อาชญากรรม
ล่าหัว 'หวัง' มือฆ่า 2 ผัวเมียพร้อมลูกแฝด ที่ไต้หวัน ตร.เชื่อ ยังกบดานอยู่ที่ไทย
โดย kodchaporn_j
14 มิ.ย. 2565
190 views
คดีฆาตกรรม สองสามีภรรยาชาวไทย พร้อมลูกแฝดในครรภ์ เหตุเกิดที่ไต้หวัน แต่ผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนไทย ที่โอนไปใช้สัญชาติไต้หวัน ได้หลบหนีเข้าประเทศไทยมาได้อย่างน้อย 4 วันแล้ว และพบความเคลื่อนไหว ที่จังหวัดเชียงใหม่
ผู้ต้องหารายนี้ ชื่อสันติ ศุภอภิรดีไพลิน หรือ นายหวัง ก่อเหตุฆาตกรรม นายประเสริฐ หรือ มาร์ค และ นางสาวพจนีย์ หรือ ล่ามมี่ สองสามีภรรยาชาวไทย โดยที่ล่ามมี่ ตั้งครรภ์ลูกฝาแฝดได้ 5 เดือน แล้วนำศพใส่รถ BMW ไปจอดที่ลานจอดรถ หน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน เหตุนี้เกิดขึ้นช่วงกลางคืนของวันที่ 8 มิถุนายน จากนั้นนายหวังได้เดินทางกลับมาประเทศไทย และขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี
ล่าสุดพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ซึ่งได้รับการประสานจากตำรวจไต้หวัน ให้ช่วยติดตามตัวนายหวัง ได้ขออนุมัติศาลอาญารัชดา ออกหมายจับ นายหวัง แล้ว ซึ่งขณะนี้ ตำรวจกองปราบปราม ได้ลงพื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งในอำเภอสันทราย อำเภอไชยปราการ ซึ่งเป็นบ้านของผู้ต้องหา แต่ยังไม่พบตัว
ขณะที่พลตำรวจโท ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 รับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือ เปิดเผยว่า ได้ประสานไปยัง ตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 3 เพื่อป้องกันและสกัดกั้นเส้นทางที่คาดว่า นายสันติ อาจจะหลบหนีออกนอกประเทศ แต่เชื่อว่าผู้ต้องหายังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย
ตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด วันที่ 9 มิถุนายน เวลา 21.48 น. โดยประมาณ พบรถยนต์ต้องสงสัยคันหนึ่ง วิ่งผ่านในพื้นที่บ้านใหม่หนองบัว ตำบลหนองบัว อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่
พ่อของนายสันติ ให้ข้อมูลว่า นายสันติ ขับรถยนต์มาจาก บ้านที่อำเภอสันทราย ก่อนจะมานอนพักที่บ้านใหม่หนองบัว อำเภอไชยปราการ 1 คืน จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งลูกไปโรงเรียน โดยขณะนั้นลูกชายไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ซึ่งหลังจากส่งลูกไปโรงเรียนแล้ว นายสันติ ก็เอารถจักรยานยนต์มาเก็บ จากนั้นก็หายออกจากบ้านไป จนถึงขณะนี้ไม่สามารถติดต่อได้ โดยครอบครอบครัวพยายามทักผ่านไลน์กลุ่ม แต่นายสันติไม่ได้ตอบแต่อย่างใด
ขณะที่ข้อมูลของตำรวจระบุว่า หลังจาก นายสันติ มาถึงสนามบินเชียงใหม่ ก็เดินทางด้วยรถรับจ้างสาธารณะ เข้ามาบ้านที่ อำเภอสันทราย จากนั้นก็มี รถอีซูซุมิวเอ็กซ์ มารับจากบ้านที่อำเภอสันทรายเพื่อไปบ้านที่อำเภอไชยปราการในคืนนั้นเลย จนมีผู้พบเห็น นายสันติที่บ้าน และแจ้งเบาะแสกับตำรวจ ซึ่งบ้านที่อำเภอไชยปราการ เป็นบ้านที่อยู่ใกล้กับ 1 ในผู้เสียชีวิต คือ นางสาวพจนีย์
อีกด้านหนึ่ง พี่ชายของนางสาวพจนีย์ ได้เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อติดตามคดี พร้อมเปิดเผยข้อมูลว่า สาเหตุการลงมือฆ่าครั้งนี้ มาจากที่นายสันติ ได้ยืมเงินน้องสาวของตน 8 แสนบาท และสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 15 บาท และยังไม่ได้คืน ก่อนหน้านี้มีการทวงถาม โดยให้ทนายความเข้ามารับรู้ และเป็นคนกลางในการเจรจา
โดยล่าสุดที่ได้คุยกับน้องสาวครั้งสุดท้าย คือ ช่วง 2 ทุ่ม ของวันที่ 8 มิถุนายน น้องสาวยังบอกว่ากำลังจะพาแม่ กับน้องสาวไปหาหมอ และจะไปเจรจาเรื่องทรัพย์สิน เนื่องจากนายหวังเป็นคนนัด