อาชญากรรม

KNU ยันไม่เกี่ยวข้อง 'แก๊งคอลฯ' พร้อมร่วมมือแก้ปัญหา ก่อนกลายเป็นภัยคุกคามใหม่ ไทย-เมียนมา

โดย nut_p

11 ก.พ. 2567

197 views

การลงพื้นที่เมืองใหม่ฝั่งเมียนมา ด้านแม่สอด จังหวัดตาก ที่ข้อมูลทางการไทย ระบุว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และขบวนการหลอกออนไลน์ ได้ใช้เป็นฐานหลอกคนไทย ล่าสุดสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNU ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญกรรมข้ามชาติในเมืองชเวก๊กโก่และเคเคปาร์ค ซึ่งเป็นพื้นที่คุ้มครองของกองกำลัง บีจีเอฟ ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลทหารเมียนมา และเป็นห่วงปัญหาจะกระทบกับประชาชนชาวกะเหรี่ยงและคนไทย จึงเรียกร้องจีนและไทยร่วมแก้ไขปัญหา โดย KNU พร้อมสนับสนุน เพราะกำลังจะกลายเป็นภัยคุกคามใหม่ชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งข่าว 3 มิติได้รับการร้องเรียนจากเหยื่อที่ถูกหลอกลวงไปทำงานในเมืองใหม่ ทั้งสองแห่งนี้ในเมืองเมียวดีของเมียนมาด้วย



จากอาณาเขตของเคเคปาร์ค ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเมยตรงข้าม ต.แม่กุ อ.แม่สอด จังหวัดตาก เห็นได้ชัดเจนถึงอาณาจักร ที่กำลังขยายตัวสร้างอาคารใหม่ใน 4 โครงการ ทั้ง KK-Park 1,KK-Park 2,KK-Park 3,KK-Park 4 ซึ่งภายในมีการแบ่งอาคารสำหรับกลุ่มทำงานคอลเซ็นต์เตอร์ ในรูปแบบเดียวที่เมืองเล่าก์เก่า รัฐฉานเหนือ ที่มีทั้งสถานบันเทิง คาสิโน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และสแกมเมอร์ ที่คนทำงานจะต้องอยู่ภายในอาคาร และถูกบังคับให้ทำยอด หากทำไม่ได้จะถูกบังคับ กักขังในห้อง และช็อตไฟฟ้า จนมีการร้องเรียนขอความช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง



โดยมีรายงานว่าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เช่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ยังพบว่ามีชาวเคนยา ไม่ต่ำกว่า 100 คน ที่ได้ขอความช่วยเหลือออกมา 10-20 คนในปีที่แล้ว จากรายงานการสอบสวนระบุว่า ถูกหลอกลวงว่าจะมาทำงานด้านภาษาอังฤษในไทย มีค่าหัวคิวเดินทางคนละ 100,000 bบาท และทำงานได้เงินเดือนละ 30,000-40,000 บาท แต่เมื่อทำจริงกลับให้ทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์



เช่นเดียวกับในเมืองชเวก๊กโก่ ก็พบการร้องเรียนในลักษณะเดียวกัน ซึ่งมีทั้งคนไทยในอำเภอแม่สอด รวมถึงชาวกะเหรี่ยงที่ถูกหลอกให้ไปทำงาน และต้องจ่ายค่าไถ่เพื่อให้ได้กลับออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในเมืองชเวก๊กโก่ ก็กำลังขยายอาคารใหม่ และเห็นชัดว่า มีตึกสูงที่เป็นภาษาจีนและเมียนมา นี่กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ถูกจับตาจากหลายชาติที่ได้รับผลกระทบทั้งสหรัฐอเมริกา จีน และเคนยา ที่มีประชาชนตกเป็นเหยื่อ



ข่าว 3 มิติได้สัมภาษณ์พิเศษ พะโด ซอ ตอนี โฆษกสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือ KNU ยืนยันว่า KNU ไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติในชเวก๊กโก่ และ เคเคปาร์ค ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นพื้นที่คุ้มครองของ กองกำลังพิทักษ์ชายแดน Border Gard Force หรือ BGF ที่ขึ้นกับรัฐบาลทหารเมียนมา การเปิดเขตเศรษฐกิจเหล่านั้นต้องได้รับอนุญาตจากรัฐบาล ปัญหาจึงมาจากรัฐบาลทหาร KNU ไม่มีนโยบายที่จะให้มีอาชญกรรมคอลเซ็นเตอร์ หรือสแกมเมอร์ ที่สร้างผลกระทบร้ายแรง และ KNU เป็นห่วงไม่อยากให้กระทบกับประชาชนชาวกะเหรี่ยง รวมถึงคนไทยตาชายแดน ซึ่งโฆษก KNU กล่าวว่า เขาเคยพูดเรื่องนี้ชัดเจนไปแล้วว่า KNU พร้อมทำงานกับรัฐบาลจีน ไทย และต่างชาติที่จะแก้ปัญหานี้เพราะเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงมาก



เช่นเดียวกับ พลตรี ซอ ซีแล ผู้บัญชาการสูงสุดกองกำลังพิทักษ์ประชาชนกะเหรี่ยง KNDO เปิดเผยกับข่าว 3 มิติด้วยว่า KNDO มีหน้าที่โดยตรงที่จะดูแลประชาชน ที่ผ่านมาได้ติดตามปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชเวก๊กโก่และเคเคปาร์คที่อยู่ในรัฐกะเหรี่ยง แต่ไม่ได้อยู่ในการคุ้มครองของ KNU แต่กำลังตรวจสอบด้วยว่ามีใครไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์เหล่านี้หรือไม่ หากพบก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด และอยากให้ไทยร่วมมือกับ KNU ในการแก้ไขปัญหานี้ด้วยกัน



อาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทยตรงข้ามอำเภอแม่สอด จึงกำลังเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่มาเป็นภัยแทรกซ้อน นอกจากสถานการณ์การสู้รบในรัฐกะเหรี่ยง ระหว่างกองทัพกะเหรี่ยง KNLA กับกองทัพทหารพม่า ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาสำคัญที่มีเป้าหมายที่จะได้รับชัยชนะด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News