นายกฯ ร่วม ตร. แถลงเหตุ 6 ต่างชาติ ดับปริศนาในรร.ย่านราชประสงค์ หลังทานอาหาร คาดถูกวางยาพิษ

เมื่อช่วงเย็น ต่อเนื่องตอนค่ำ และจนถึงขณะนี้ ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ได้เดินทางไปที่โรงแรมชื่อดังย่านราชประสงค์ หลังจากพบศพชาวต่างชาติ 6 คน นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องพักอย่างมีเงื่อนงำ แม้จะสันนิษฐานเบื้องต้นว่า อาจเสียชีวิตจากการถูกวางยาพิษ คดีนี้น่าจะมีความสำคัญมาก เป็นคดีอาชญากรรมคดีแรกๆ ที่นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่



ตำรวจ สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุจากพนักงานโรงแรมเวลา 17 นาฬิกา 30 นาที ว่าพบผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติ 6 คน คาดว่าเชื้อชาติเวียดนาม ในห้องพักชั้น 5 ของโรงแรม หลังจากเช็คเอาท์ห้องพัก 4 ห้อง บนชั้น 7 ตั้งแต่เมื่อวาน



ตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 3 คน หญิง 3 คน ถือสัญชาติเวียดนาม 4 คน สัญชาติอเมริกัน 2 คน ก่อนเสียชีวิต ได้สั่งอาหารเข้ามาในห้องที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่ได้รับประทาน ทั้งหมดได้ดื่มเครื่องดื่ม เช่น ชา กาแฟ แล้วจึงเสียชีวิตทั้งหมด



ผู้เสียชีวิตประกอบด้วยหญิงอายุ 56 ปี สัญชาติอเมริกัน เดินทางเข้าไทยมาเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 และมีการเข้าออกไทยมาแล้ว 5 ครั้ง



ผู้เสียชีวิตคนที่ 2 เป็นชายอายุ 55 ปี สัญชาติอเมริกัน เดินทางเข้าไทยเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2567 มีการเดินทางเข้าออกไทย 1 ครั้ง



ผู้เสียชีวิตคนที่ 3 เป็นหญิงอายุ 47 ปี สัญชาติเวียดนาม เดินทางเข้าไทยเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีการเดินทางเข้าออกไทยถึง 17 ครั้ง

ผู้เสียชีวิตคนที่ 4 เป็นชายอายุ 49 ปี สัญชาติเวียดนาม เดินทางเข้าไทยเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีการเดินทางเข้าไทยออก 1 ครั้ง



ผู้เสียชีวิตคนที่ 5 เป็นชายอายุ 37 ปี สัญชาติเวียดนาม เดินทางเข้าไทยเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม เช่นกัน แต่มีการเดินทางเข้าออกไทยมาแล้ว 11 ครั้ง และผู้เสียชีวิตคนที่ 6 เป็นหญิงอายุ 46 ปี สัญชาติเวียดนาม



ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ทั้งหมดเข้ามาพักวันที่ 13 กรกฎาคม จนเมื่อวาน เช็คเอาท์ 4 ห้องบนชั้น 7 จนเหลือเพียงห้องเดียว ที่ชั้น 5



ตรวจสอบเบื้องต้นไม่มีรอยเลือด ไม่มีทรัพย์สินเสียหาย ต้องรอตำรวจ ตรวจก้องวงจนปิด ว่ามีใครเข้าออกบ้าง หรือใครเอาน้ำมาเสิร์ฟ รวมทั้งอาจต้องตรวจสอบไกด์ที่พาทั้งหมดท่องเที่ยวในช่วงมาอยู่ในประเทศไทย



นอกจากตำรวจที่รับผิดชอบในพื้นที่นครบาล จะระดมกำลังเข้าตรวจสอบในพื้นที่แล้ว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ยังได้ลงไปติดตามควบคุมการสืบสวนสอบสวน และเมื่อเวลาประมาณ 21นาฬิกา 20 นาที นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุด้วย เพื่อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยโดยด่วนด้วยความเคร่งครัดรอบคอบรัดกุม ไม่ต้องการให้กระทบภาพลักษณ์ รวมทั้งเร่งตรวจสอบไม่ให้เกิดผลกระทบต่อนักท่องเที่ยว

เบื้องต้น  จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่มีการชิงทรัพย์หรือประทุษร้ายเกิดขึ้น ซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับการผ่าพิสูจน์พลิกศพของกองพิสูจน์หลักฐาน ว่าได้ทานอะไรเข้าไปหรือเปล่า และเนื่องจากไม่พบหลักฐานที่เกี่ยวกับการปล้นหรือทำร้าย ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวกับการชิงทรัพย์ และนอกจากนี้ยังสันนิษฐานว่าอาจมีบุคคลที่ 7 เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบการท่องเที่ยวแน่นอน



ด้าน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้กล่าวถึงรายละเอียดของคดีนี้ โดยกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของโรงแรมได้เข้าไปทำความสะอาด โดยเจ้าหน้าที่เข้าทางประตูด้านหลังเนื่องจากประตูด้านหน้าล็อค และเนื่องจากห้องนี้ต้องเช็คเอาท์วันที่ 16 ในช่วงบ่าย แต่พอเข้าไปเห็นศพจึงได้แจ้งตร.



จากนั้น ทางฝ่ายสอบสวนได้เข้ามาที่เกิดเหตุ ก็พบมี ผู้เสียชีวิต 6 คน ซึ่งอยู่โซนรับแขก 4 คนและ อยู่ในห้องนอน 2 คน แบ่งเป็นชาย 3 คน หญิง 3 คน และจากการตรวจสอบพบว่า ทั้งหมดเข้ามาประเทศไทยเข้ามาไม่พร้อมกัน โดยเข้ามาวันที่ 13 ก.ค.ชุดนึงและ 14 ก.ค. ชุดนึง และพบว่านทท.กลุ่มนี้ ได้แจ้งบุ๊คกิ้ง 7 คน  และเช็คอินโรงแรม 5 คน แต่พบศพทั้งหมด 6 ราย



โดยการเปิดห้องโรงแรมนั้นพบว่ามี 4 ห้องที่พักชั้นอยู่ 7 ส่วนที่เหลือพักอยู่ชั้น 5 ซึ่งห้องชั้น 7 มีกำหนดเช็คเอาท์เมื่อวานตอนบ่าย ซึ่งพบว่าผู้ที่พักอยู่ชั้น 7 ได้ เก็บกระเป๋าแล้ว และมีการลงไปรวมกันที่ชั้น 5 ส่วนการเสียชีวิตนั้นเชื่อว่า เสียหลัง 13.53 น. เนื่องจากพบอาหารมื้อสุดท้ายที่สั่งไว้ในเวลาดังกล่าว แต่ยังไม่มีการเปิดทานแต่อย่างใด และนอกจากนี้ยังพบเครื่องดื่ม 6 แก้ว ที่เหมือนมีตะกอนอะไรสักอย่างอยู่ที่ก้นแก้ว และยังพบกระปุกชาอู่หลงที่ถูกเปิดแล้วอยู่ในห้องน้ำ เบื้องต้นฝ่ายสืบสวนตรวจสอบแล้วว่าไม่พบร่องรอยการต่อสู้



โดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ได้สรุปแนวทางสอบสวน ไว้ดังนี้

1.กำลังเร่งหาบุคคลที่ 7

2. หาความเชื่อมโยงบุคคลทั้ง 6 ผ่านสถานทูต และช่องทาง โซเชียลมีเดีย

3.ถ้าหากไม่มีบุคคลที่ 7 ก็จะสืบหาว่าอะไรคือมูลเหตุจูงใจ