เปิดใจทหารกล้าสูญเสียตาซ้าย หลังปกป้องอธิปไตยชาติเหตุปะทะชายแดน ไม่เสียใจ ทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน

สังคม

เปิดใจทหารกล้าสูญเสียตาซ้าย หลังปกป้องอธิปไตยชาติเหตุปะทะชายแดน ไม่เสียใจ ทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน

19 ส.ค. 2568

93 views

เปิดใจทหารกล้าสูญเสียตาซ้าย จากเหตุปะทะชายแดน บอกไม่เสียใจ มันคือการทำหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทย หากหายจะขอกลับไปช่วยเหลือประเทศต่อ ขณะที่ป้าเผยหลานชายแม้ดูเหมือนปกติ แต่ยังกังวลหวาดระแวง มักใช้มือป้องหน้า-บอกทุกคนหลบ ต้องพบแพทย์ต่อเนื่อง


ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ บ้านในม.4 ต.ประชาสุขสันต์ อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร โดยเป็นบ้านของ พลทหารตะวัน สิงห์เรือง อายุ 21 ปี เล่าด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เผยนาทีเกิดเหตุปะทะกันอย่างดุเดือด ระหว่างกองกำลังทหารไทยกับทหารกัมพูชา ที่ภูมะเขือ จ.อุบลราชธานี ส่งผลให้มีทหารได้รับบาดเจ็บหลายนาย โดยหนึ่งในนั้นคือตนเอง ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดจนสูญเสียการมองเห็นที่ตาข้างซ้าย


เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่พลทหารตะวัน กำลังปฏิบัติหน้าที่สำคัญปกป้องอธิปไตย จากนั้นมีลูกระเบิดยิ่งจากฝั่งตรงข้ามตกลงมา ทำให้พลทหารตะวันและเหล่ากล้าได้รับบาดเจ็บ


หลังเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว จากนั้นได้เดินทางกลับมาพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ซึ่งมีเพียงดวงตาข้างขวาเพียงอย่างเดียวที่ใช้มอง ส่วนข้างซ้ายได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิด และขาข้างขวากระดูกแตกเดินไม่คล่องแคล่ว ยามนอนหลับจะมีอาการเพ้อสะดุ้งตื่นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้นอนไม่หลับ ตนไม่เสียใจ เพราะมันคือการทำหน้าที่ของลูกผู้ชายไทยที่ได้ปกป้องผืนแผ่นดินไทย


ซึ่งในส่วนของสถานการณ์การสู้รบตอนนี้ยังไม่จบ ตนยังอยากที่จะกลับไปช่วยเหลือเพื่อนทหารด้วยกันในการป้องกันประเทศ แต่ติดตรงเรื่องของอาการเจ็บที่ตาซึ่งต้องพักรักษาตัวอยู่ในตอนนี้


ในช่วงก่อนที่จะถูกเรียกตัวไปแนวหน้าตนได้พูดคุยกับเพื่อนว่า หากถูกเรียกตัวไปแนวหน้าตนเองก็อยากไป เต็มใจที่จะไปช่วย โดยเหตุการณ์ในวันที่ถูกระเบิดถล่ม ตนเองและเพื่อนทหารคนอื่นนั่งหลบอยู่ในคูเวต ซึ่งทหารรุ่นน้องก็ได้ปรับวิทยุซึ่งก็อาจไม่รู้ว่าข้าศึกฝั่งตรงข้ามจะสามารถระบุพิกัดโจมตีได้ ซึ่งหลังจากถูกระเบิดก็หมดสติทุกคน จนมีหัวหมู่มาปลุกตนให้ตื่น ซึ่งก็ได้ช่วยทหารรุ่นน้องให้หลบเข้ามาในหลุม โดยตนเองได้ใช้ตัวกันไว้ หากตาหาย ตนก็อยากกลับไปทำหน้าที่ช่วยเหลือแนวหน้าให้จบ เพราะเป็นความฝันของชายชาติทหารที่จะไม่ยอมให้เขมรมาทำร้ายคนไทยเด็ดขาด


ด้าน นางศรสวรรค์” อายุ 43 ปี ป้าที่เลี้ยงดูพลทหารตะวันมา เล่าให้ฟังว่า “สภาพจิตใจของน้องตอนนี้ไม่ดีนัก ดูจากภายนอกอาจจะดี แต่ภายในตนในฐานะที่เลี้ยงพลทหารตะวันมาตั้งแต่เด็ก สภาพมีความกังวลหวาดระแวง พอได้ยินเสียงอะไรจะมีความผวาขาจะขยับตลอดเหมือนวิ่งไปไหนสักแห่ง ส่วนมือจะปกป้องที่ใบหน้า แล้วจะได้ยินเสียงพูดออกมาให้ทุกคนหลบ ซึ่งได้พบแพทย์อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าพลทหารตะวันจะกลับมาด้วยการเสียดวงตา ตนเองมีความภาคภูมิใจที่พลทหารตะวัน ได้รับใช้ชาติอย่างลูกผู้ชายชาติทหาร

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ