ออกหมายจับ 5 บัญชีม้า เอี่ยวแก๊งคอลฯ ต้นเหตุพ่อฆ่ายกครัว 3 แม่ลูก

ตำรวจภูธรบางแก้ว จังหวัดสมุทปราการ ขออนุมัติหมายจับ เจ้าของบัญชีม้า 5 ราย ที่มิจฉาชีพแก๊งคอลเซนเตอร์ ใช้รับโอนเงินกว่า 1 ล้าน 7 แสนบาท ของหญิงจังหวัดสมุทรปราการ ทำให้ครอบครัวที่มีหนี้สินอื่นอยู่แล้ว เครียดหนักกว่าเดิมและเป็นสาเหตุเกิดการฆาตกรรมในครอบครัว เสียชีวิต 3 คน



พลตำรวจตรีพัลลพ แอร่มหล้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ยืนยันว่าตำรวจภูธรบางแก้ว ได้ขออนุมัติจับเจ้าของบัญชีม้าแล้ว 5 ราย เป็นบัญชีม้าแถวแรก ที่นางสาววิภาพร โอนไปให้แก๊งมิจฉาชีพ ก่อนจะถูกถ่ายโอนออกไปและบัญชีม้าแถวแรกทั้ง 5 รายนี้ พบว่าเปิดบัญชีสาขา อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยข้อหาที่ตำรวจ ขออนุมัติหมายจับ ประกอบด้วยข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน / ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ / และข้อหายินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชี ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัว และตรวจสอบเส้นทางการเงินที่โอนจากบัญชีแถวที่ 1 ไปยังแถวที่ 2 เพิ่มเติม



ขณะเดียวกัน มีการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือนางสาววิภาพร พบสัญญากู้ยืมเงินที่ทำใว้บริษัทแห่งหนึ่ง ลงนามทำสัญญากู้วันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา จำนวนเงินกู้ 1 แสนบาท ระยะเวลาการยืมกู้ 60 เดือน ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2566 ถึง วันที่ 19 สิงหาคม 2571 ในเอกสารกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมว่า หากผู้กู้ไม่สามารถใช้หลักทรัพย์ประกันได้ จะต้อง สร้างประวัติเครดิตการชำระเงินค่างวดกับบริษัท โดยต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้น ภายใน 1 วัน หากไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด จะติดต่อครอบครัวของผู้กู้ เพื่อตรวจสอบ และหากบอกเลิกสัญญาขณะที่มีหนี้สินค้างชำระ จะต้องชำระดอกเบี้ยตามยอดที่ยื่นกู้ในอัตราร้อยละ 10 ถึงร้อยละ 50 ของยอดเงินกู้ 1 แสนบาท ในสัญญายังระบุว่าด้วยว่า หากลูกค้าไม่สบายใจในเงื่อนไขของบริษัท บริษัทก็จะขอตัดสิทธิ์ในการปล่อยกู้ให้ เพราะต้องการความสบายใจทั้งสองฝ่าย



อย่างไรก็ตาม เอกสารสัญญาดังกล่าว เชื่อว่าเป็นเพียงขั้นตอนสร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้หลงเชื่อ โดยเฉพาะประเด็นว่าให้สร้างประวัติการชำระเงินให้บริษัท ที่ต้องดำเนินการให้ แล้วเสร็จใน 1 วัน ซึ่งทำให้เหยื่อหลงเชื่อและโอนเงิน 1 หมื่นบาท เข้าบัญชีของมิจฉาชีพที่อ้างว่าเพื่อสร้างเครดิต และเมื่อโอนเงินเข้าไปแล้วก็จะอ้างว่าระบบผิดพลาด ให้เหยื่อโอนเงินเพิ่ม เพื่อให้ได้รหัสเข้าไปแก้ไข โดยจะอ้างเช่นนี้ไปเรื่อยๆ กระทั่งเงินหมดบัญชี จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก



สำหรับร่างผู้เสียชีวิตที่เป็นแม่และลูกชายอีก 2 คน รวมเป็น 3 คน ญาติจะนำไปทำพิธีบำเพ็ญกุศล ที่จังหวัดกำแพงเพชร ส่วนนายสาณิช ที่เป็นผู้ก่อเหตุฆาตกรรม และลูกทั้ง 2 และพยายามฆ่าตัวตายด้วยนั้น พบว่าอาการพ้นขีดอันตราย และตำรวจภูธรบางแก้วได้ขออนุมัติหมายจับข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พร้อมกับขออายัดตัวไว้ในระหว่างการรักษา



ขณะที่ประเด็นซึ่งเกี่ยวเนื่องกับเรื่องนี้ คือกรณีโรงเรียนบางแก้วประชาสรรค์ เปิดรับบริจาคเพื่อช่วยจัดงานศพ ให้ลูกชายวัย 13 ปีของผู้เสียชีวิตและเป็นนักเรียนที่นี่ เนื่องจากญาติแจ้งว่าไม่มีเงินดำเนินการพิธีศพ ทำให้ได้เงินบริจาคมากว่า 2 ล้าน 3 แสนบาท และโรงเรียนปิดรับบริจาคไปแล้วนั้น



ล่าสุดนายวัชรินทร์ โตขาว รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรปราการ ยืนยันว่าเงินบริจาคดังกล่าว จะใช้เพื่อพิธีฌาปนกิจศพตามวัตถุประสงค์ การรับบริจาคเท่านั้น และจะไม่มอบเงินให้ญาติฝ่ายใดทั้งสิ้น เมื่อเหลือจากงานศพ จะนำไปบริจาคให้โรงพยาบาล เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย และไม่ให้มีปัญหาข้อกฎหมายว่า ด้วยการใช้เงินจากการบริจาค