คุม 4 ผู้ต้องสงสัย คดีฆ่าโหด 4 ศพ มุ่งปมยาเสพติด

เจ้าหน้าที่ควบคุม 4 ผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมอำพราง 4 ศพที่อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาสไว้แล้ว พบประวัติ 1 ใน 4 ผู้ต้องสัยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด มือปืนรับจ้าง และต้องโทษจำคุกมาแล้วหลายครั้ง



เมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมาต่อเนื่องถึงเที่ยงวันนี้ เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมผู้ต้องสงสัย 4 คน ไปสอบสวนขยายผลที่กรมทหารพรานที่ 46 อ.เมืองนราธิวาส ซึ่งทราบว่า 1 ในผู้ต้องสงสัยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งเป็นมือปืนรับจ้าง ที่มีประวัติเข้าออกเรือนจำหลายครั้ง การควบคุมตัวครั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถยึดอาวุธปืนพก ขนาด .32 มม.และอาวุธปืน ขนาด 9 มม. รวม 2 กระบอกเป็นของกลาง



ผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 ถูกควบคุมตัวในคดีที่มีคนร้ายใช้อาวุธปืนสังหาร 4 ศพ ก่อนที่จะแยกย้ายอำพรางไปทิ้งไว้ 2 จุด จุดที่ 1 ใช้รถยนต์โตโยต้ารุ่นยาริสเป็นพาหนะในการอำพราง 3 ศพในกระโปรงท้ายรถ จุดที่ 2 นำไปทิ้งในแม่น้ำโก-ลก ช่วงบ้านไอร์ปาเซ ต.ฆอเลาะ อ.แว้ง ซึ่งทั้ง 2 จุด ห่างกันประมาณ 20 กิโลเมตร



ส่วนการตรวจค้นเพื่อค้นหาพยานหลักฐานทางคดีวันนี้ พ.ต.ท.สุพจน์ เรืองรุ่งโรจน์ รองผู้กำกับการปราบปรามสถานีตำรวจภูธรบูเก๊ะตา สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรแว้ง เดินทางไปยังบ้านไม่มีเลขที่หลังหนึ่ง ซึ่งปลูกสร้างในสวนปาล์ม บ้านกรือซอ ต.แว้ง ซึ่งคาดว่าเป็นจุดที่กลุ่มคนร้ายใช้เป็นสถานที่ในการอาวุธปืนสังหารเหยื่อทั้ง 4 ศพ



ข้อมูลจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้สถานที่สังหารโหด 4 ศพ เปิดเผยว่า บ้านไม่มีเลขที่หลังดังกล่าวในช่วงเวลาประมาณ 22.00 น.ของคืนวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นกว่า 10 นัด แต่ไม่มีชาวบ้านคนใดให้ความสนใจ เนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นแหล่งมั่วสุ่มของกลุ่มวัยรุ่น และเจ้าของบ้านไม่มีเลขที่ดังกล่าวถือว่าเป็นคนที่ชาวบ้านเกรงกลัว โดยบางคนยังถูกข่มขู่ไม่ให้แจ้งเรื่องหรือนำเรื่องดังกล่าวไปพูด หรือบอกให้ใครทราบไม่เช่นนั้นจะไม่รับรองความปลอดภัย แม้มีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยมาสอบถาม ชาวบ้านส่วนใหญ่มักบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ไม่ทราบ ไม่รู้ ไม่ได้ยิน โดยไม่มีใครกล้าให้ความร่วมมือ จนเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 ไปจากบ้านดังกล่าว



ด้านเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีได้เปิดเผยเป็นการส่วนตัวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานที่มีความเชื่อมโยงกัน อาทิ หัวกระสุนปืนที่ผ่าออกมาจากศพทั้ง 4 ว่าตรงกันอาวุธปืนที่ยึดได้มา 2 กระบอกหรือไม่

รวมทั้งหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คน ไปตรวจสอบว่าก่อนเสียชีวิตในหลัง 1 วัน ได้โทรศัพท์ไปติดต่อกับผู้ใด และซิมการ์ดที่ติดในกระจกส่องหลังของรถยนต์เก๋งรุ่นยาริส ที่คนร้ายได้โยนทิ้งลงในบึงน้ำ สามารถบันทึกพฤติกรรมของบุคคลใดได้บ้าง



ซึ่งขณะนี้ถือว่าแนวทางการสืบสวนสอบสวน ได้เดินทางมาถูกจุดแล้ว รอเพียงนำผลพิสูจน์วัตถุพยานที่เก็บรวบรวมได้ในจุดเกิดเหตุ ไปปะติดปะต่อกัน ซึ่งเชื่อว่าคงใช้เวลาอีกไม่นานเจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ และเบื้องต้นให้น้ำหนักร้อยละ 80 เป็นเรื่องของยาเสพติด