ไทยเตรียมส่ง ตร.เร่งไขคดีฆ่าผัวเมียที่ไต้หวัน หลัง 'หวัง' ยันไม่ได้ฆ่า แต่ลวงไปพบมาเฟีย

ไทยเตรียมส่งตำรวจกองปราบปรามไปสืบสวนคดีฆาตรกรรมสองสามีภรรยาที่ไต้หวัน หลังจากนายสันติ หรือหวัง ผู้ต้องหา ให้การภาคเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่า แต่เป็นเพียงผู้ลวงสองสามีภรรยาไปให้กลุ่มคนร้าย ซึ่งมีความขัดแย้งกับสองสามีภรรยาในธุรกิจผิดกฎหมาย เป็นผู้ลงมือ แต่ที่หลบหนีมาประเทศไทยเพราะเกรงจะถูกตามฆ่า



เหตุฆาตรกรรม สะเทือนขวัญ ที่เกิดขึ้น ที่ลานจอดรถ ในเมืองซินเปย ไต้หวัน เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 พบศพสองสามีภรรยา ถูกทิ้งไว้ในรถยนต์ และวันที่ 9 มิถุนายน



นายสันติ หรือ หวัง เดินทางกลับประเทศไทย วันที่ 10 มิถุนายน ได้หลบหนีไปตามแนวชายแดน ฝั่ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ทันที กระทั่งถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่อย่างหนัก นายสุชาติผู้เป็นบิดา ได้ติดต่อให้เดินทางมามอบตัววันนี้ ที่บ้านอรุโณทัย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่



เมื่อเดินทางมายังกองบัญชาการสอบสวนกลางพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

และพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สอบสวนเบื้องต้น นายสันติให้การภาคเสธอ้างว่าไม่ได้เป็นคนฆ่านายมาร์คและล่ามมี่ แต่ยอมรับว่าได้ลวงนายมาร์คและล่ามมี่ไปพบบุคคลอีกกลุ่ม ที่สองสามีภรรยารู้จักมาก่อน เป็นกลุ่มมาเฟีย ที่ผู้ต้องหาขัดแย้งกันเรื่องธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งตำรวจต้องดูพยานหลักฐาน จากข้อมูลที่ตำรวจไต้หวันส่งมาประกอบ



คดีฆาตรกรรมนี้ ทางการไต้หวันระบุว่า เป็นคดีที่ได้รับความสนใจ จากคนไทยและไต้หวันเป็นอย่างมาก โดยคดีนี้จะดำเนินคดีในไทย เนื่องจากผู้กระทำเป็นคนไทย และญาติของผู้เสียชีวิตได้มาร้องขอให้ลงโทษในราชอาณาจักรไทย



พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางระบุว่า จากคำให้การเบื้องต้น นายสันติยืนยันไม่ได้ก่อเหตุ โดยหลักฐานจากนิติวิทยาศาสตร์สามารถตรวจสอบได้ โดยนายสันติระบุว่ากลุ่มคนร้ายได้บังคับให้นำศพไปทิ้ง ซึ่งตำรวจคงต้องหาพยานหลักฐานต่อ คาดว่าจะส่งตำรวจกองปราบไปยังไต้หวัน โดยนายสันติ จะไม่ถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่ไต้หวัน จะถูกส่งฟ้องและฝากขังในไทย หลังจากสอบสวนภายใน 48 ชั่วโมง