วันที่ 26 มี.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวหนึ่งได้รับแจ้งว่า ลูกชายวัย 17 ปี ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ส่วนเพื่อนที่ไปด้วย อาการสาหัสอยู่ไอซียู กระทั่งครอบครัวเดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาล นำกลับมาบำเพ็ญกุศลตามศาสนา

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบกับ นายวัชรินทร์ ธานีรัตน์ รองนายก อบต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เล่าว่า เมื่อค่ำวันที่ 23 มี.ค. 68 นายพงศภัค อายุ 17 ปี ลูกชายของตน และนายธนกฤต อายุ 16 ปี เพื่อนของลูกชาย ไปเที่ยวงานคอนเสิร์ตแห่งหนึ่งใน จ.พัทลุง ระหว่างทาง ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ชนท้ายรถเทรลเลอร์ ทำให้ลูกชายและเพื่อน ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ควนขนุน จ.พัทลุง โทรศัพท์มาแจ้งตนว่า ลูกชายของตนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ยอมรับว่าตอนแรกตนยังรู้สึกงง เพราะลูกชายไม่ได้พกเอกสารประจำตัว แต่หลังรับแจ้งจากตำรวจแล้ว ตนรีบเดินทางไปที่โรงพยาบางพัทลุง ณ เวลานั้นยอมรับว่าเสียใจ ไม่ได้คิดอะไร ก่อนที่ตนจะเปิดศพดูหน้าลูกชาย ก็พบว่าสภาพมีบาดแผลฉกรรจ์และผ้าพันแผลเกือบเต็มใบหน้า ส่วนคอ แขน และลำตัว ทำแผลเข้าเฝือก มีผ้าพันแผลเช่นเดียวกัน ตนจึงไม่ได้เอะใจหรือสงสัยอะไร ก่อนนำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดวัวหลุง หมู่ 2 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เป็นเวลา 3 คืน

นายวัชรินทร์ เล่าอีกว่า ต่อมา นางมณฑิตา อายุ 39 ปี แม่และญาติของนายธนกฤต ไปเยี่ยมลูกที่ห้องไอซียู เกิดความผิดปกติว่า ผู้บาดเจ็บน่าจะไม่ใช่นายธนกฤต ทำให้ตนรู้ว่าศพที่จัดงานบำเพ็ญกุศล ไม่ใช่ศพของลูกชาย ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่าขั้นตอนการพิสูจน์ศพของตำรวจ และโรงพยาบาลมีขั้นตอนอย่างไร ส่วนการจัดงานศพเพื่อนลูกชาย 3 คืนแล้วนั้น ตนไม่ติดใจอะไร ได้พูดคุยกับแม่ของเพื่อนลูกชายแล้ว จะมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศล

ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของนางมณฑิตา แม่ของนายธนกฤต พบว่าไม่มีใครอยู่บ้าน ทราบว่า นางมณฑิตา เดินทางไปโรงพยาบาลพัทลุง โดยผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายทนงศักดิ์ อายุ 22 ปี พี่ชายของนายธนกฤต ให้ข้อมูลสั้นๆ ว่าไม่ทราบเรื่องเช่นกัน