ตม.จับผู้ต้องหาคนสำคัญ ลักลอบขนแรงงานบังคลาเทศ เข้ามาเลเซีย

ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้แถลงจับกุมผู้ต้องหารายหนึ่ง ในความผิดลักลอบนำพาแรงงานบังคลาเทศเข้าประเทศ ข้อมูลสำคัญที่ได้จากการแถลงข่าววันนี้ คือ มีขบวนการนำพาแรงงาน ขึ้นเครื่องบิน ไปลงที่กัมพูชา แล้วข้ามมาไทย เพื่อให้เป็นทางผ่าน ไปสู่มาเลเซีย โดยแรงงานต้องจ่ายค่าหัวที่แพงนับแสนบาท

พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมแถลงข่าวขยายผลจับกุมผู้ต้องหาวัย 56 ปีคนหนึ่ง ตามหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี ในความผิดฐานนำพาแรงงานข้ามชาติเข้าประเทศ

สืบเนื่องจากการขยายผลจากการจับกุม เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 ตม.ปัตตานี สนธิกำลังร่วมกับ สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี ทหารพราน 44 และฝ่ายปกครอง ตั้งจุดตรวจความมั่นคง ได้จับกุมนายเจ๊ะอารง อายุ 64 ปี พร้อมด้วยของกลางรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ โดยมีแรงงานข้ามชาติชางบังคลาเทศ 7 คน ซุกซ่อนมาในรถด้วย

เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด ทำให้รู้ว่า แรงงานทั้งหมดเดินทางมาจากประเทศบังกลาเทศ มายังประเทศกัมพูชาด้วยสายการบิน และใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านเพื่อจะไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยจะมีนายหน้าที่ประเทศกัมพูชา ให้ความช่วยเหลือนำแรงงานลักลอบเข้าประเทศไทย แล้วนำมาจุดพักคอยซึ่งเป็นบ้านพักที่อยู่ตามแนวชายแดนฝั่ง อ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยเสียค่าใช้จ่ายต่อหัวรายละ 100,000 ถึง 140,000 บาท

จากนั้น จึงได้มีการขยายผล จนจบผู้ต้องหารายล่าสุดได้ พบว่า เป็นหนึ่งในขบวนการขนแรงงานข้ามชาติที่จะเดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยทำหน้าที่เป็นผู้ขับรถยนต์ตู้ลักลอบขนชาวบังกลาเทศจากบ้านพักคอย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ไปส่งต่อให้นายเจ๊ะอารง ในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เพื่อนำชาวบังกลาเทศลักลอบออกทางช่องทางธรรมชาติไปประเทศมาเลเซีย

นอกจากนี้ ผู้ต้องหาที่นำตัวมาแถลงข่าววันนี้ ยังมีข้อมูลระว่า เป็นบุคคลเฝ้าระวังที่เป็นตัวการสำคัญในฐานข้อมูลขบวนการลักลอบนำพาฯ พื้นที่ ตม.6 ที่พบความเคลื่อนไหวในช่วงปี 2564 จากการจับกุมเครือข่ายลักลอบนำพาแรงงานชาวเมียนมา ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง โดยทำหน้าที่ประสานงานและเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามชาติ จากพื้นที่ จ.ปัตตานี ไปยังชายแดนไทย-มาเลเซีย ด้าน จ.นราธิวาส ก่อนที่ในปัจจุบันจะผันตัวมาลักลอบขนแรงวานชาวบังกลาเทศ จาก จ.สระแก้ว ไปประเทศมาเลเซีย