของผู้ใหญ่แอ๊ด ส่วนโกทรนั้น ตนไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว รู้จักแต่ชื่อ ไม่เคยเจอตัวจริง และไม่เคยเห็นมาที่บ้านของผู้ใหญ่แอ๊ด



ด้านผู้ใหญ่แอ๊ดนั้นก็ไป ๆ มา ๆ ที่นี่ ไม่ได้พักเป็นประจำ ซึ่งส่วนตัวก็ไม่ทราบว่าผู้ใหญ่แอ๊ดพักที่ไหนนอกจากที่นี่ สำหรับปืน 2 กระบอกที่พบเจอนั้น ยอมรับว่าเป็นของตนเองซึ่งซื้อเอาไว้ก่อนเกษียณให้กับลูกสาว ผู้สื่อข่าวสอบถามอีกว่า ทำไมต้องบันทึกวีดีโอขณะตำรวจทำการตรวจค้น เขาระบุว่า เพื่อความเป็นธรรมของทั้งสองฝ่าย ส่วนวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ ตนจำไม่ได้ว่าในวันนั้นได้พบผู้ใหญ่แอ๊ดหรือไม่



สำหรับเป้าหมายการตรวจค้นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่แอ๊ด มีอยู่ 2 จุด ในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ ซึ่งนอกจากที่ทำการผู้ใหญ่บ้านแล้ว ทางตำรวจได้ไปตรวจค้นอีกจุดหนึ่งคือร้านทองของผู้ใหญ่แอ๊ด ซึ่งจัดการเข้าตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายและพบตัวผู้ใหญ่แอ๊ดแต่อย่างใด



ขณะที่เป้าหมายสุดท้ายใน อ.ศรีมหาโพธิ คือบ้านของนายโจ้ ซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นอีกบุคคลที่ทางตำรวจต้องการตัวมากที่สุด เนื่องจากมีรายงานข่าวว่า พบพฤติการณ์คล้ายคลึงกับผู้ใหญ่แอ๊ด กล่าวคือ ได้เข้าไปในบ้านของโกทรแล้วกลับออกไป ก่อนที่ สจ.โต้ง จะเข้ามาแล้วถูกยิงเสียชีวิต โดยผลจากการตรวจค้นก็ไม่พบตัวนายโจ้และสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด



จากการที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามพูดคุยกับลูกจ้าง ระบุว่า นายโจ้อายุประมาณ 40 กว่า ๆ จำไม่ได้ว่าพบเจอนายโจ้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ แต่ปกตินายโจ้ก็จะไป ๆ มา ๆ ระหว่างกรุงเทพและที่นี่ เห็นแว๊บ ๆ ล่าสุดก็ตอนเช้า คาดว่าน่าจะมาค้างที่โรงงานก่อนกลับกรุงเทพ แต่ตนจำไม่ได้ว่าเมื่อไร



ทั้งนี้ ตำรวจจะสรุปผลอย่างละเอียด ก่อนจะแถลงต่อสื่อมวลชนในวันพรุ่งนี้ ที่ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี



ขณะที่ความเคลื่อนไหวในคดีสังหาร สจ.โต้ง ทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ได้รับรายงานข่าวแนวทางสืบสวนถึงคดีสังหารนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ว่า ในระหว่างที่ สจ.โต้ง เข้าไปคุยกับนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทรในห้องนอน ผู้ก่อเหตุที่เป็นลูกน้องของโกทรทั้ง 6 ราย ได้แบ่งกันหลบซ่อนตามมุมของบ้านก่อนลงมือยิง สจ.โต้ง โดยมี 4 รายที่แอบหลบซ่อนอยู่ห้องเก็บของชั้นบน ซึ่งตรงกับทางลงบันไดใกล้กับห้องนอนโกทร ส่วนอีก 2 รายแอบซุ่มอยู่ด้านล่างบันได



นอกจากนี้ ยังพบพิรุธผิดปกติว่า ลูกน้องทั้ง 6 รายไม่ได้ถอดรองเท้าผ้าใบออกขณะเข้าไปในบ้านโกทร แต่เดินในบ้านโดยใส่รองเท้า ซึ่งผิดปกติวิสัยของคนทั่วไปที่ต้องถอดรองเท้าเวลาเข้าในบ้าน จึงตั้งข้อสังเกตได้ว่า นี่เป็นการวางแผนเตรียมการให้ สจ.โต้ง ตายใจแล้วเข้ามาในบ้าน โดยไม่ผิดสังเกตว่า อาจจะมีลูกน้องโกทรอยู่ในบ้านก็เป็นได้



ส่วนพฤติการณ์ของคดี พบว่า เมื่อ สจ.โต้ง เดินออกมาจากห้องนอนของโกทรแล้วเลี้ยวซ้ายเพื่อเดินลงบันได กลุ่มคนร้ายที่ซุ่มอยู่บริเวณห้องเก็บของก็วิ่งออกมา ขณะเดียวกัน สจ.โต้ง ได้เหลียวมาทางขวาเพื่อหันไปมองด้านหลัง เมื่อเห็นมือปืน ก็พยายามจะหันกลับเพื่อวิ่งหนีลงบันได แต่ถูกกลุ่มคนร้ายใช้ปืนลูกซองยิงเข้าที่บริเวณสีข้างด้านขวา เป็นเหตุให้ สจ.โต้ง ล้มตกบันไดลงไปนอนกองกับพื้น แล้วถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงซ้ำในลักษณะจ่อยิงจนเสียชีวิต



ขณะเดียวกันยังพบว่า อาวุธปืนที่ใช้สังหาร สจ.โต้ง ได้แก่ อาวุธลูกซองชนิดออโต้ขนาด 12 ซึ่งปืนดังกล่าวผู้ที่ลั่นไกคือนายศักดิ์สิทธิ์ หรือตูน โดยพบว่าปืนดังกล่าวนั้น ปรากฏชื่อเจ้าของปืนในทะเบียนคือโกทร ส่วนอีกกระบอกคือ ปืนขนาด 9 มม. ซึ่งลั่นไกโดยนายธนศรัณย์กรณ์ หรือกอล์ฟ



ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า ตำรวจสืบสวนได้ส่งกล้องวงจรปิดภายในบ้านโกทร ให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบกู้เซิฟเวอร์แล้ว แต่ต้องรอให้ตำรวจดำเนินการตรวจสอบและกู้ไฟล์สักระยะก่อน

คุณอาจสนใจ

Related News