สั่งย้ายแล้ว หนุ่มเวรเปลทำร้ายแม่บ้าน ผอ.รพ.ย้ำไม่ได้เข้าข้างใคร ทำตามระเบียบราชการ

สังคม

สั่งย้ายแล้ว หนุ่มเวรเปลทำร้ายแม่บ้าน ผอ.รพ.ย้ำไม่ได้เข้าข้างใคร ทำตามระเบียบราชการ

18 ก.พ. 2568

947 views

ผอ.รพ.พิมลราช เผยตักเตือนพนักงานเวรเปลชายทำร้ายร่างกายแม่บ้านแล้ว พร้อมกับย้ายไปทำงานหน้าที่อื่นแทน ย้ำทำตามระเบียบราชการไม่ได้เข้าข้างใคร มอบหลักฐานให้ตำรวจไปหมดแล้ว

จากเหตุการณ์ที่นางน้ำผึ้ง อายุ 54 ปี แม่บ้านทำความสะอาดของบริษัทเอกชนที่รับจ้างทำงานให้กับทางโรงพยาบาลพิมลราช ถูกนายปิติ อายุ 40 ปี พนักงานเวรเปลชาย ซึ่งเป็นลูกจ้างรายวัน บันดาลโทสะทำร้ายร่างกายด้วยการผลักนางน้ำผึ้งจนล้มศีรษะฟาดกับพื้นอย่างแรง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังทั้งคู่เกิดมีปากเสียงกันในระหว่างปฎิบัติหน้าที่หน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลในช่วงเช้า ต่อมาทั้งสองฝ่ายได้เจรจาตกลงเรื่องค่าเยียวยากันเป็นเงินจำนวน 5 หมื่นบาท แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลานัดหมายจ่ายเงินงวดแรก นายปิติคนก่อเหตุไม่มีเงินมาจ่ายให้นางน้ำผึ้งตามที่ตกลงกันไว้ ทำให้นางน้ำผึ้งตัดสินใจร้องขอความช่วยเรื่องเพจข่าวต่างๆ เพื่อดำเนินคดีกับนายปิติ

วันที่ 18 ก.พ.68 ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบกับ นพ.เอกวุฒิ ตั้งตรงไพโรจน์ ผอ.รพ.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยนพ.เอกวุฒิ เปิดเผยว่า เบื้องต้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล ตนรู้สึกเสียใจที่มาเกิดเหตุทะเลาวิวาทในสถานที่ราชการแบบนี้ โดยตนได้สั่งลงโทษพนักงานเวรเปลชายคนดังกล่าวด้วยการตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรตามระเบียบราชการ พร้อมกับสั่งย้ายให้พนักงานเวรเปลชายรายนี้ย้ายไปทำงานในแผนกอื่นแล้ว ซึ่งเป็นแผนกที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้คน พร้อมกับติดตามดูพฤติกรรมต่อไป

ทางโรงพยาบาลไม่ได้เข้าข้างใครหรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ส่วนอาการของทางแม่บ้านที่ได้รับบาดเจ็บนั้นหลังเกิดเหตุทางโรงพยาบาลเองก็ดูแลรักษาอาการเป็นอย่างดีเพราะแม่บ้านรายนี้เองก็เป็นคนไข้ของทางโรงพยาบาลอยู่ก่อนแล้ว ทางโรงพยาบาลได้ตรวจดูอาการในเบื้องต้นก่อนจากนั้นจึงส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลบางบัวทองก่อนจะถูกส่งตัวกลับมาพักฟื้นต่อที่โรงพยาบาลพิมลราชเพื่อดูอาการอีกครั้งจนหายดี

นพ.เอกวุฒิ ผอ.รพ.พิมลราช กล่าวว่า ในวันที่เกิดเรื่อง หลังเกิดเหตุตนทราบเรื่องแล้ว จึงได้เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาสอบถามข้อเท็จจริงในทันที ซึ่งทางพนักงานเวรเปลชายรายนี้ก็ยอมรับว่า เขาเกิดบันดาลโทสะจากการโต้เถียงกันกับแม่บ้านทำความสะอาดคู่กรณีจริง ในเรื่องที่แม่บ้านจะเข้าไปทำความสะอาดในห้องฉุกเฉินแต่เกิดการสื่อสารกันไม่เข้าใจ เกิดเป็นการโต้เถียงกัน ทำให้ทางพนักงานเวรเปลรายนี้บันดาลโทสะไปทำร้ายร่างกายด้วยการผลักแม่บ้าน ซึ่งในวันที่ตนเรียกทั้งสองฝ่ายมาสอบถาม ทางพนักงานเวรเปลชายก็ได้ทำการขอโทษแม่บ้านต่อหน้าตนไปแล้ว

นอกจากนี้ตนยังทราบอีกว่าหลังจากนั้นทางพนักงานเวรเปลชายยังได้ไปเยี่ยมพร้อมกับนำกระเช้าดอกไม้ไปขอโทษแม่บ้านที่โรงพยาบาลด้วย ไม่ได้มีพฤติกรรมตามราวีหรือข่มขู่ใดๆ อีก ซึ่งที่ผ่านมาทางพนักงานเวรเปลชายรายนี้เองก็ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกับใครในโรงพยาบาลมาก่อน เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความผิดครั้งแรกของเขาตั้งแต่มาทำงานกับทางโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลจึงได้ลงโทษในเบื้องต้นด้วยการตักเตือนและย้ายงานที่ทำ ไม่ใช่ว่าโรงพยาบาลไม่สั่งลงโทษหรือเข้าข้างพนักงานเวรเปลชาย ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการมีปากเสียงกันแล้วพูดจาไม่ดีใส่กันจนบานปลายกลายเป็นเหตุทะเลาะวิวาทกัน เพราะเกิดบันดาลโทสะ

เรื่องความคืบหน้าในคดีนั้น ทางโรงพยาบาลได้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี โดยได้มอบภาพจากกล้องวงจรปิดตอนเกิดเหตุกับทางพนักงานสอบสวนไปแล้ว ขั้นตอนที่เหลือจึงเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนกับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย เพราะทางโรงพยาบาลได้ดำเนินการตามขั้นตอนของโรงพยาบาลไปแล้ว

แท็กที่เกี่ยวข้อง  พนักงานเวรเปล

คุณอาจสนใจ