อาชญากรรม

เปิดแผนอุ้มฆ่าหนุ่มโรงงาน ทิ้งศพริมทาง เมียปัดรู้เห็นทีมสังหาร

3 ก.พ. 2567

3.2K views

คดีอุ้มฆ่านายธนาสันต์ ในสภาพถูกยิงเเละมัดมือ-มัดเท้า ก่อนจะเอาศพไปทิ้งริมถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ในพื้นที่อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เเม้ตำรวจจะตามจับกลุ่มผู้ก่อเหตุได้เเล้ว เเต่ที่ญาติเเละสังคมยังเคลือบเเคลงสงสัยก็คือ "ภรรยาของผู้เสียชีวิต" มีส่วนรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่ เพราะมาทราบกันภายหลังว่า "นายกิตติโชติ หรือช่างกิต" ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ก็กำลังคบหาเเละมีความสัมพันธ์กับหญิงคนนี้ อ้างคับเเค้นใจถูกฝ่ายหญิงหลอกว่าโสดเเละอาศัยอยู่กับพ่อ



ที่น่าสนใจก็คือในคืนเกิดเหตุ วงจรปิดในหมู่บ้านของผู้ตาย พบว่า"นายกิต"ใช้คีย์การ์ดขับผ่านด่านรปภ.เข้าไปอย่างง่ายดาย ทั้งที่ไม่ใช่คนในหมู่บ้าน ซึ่งมีคำถามว่า"ได้คีย์การ์ดมาจากใคร" ล่าสุดกรรมการหมู่บ้านได้ออกมาเปิดเผยว่า ภรรยาของผู้ตาย มาติดต่อขอซื้อคีย์การ์ดเข้าหมู่บ้านเพิ่มอีก 1 ใบ เมื่อปลายปีที่แล้ว



นายกิตติโชต หรือฉายาช่างกิต บางบ่อ วัย 37 ปี ถูกจับได้ในปั๊มน้ำมันเเห่งหนึ่ง ในพื้นที่บางพลี สมุทรปราการ เวลาประมาณ 22.56 น.ของวันที่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ วงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ขณะชุดสืบสวนสภ.บางปะกง นำกำลังบุกเข้าไปควบคุมตัวนายกิต หลังตามเเกะรอยเเละสืบจนทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ ขับรถกระบะตู้ทึบเข้ามาจอดพัก



หลังถูกจับ นายกิตติถูกคุมตัวมาสอบสวน เเละรับสารภาพเป็นผู้ก่อเหตุจริง เเต่อ้างว่าไม่ได้วางเเผนไว้ล่วงหน้า เเละไม่เคยบอกฝ่ายหญิงว่าจะลงมือ เเต่ยอมรับว่าวันเกิดเหตุ อ้างกับทีมอุ้มว่า ผู้ตายก็คือ "นายธนาสันต์ หรือใหม่" วัย 33 ปี มายืมมอเตอร์ไซค์เเต่ไม่ยอมคืน



จึงพาพวกตามมาเอารถ เเละรอเวลาจนกระทั่ง"นายธนาสันต์"ออกจากบ้าน จากนั้นได้ขับรถยนต์ตามประกบตามที่มีภาพปรากฏในวงจรปิด ก่อนตัดสินใจเข้าชาร์จเเละพาไปขึ้นรถ กระทั่งเย็นวันที่ 29 มกราคม มีคนมาพบศพในสภาพถูกยิงที่ศรีษะ มัดมือ-มัดเท้าเเละโยนศพทิ้งไว้ข้างทาง



หลังจากทุกคนรู้ว่าคนตายเป็นใคร เพื่อความเนียนเเละทำเหมือนไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง ค่ำวันนั้นจึงร่วมเดินทางมาดูศพพร้อมกับภรรยาของผู้ตาย



นายกิต ซึ่งถูกเเจ้งข้อหาหนักถึง 8 ข้อหา ให้การพนักงานสอบสวน อ้างคับเเค้นใจถูกฝ่ายหญิงหลอกว่าโสดเเละพักอยู่กับพ่อ เมื่อถูกจับได้ ฝ่ายหญิงก็อ้างว่าจะขอเลิกกับสามี เเต่สามีก็คือผู้ตายไม่ยอมเลิก ประกอบกับคลั่งรักฝ่ายหญิงมาก ผสมกับความเเค้นก่อนหน้า จึงตัดสินใจลงมืออุ้มฆ่าผู้เป็นสามี ยืนยันว่าฝ่ายหญิงผู้เป็นภรรยาไม่มีส่วนรู้เห็น เเต่เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม นายกิตติไม่ตอบคำถาม



ส่วนทีมอุ้ม 4 คน ตำรวจสอบไว้เป็นพยาน เบื้องต้นจะดำเนินคดี ในข้อหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งทั้ง 4 คน ยังให้การไม่ตรงกัน เเต่หากพยานหลักฐานพบว่ามีใครร่วมกันมัดมือมัดเท้า จะดำเนินคดีเพิ่ม



เเม้นายกิต จะยืนยันว่าฝ่ายหญิงไม่เกี่ยวข้อง เเต่ญาติเเละสังคมก็ยังเคลือบเเคลงสงสัย โดยเฉพาะความสัมพันธ์ลับเเละเหตุผลบางอย่าง อาจจะนำมาซึ่งเหตความรุนเเรงหรือไม่



ที่น่าสนใจก็คือในคืนเกิดเหตุ นายกิตกับพวกสามารถเข้า-ออกหมู่บ้านได้อย่างง่ายดาย ต่อมารู้ว่า นายกิตได้ใช้คีย์การ์ดเเตะผ่านด่านรปภ.



ย้อนกลับไป 21 มกราคม เวลา 21.25น. วงจรปิดบันทึกภาพนายกิต ขับรถยนต์เก๋งสีแดงผ่านด่านเข้ามาในหมู่บ้าน ครั้งนั้น ก็ไม่ได้เปิดกระจกแลกบัตร ต่อมา วันที่ 27 มกราคม 22.05 น. กล้องหน้าหมู่บ้าน จับภาพเก๋งสีแดง เข้าหมู่บ้านโดยไม่ได้เปิดกระจกและไม่ได้แลกบัตรเหมือนเดิม คาดว่าน่าจะใช้คีย์การ์ด ต่อมาเวลา 22.06 น. กล้องริมถนนหลัก จับภาพ ผู้ก่อเหตุเปิดไฟสูงขับผ่านหน้ากล้องเเละเข้าไปที่บ้านของผู้ตาย



จากข้อสงสัยนี้ ล่าสุด กรรมการหมู่บ้าน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงธันวาคมปีที่เเล้ว ภรรยาของผู้ตายได้มาติดต่อขอซื้อคีย์การ์ดเพิ่ม เพราะกฎของที่นี่ ใครไม่มีคีย์การ์ดจะต้องเเลกบัตร เเต่ไม่ขอออกความเห็นหรือยืนยันว่า เกี่ยวข้องกับการตายของนายธนาสันต์ อย่างไรหรือไม่ เพราะเป็นหน้าที่ของฝ่ายสืบสวน



นอกจากนายธนาสันต์ซึ่งเป็นสามี นายกิต ผู้ที่คบหากับภรรยาผู้ตาย เเละรับว่าเป็นคนลงมือ ล่าสุด ก็มีชายอีกหนึ่งคน ออกมาเเสดงตัวว่าได้รู้จักเเละคบหากับฝ่ายหญิงคนนี้เช่นเดียวกัน เเละที่ผ่านมาก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเธออยู่กับสามี เรื่องนี้จึงยังเป็นประเด็นที่ตำรวจ ประเด็นนี้ตำรวจกำลังขยายผลหาความเชื่อมโยงของกลุ่มบุคคลต่าง ๆ ว่ามีใครเกี่ยวข้อง หรือมีส่วนร่วมกันวางเเผนกับการฆาตกรรมครั้งนี้อีกหรือไม่

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ