ความคืบหน้ากรณีกลุ่มคนร้าย 4 คน อ้างตัวเป็นตำรวจก่อเหตุ ฉุดกระชากแล้วอุ้ม นายหลิน อี้ฟาน อายุ 52 ปี ชาวจีน ขึ้นรถเอสยูวี สีขาว ริมถนนพัทยาเหนือสาย 3 ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนพานั่งรถไปตามถนนใช้อาวุธปืนจี้ จับมือไพล่หลัง ก่อนจะปล้นเอาทรัพย์สิน ทั้ง โทรศัพท์มือถือ,เงินสด ,ไปจนหมดตัว ก่อนจะพาไปปล่อยทิ้งไว้ที่ริมถนนทางรถไฟ ย่านซอยชัยฤกษ์ 2 หน้าสนามยิงปืน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 9 กม.


หลังจากติดต่อให้คนมาช่วย ยังพบว่าเงินในบัญชีธนาคารประเทศจีน ถูกโอนออกผ่านแอปพลิเคชัน ประมาณ 1.5 แสนบาท ซึ่งรวมทรัพย์สินและเงินสดในธนาคาร ที่ถูกคนร้ายก่อเหตุไป เป็นเงินกว่า 2.3 แสนบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ก.ค.68 เวลา 05.30 น. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น


ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 ก.ค.68 ผลการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ2 , พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ในคดีนี้เป็นการร่วมมือบูรณาการของตำรวจหลายฝ่าย อาทิ ตํารวจภูธรภาค 2, ตำรวจสํานักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) , ตำรวจกองบัญชาการตํารวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) , ตำรวจสืบสวน ภ.จว.ชลบุรี และ ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา (ท้องที่เกิดเหตุ) เร่งแกะรอยจากกล้องวงจรปิด จนพบรถยนต์ BYD สีขาว ทะเบียน กรุงเทพ ใช้เป็นพาหนะก่อเหตุ


จากการสืบสวน ติดตามจับกุมคนร้ายทุกมิติ จนนําไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ได้แก่ นายลองติ้ง อายุ 37 ปี (สัญชาติจีน) , นายจางโจว อายุ 63 ปี (สัญชาติจีน) , นายศิริพงษ์ อายุ 35 ปีและ นายฐิติพงศ์ อายุ 28 ปี ซึ่งคนไทยที่จับกลุ่มได้ เป็นบุคคลที่ปรากฏในคลิปลักษณะหัวเกรียน


โดยทั้งหมดให้การสารภาพว่า เป็นบุคคลที่ปรากฏในภาพจากกล้องวงจรปิดจริง โดยให้การว่า ได้รับการ ติดต่อจากชายชาวจีนชื่อ นายเฮา ให้ว่าจ้าง มาก่อเหตุปล้นทรัพย์ นายหลิน ผู้เสียหาย จึงได้มีการร่วมกันวางแผนเดินทางจากกรุงเทพฯ เข้ามาก่อเหตุในเมืองพัทยา


โดย นายจางโจว ทำหน้าที่ขับรถมาส่งให้นายลองติ้ง ก่อนขับไปรับชายชุดดำชาวไทย 2 ราย จากนั้นจึงไปลงมือก่อเหตุ หลังทิ้งผู้เสียหายแล้ว ได้ขับรถกลับมาส่งชายชุดดำลงจากรถ และรับตัวนายจางโจว ก่อนขับหลบหนีเข้าพื้นที่ จ.มีนบุรี และนำเงินมาแบ่งกัน ส่วนโทรศัพท์มือถือที่ได้นำไปโยนทิ้งน้ำ


หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงเดินหน้ากดดันอย่างต่อเนื่อง จนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้ พร้อมติดตามตรวจยึดรถยนต์คันก่อเหตุได้ที่บ้านพักในพื้นที่มีนบุรี ส่วนทรัพย์สินอื่น ๆ อยู่ระหว่างติดตามคืน ซึ่งยืนยันแล้วว่า ผู้ต้องหาไม่ใช่แก๊งตำรวจ เป็นเพียงกลุ่มคนร้ายที่ต้องการประสงค์ต่อทรัพย์เท่านั้น



เบื้องต้น พนักสอบสวนได้แจ้งข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน เพื่อขยายผลรวบรวมพยานหลักฐาน ในการติดตามตัว นายเฮา หยง ผู้บงการมาดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป