สังคม
จับ “นักท่องเที่ยวจีน” ฉีดสเปรย์พ่นหน้าร้าน อ้างตัวเป็นศิลปินบอกเดี๋ยวมาใหม่
6 ก.พ. 2568
317 views
ตำรวจเชียงใหม่จับ “นักท่องเที่ยวจีน” วัย 33 ปี อ้างตัวเป็นศิลปิน ตระเวนฉีดสเปรย์พ่นหน้าร้านขายยาเป็นภาษาจีนว่า “พรุ่งนี้มาที่นี่อีก เจอกันที่นี่อีกครั้ง”
ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่จับนักท่องเที่ยว ชาวจีน มือบอน อ้างตัวเป็นศิลปินนำสีสเปรย์มาพ่นบริเวณประตูเหล็กของร้านค้าก่อนถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก เจ้าของมาเห็นขณะกำลังพ่นพร้อมถ่ายคลิปเกือบเจอเสยปลายคาง โทรแจ้งตำรวจ รวบตัวได้ทันควันหน้าซีดอ้างตัวเป็นศิลปิน
กล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านขายยาแห่งหนึ่งบนถนนบำรุงบุรี ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่บันทึกภาพนักท่องเที่ยวชายชาวจีนผมยาว สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีเทา สะพายกระเป๋าเป้สีดำ เดินมาบริเวณหน้าร้านขายยา จากนั้นจะเห็นได้ว่าชายคนดังกล่าวหยุดอยู่หน้าร้าน เมื่อสบโอกาส จึงได้ล้วงสีสเปรย์ออกมาจาก กระเป๋ากางเกงขาซ้าย ก่อนจะลงมือพ่นสีสเปรย์บริเวณประตูเหล็กหน้าร้าน เป็นตัวหนังสือ ภาษาจีน ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า “พรุ่งนี้มาที่นี่อีก เจอกันที่นี่อีกครั้ง” และ ตัวการ์ตูน บริเวณร้านขายยา และร้านกาแฟ เมื่อพ่นสีสเปรย์เสร็จก็ได้นำโทรศัพท์มาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 6 กุมภาพันธ์

หลังเกิดเหตุทางของร้านซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ได้มีการถ่ายคลิปไว้ด้วยมือถือ ขณะกำลังพ่นสีสเปรย์อยู่ ซึ่งขณะนั้นเองนักท่องเที่ยวรายนี้ถึงกับหน้าซีดเพื่อเจอจับได้ หลังจากนั้นเจ้าของได้โทรศัพท์เรียกตำรวจ สภ.เมือง เข้ามาจับกุมผู้ต้องหารายนี้ทันที พร้อมของกลางสีสเปรย์ 3 กระป๋อง
พันตำรวจเอก ปรัชญา ทิศลา ผู้กำกับ สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับผู้ต้องหารายนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน อายุ 33 ปี เดินทางเข้ามาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าเป็นศิลปินและได้เดินทางมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ และได้ตระเวนเที่ยวในตัวเมืองที่ผ่านมาเห็นมีการพ่นสีตามกำแพงและร้านค้าหลายแห่งจึงคิดว่าสามารถพ่นสีสเปรย์ได้ทั่ว จึงได้ลงทุนไปซื้อสีสเปรย์มาเมื่อสบโอกาสที่ร้านปิดจึงได้ลงมือก่อเหตุได้พ่นสีสเปรย์ไปสองที่คือบริเวณหน้าร้านขายยา ถนนบำรุงบุรี ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ และบริเวณหน้าร้านขายยา ถนนราชเชียงแสน ตำบลหายยา


เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหา “ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น หรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์” พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป