อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ ชวนนักอุตสาหกรรมเตรียมทะยานสู่เส้นทางความสำเร็จ กับ 8 งานแสดงเครื่องจักร-เทคโนโลยีในมหกรรมเดียว “แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป 2023”

อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ เตรียมพร้อมจัดงานใหญ่ “แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป (Manufacturing Expo) 2023” มหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมสนับสนุนที่ครบครันที่สุดในอาเซียน พบกับงานแสดงสินค้าเฉพาะทาง 8 งาน และพื้นที่พาวิลเลี่ยนนานาชาติจาก 6 ประเทศและเขตปกครองพิเศษ ชมสุดยอดเทคโนโลยีเครื่องจักรและบริการล้ำสมัยกว่า 2,000 แบรนด์จาก 30 ประเทศ พร้อมจับมือหน่วยงานภาครัฐ เติมอาหารสมองให้นักอุตสาหการด้วยสุดยอดสัมมนาทางวิชาการกว่า 50 หัวข้อ ตั้งเป้าคนชมงานปีนี้ไม่ต่ำกว่า 70,000 คน

นางวราภรณ์ ธรรมจรีย์ กรรมการผู้จัดการ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ (RX Tradex เดิมชื่อ รี้ด เทรดเด็กซ์) กล่าวถึงมหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมสนับสนุนที่ครบครันที่สุดในอาเซียน หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป (Manufacturing Expo 2023) ว่า ในปีนี้ กำหนดจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 21-24 มิถุนายน 2566 นี้ โดยจัดเต็มพื้นที่ของศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ฮอลล์ 98-104

“งาน แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลักคือ ‘The Path’ ที่หมายถึง ‘เส้นทาง’ เพราะเราต้องการสื่อว่า นักอุตสาหกรรมที่มาเยี่ยมชมงานนี้ จะได้พบกับ ‘เส้นทาง’ สู่ความสำเร็จ โดยในปีนี้จะมีความยิ่งใหญ่มากกว่าปีที่แล้ว โดยบางงานมีขนาดใหญ่กว่าเมื่อปีก่อนโควิดเสียอีก เพราะปีนี้ผู้แสดงสินค้าชาวต่างชาติมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก หลังจากห่างหายไม่สามารถมาร่วมงานได้เป็นเวลาสองปี งานในปีนี้เราจึงจะได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นจากหลายประเทศ รวมทั้งในพาวิลเลี่ยนนานาชาติจาก 6 ประเทศและเขตปกครองพิเศษ ได้แก่ เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน และฮ่องกง”

แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป ประกอบไปด้วย 5 งานแสดงเฉพาะทางสำหรับหลากสาขาอุตสาหกรรม ได้แก่

1. อินเตอร์พลาสไทยแลนด์ (InterPlas Thailand) งานแสดงเครื่องจักร เทคโนโลยี เคมีภัณฑ์ วัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมพลาสติก เช่น เครื่องฉีดพลาสติกแบบใช้ไฟฟ้าจากทั่งฝั่งยุโรปและเอเชียสำหรับการผลิตทั้งอุปกรณ์การแพทย์และสินค้าใช้แล้วทิ้ง

2. อินเตอร์โมลด์ไทยแลนด์ (InterMold Thailand) งานแสดงเทคโนโลยีการผลิตแม่พิมพ์และชิ้นส่วนแม่พิมพ์ เช่น ทูลส์และทูลลิ่ง

3. ออโตโมทีฟ แมนูแฟกเจอริ่ง (Automotive Manufacturing) งานแสดงเทคโนโลยีเพื่อการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ครบวงจร เช่น เครื่องแปรรูปโลหะแผ่น (Sheet Metalworking) เครื่องตัดด้วยเลเซอร์ และเครื่องตรวจวัด (Metrology)

4. แอสเซมบลี แอนด์ ออโตเมชั่น เทคโนโลยี (Assembly & Automation Technology) งานแสดงระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์เพื่อภาคการผลิตและภาคบริการ และเทคโนโลยีการประกอบ

5. เซอร์เฟส แอนด์ โค้ทติ้งส์ (Surface & Coatings) งานแสดงเทคโนโลยีการเตรียมพื้นผิว ชุบเคลือบ และทำสีชิ้นส่วน

นอกจากนั้น ทั้ง 5 งานยังจัดพร้อมกับอีก 3 งานแสดง ได้แก่

1. เนปคอนไทยแลนด์ (NEPCON Thailand) งานแสดงเทคโนโลยีการประกอบ ตรวจวัด และทดสอบ สำหรับการผลิตอิเล็กทรอนิกส์  

2. แฟ็กเทค (FacTech) งานแสดงเดียวในอาเซียนเพื่อการออกแบบและก่อสร้าง การบริหารจัดการพลังงานความปลอดภัย และระบบเครือข่ายในโรงงานและอาคาร  

3. จีเอฟที (GFT) งานแสดงเทคโนโลยีด้านเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอที่ครอบคลุมที่สุดในอาเซียน นำเสนอเทคโนโลยีทั้งการเย็บ การพิมพ์ การปัก สิ่งทอคุณสมบัติพิเศษ และบริการจากผู้รับผลิต (OEM) สำหรับหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งยานยนต์ บรรจุภัณฑ์ การแพทย์ ของตกแต่งบ้าน และอีกมาก

นอกจากการแสดงเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตแล้ว ภายในงานยังจัดให้มีส่วนแสดงพิเศษ อาทิ “Sustainovation Showcase” ซึ่งเป็นครั้งแรกในไทยที่มีการแสดงกระบวนการผลิตพลาสติกชีวภาพตั้งแต่การป้อนวัตถุดิบชีวภาพเข้าไปในเครื่องฉีดจนออกมาเป็นสินค้าที่ได้รับการเตรียมพื้นผิวเพื่อนำไปใช้งาน โดยได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ตั้งแต่เจ้าของวัตถุดิบชีวภาพอย่างกลุ่มมิตรผล, บริษัท เองเกิ้ล แมชชีนเนอรี่ (ประเทศไทย) (Engel Machinery) เจ้าของเครื่องฉีด, บริษัท โมตัน (Motan) เจ้าของอุปกรณ์สนับสนุนการฉีด, สมาคมอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ไทย (TDIA) และสมาคมเครือข่ายอุตสาหกรรมชุบโลหะไทย (TEPNET)

ไม่เพียงเท่านี้ ยังจะมีการแข่งขันค้นหาสุดยอดช่างเชื่อม ใน IPC Hand Soldering & Rework Competition ให้ผู้ชมงานได้ร่วมลุ้นการแข่งขันยอดฝีมือด้านการบัดกรี โดยตัดสินจากความแม่นยำและทักษะในการบัดกรีตามมาตรฐานที่กำหนด ผู้ชนะจะได้เป็นตัวแทนภูมิภาคอาเซียนเข้าร่วมการแข่งขัน IPC Hand Soldering World Championship ที่ประเทศเยอรมนี

นอกจากนี้ ผู้ชมงานยังจะได้รับชมเนื้อหา เทคโนโลยี และรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่จะมาจัดแสดง ทั้งผู้ให้บริการในส่วนแสดงพิเศษ “Tools & Tooling Zone” และ “Metrology Zone” ที่นักอุตสาหกรรมสามารถเยี่ยมชมเทคโนโลยีจากแบรนด์ดังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้

ในส่วนของงานสัมมนา ในปีนี้ นอกจากสัมมนาแห่งวงการยานยนต์อย่าง “ออโตโมทีฟ ซัมมิท” (Automotive Summit) ที่จัดร่วมกับสถาบันยานยนต์มาครบ 10 ปีในปีนี้แล้ว ภายใต้หัวข้อ “พลิกโฉมอนาคตอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย” ยังมีสัมมนา “พลาสติก ฟอรั่ม” (Plastics Forum) ที่จัดร่วมกับสถาบันพลาสติก ในหัวข้อ “นวัตกรรมแห่งอนาคต สร้างชีวิตใหม่ให้พลาสติก” และ “เซอร์เฟส แอนด์ โค้ทติ้งส์ ฟอรั่ม” (Surface & Coatings Forum) ซึ่งจัดร่วมกับ TEPNET ในหัวข้อ “Global Industrial & Technology Landscapes in Surface Finishing Industry of the Post-COVID World” เมื่อรวมกับหัวข้อสัมมนาอื่นๆ แล้ว ทำให้ในปีนี้มีหัวข้อสัมมนารวมถึง 50 หัวข้อด้วยกัน

“ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เราได้รับความสนใจจากทั้งผู้แสดงสินค้าและผู้ชมงานจำนวนมากถึงการจัดงาน แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป ซึ่งนั่นสะท้อนถึงความต้องการและความพร้อมในการพบปะเพื่อเจรจาธุรกิจเพื่อนำไปพัฒนาการผลิตและธุรกิจ ทำให้เราเชื่อว่างานในปีนี้จะมีความคึกคักและมีเงินสะพัดที่เกิดจากการลงทุนภายในงานมากกว่าเดิม เพราะในขณะนี้ก็มีผู้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อเข้าชมงานแล้วจากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ทั้งจากทวีปอเมริกา ยุโรป แอฟริกา และเอเชีย โดยในปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานประมาณ 70,000 คน และคาดว่าจะมีมูลค่าการเจรจาธุรกิจภายในงานไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านบาท” นางวราภรณ์สรุป

งาน แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป 2023 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 24 มิถุนายน 2566 ณ ไบเทค บางนา ผู้สนใจเข้าชมงาน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้าได้ที่ www.manufacturing-expo.com พร้อมลุ้นรับของที่ระลึก สอบถามเพิ่มเติมติดต่อโทร. 0 2686 7222 หรืออีเมล contactcenter@rxtradex.com