อาชญากรรม

'แอม' สารภาพลักทรัพย์ 'ก้อย' แต่ยันไม่ได้ฆ่า

โดย panwilai_c

13 พ.ค. 2566

93 views

จากการสอบสวน นางสรารัตน์ หรือ แอม ล่าสุดวันนี้ยังไม่รับสารภาพว่าวางยาพิษเหยื่อ ที่เสียชีวิต แต่ยอมรับว่าได้ลักทรัพย์เฉพาะกระเป๋าและโทรศัพท์ไอโฟนของ นส.ศิริพร หรือก้อยไปเท่านั้น ส่วนทรัพย์สินอย่างอื่นไม่ได้ลักขโมยไป ขณะที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าสัปดาห์หน้าจะออกหมายจับเพิ่มอีก 2 คน



พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปซักถาม นางสรารัตน์ หรือแอม ผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ ในทัณฑสถานหญิงกลาง พร้อมพา นส.แก้ว หญิงที่ นางแอมต้องการให้เป็นพยานไปพบด้วย



พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เปิดเผยหลังจากเข้าไปซักถามนางแอม ว่า นางแอมรับในประเด็นที่ส่งกระเป๋า และทรัพย์สินบางส่วนของนางสาวก้อย ผู้เสียชีวิต ไปให้กับนางสาวแก้ว เนื่องจากจำนนต่อหลักฐาน แต่ไม่ยอมรับว่าก่อเหตุฆาตกรรม รวมทั้งเงิน 50,000 บาท ของนางสาวก้อย โดยอ้างว่าไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋า ส่วนโทรศัพท์ยี่ห้อไอโฟนของนางสาวก้อย ยอมรับว่านำไปทิ้ง เนื่องจากสามารถติดตามพิกัดได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนก็จะเข้ามาสอบสวนอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ส่วนทองคำของนายแด้ อดีตสามี นางสาวแอมก็ยอมรับว่านำไปขายที่ร้านทอง แต่ปฏิเสธไม่รู้เรื่องที่นายแด้เสียชีวิต



พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังระบุว่า นางสาวแอม ให้การกับตำรวจทั้งหมดถึงสาเหตุการส่งทรัพย์สินของนางสาวก้อยไปให้นางสาวแก้ว ที่ จ.เพชรบุรี แต่เปิดเผยรายละเอียดไม่ได้เพราะต้องนำไปรวบรวมไว้ในสำนวนคดี โดยนางสาวแก้ว ยังไม่มีความผิดร่วมฐานลักทรัพย์ เนื่องจากมีเจตนานำของกลางมาให้ตำรวจตรวจสอบ



ส่วนนางสาวแก้ว ซึ่งเคยรู้จักกับนางแอม มาตั้งแต่ปี 2563 และเคยให้เงินจำนวน 1 แสนบาท กับ นางแอมเพื่อไปปล่อยเงินกู้ และเคยถูกนางแอม วางยาไซยาไนด์ แต่ไม่เสียชีวิต โดย นส.แก้วไม่ต้องการแจ้งความเอาผิดกับ นางแอม และเป็นคนที่นางแอม

ไว้วางใจ และเป็นคนแนะนำให้รู้จักกับทนายพัช มาช่วยเหลือทางคดี



ส่วนการขอเปลี่ยนทนายความของนางสาวแอม พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่มีผลทางคดี เป็นเพียงวิธีการของผู้ต้องหาเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะยังปฏิเสธ แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานที่จะเชื่อมโยงการก่อเหตุได้ทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงข้อมูลเส้นทางการเงินที่รอตอบกลับมาจากธนาคาร รวมทั้งต้นตอผู้สั่งสั่งซื้อไซยาไนด์ให้กับนางแอม เชื่อว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งให้อัยการในบางคดีได้ภายในสัปดาห์หน้า และจะออกหมายจับผู้ใกล้ชิดนางแอม 1-2 คน ในสัปดาห์หน้าเช่นกัน



ส่วนการพูดคุยกับนางแอม วันยังคงร้องไห้สลับกับหัวเราะ ไม่มีความเครียดมากนัก ด้านนายชินคุปต์ ไทยยะกร ที่ถูกนางแอมแต่งตั้งให้เป็นทนายเพื่อขอคำปรึกษาในเรือนจำ ก็ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นทนายความในคดีให้กับนางแอม แต่ขณะเข้าไปพบลูกความของตัวเอง นางแอมได้รับคำแนะนำจากเพื่อนผู้ต้องขังด้วยกันให้มาขอคำปรึกษาเท่านั้น และเห็นว่า



ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ซึ่งยากต่อการต่อสู้คดี เพราะในครั้งแรกที่จะเข้าให้คำปรึกษา เข้าใจว่านางแอมจะรับสารภาพ และจะบอกถึงขั้นตอนการต่อสู้คดี ซึ่งในมุมมองของนักกฎหมายก็เห็นว่า คดีนี้หากจะต่อสู้คดีก็เป็นเรื่องยาก เนื่องจากพยานหลักฐานที่ปรากฏตามสื่อมวลชนค่อนข้างชัดเจน

คุณอาจสนใจ

Related News