จากกรณีเมื่อ วันที่ 17 มกราคม 2568 กลุ่มผู้ปกครอง และนักเรียนประมาณ 100 คนรวมตัวกันภายในบริเวณโรงเรียนท้ายพิกุล หมู่.6 ต.พระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เพื่อขับไล่ นางรภัสสรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน โดยมีนายสุธรรม เลิศนพคุณวงศ์ รองผอ.สพป.เขต1สระบุรี เข้าร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งกลุ่มนักเรียนและผู้ปกครองร่วมถือป้ายขับไล่โดยมีข้อความว่า “ผู้ปกครองไม่เอา ผอ.ออกไป หนูจะจบแล้วหนูผิดอะไรไล่ออก หนูผิดอะไรไล่หนูออก” เบื้องต้นผู้ปกครองเผยว่า ผอ.มีประวัติมีปัญหาหลายเรื่อง ไม่ว่าเป็นเรื่องทุนการศึกษา การทำร้ายร่างกายเด็ก การใช้วาจาไม่สุภาพ รวมทั้งไล่เด็กนักเรียนออกโดยที่ไม่มีสาเหตุ และทุนการศึกษาของเด็กนักเรียนรับ 1,500 บาทผ่อนให้เด็กวันละ 50 บาท ทั้งที่ได้รับมาเต็มแล้ว และอีกย่างทุนเรียน 1,500 บาทเพื่อที่จะให้ผู้ปกครองนำไปซื้ออุปกรณ์การเรียนให้กับเด็กกลับได้ผ้าห่มมา 1ผืน ซึ่งต้นทุนประมาณผืนละ 100 บาท ซึ่งตั้งแต่มาดำรงตำแหน่ง ผอ.ในระยะเวลา 4-5 ปีเกิดขึ้นตลอด
จากนั้นทางนายสุธรรม เลิศนพคุณวงศ์ รองผอ.สพป.เขต1สระบุรี ได้เชิญตัวแทนผู้ปกครอง และประธานนักเรียน พร้อมด้วยเด็กนักเรียนที่ถูก ผอ.ทำร้ายเข้าประชุมชี้แจงหาแนวทางแก้ไข โดยมีเจ้าหน้าที่นิติกร ของสพป.ร่วมบันทึกข้อความในที่ประชุม และได้สอบถามถึงวัตถุประสงค์ของการมาร้องเรียนขับไล่ ผอ.เพื่ออยากให้ ผอ.ออกจากโรงเรียน
ซึ่งทางนายสุธรรม ได้กล่าวกับผู้ปกครองว่า การที่จะร้องเรียน ผอ.นั้นต้องมีหลักฐานที่แน่ชัด เนื่องจากว่า ผอ.ท่านนี้ไม่ธรรมดา ซึ่งหมายความว่าถ้าทางผู้ปกครองพูดจากล่าวหาเขา จริงหรือไม่จริงไม่รู้ แต่ถ้าไม่จริงตนเองกลัวว่าจะถูกฟ้องกลับ เหมือนที่ผ่านมาผู้ปกครองนักเรียนก็เคยถูกแจ้งความจับมาแล้ว ในส่วนแนวทางการแก้ไขทางด้าน สพป.สระบุรีก็จะนำเรื่องการประชุมชี้แจงของผู้ปกครองและนักเรียนไปนำต่อสำนักงานพื้นที่การศึกษาเขต 1 สระบุรี พิจารณาหาข้อเท็จจริง และจะให้คำตอบผู้ปกครองในวันจันทร์ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ทางคณะกรรมการ สพป.เขต 1สระบุรี มีความเห็นว่าจะให้ย้ายสลับตำแหน่งระหว่างนางรภัสสรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนที่เป็นประเด็น ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนอีกแห่ง และให้นางสาวสมรัก ไปประจำตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22มกราคม เป็นต้นไป
แต่เมื่อทางผู้ปกครอง และนักเรียนที่โณงเรียนแห่งใหม่ทราบ จึงได้รวมตัวชูป้ายขับไล่ไม่ให้มาอยู่ที่โรงเรียนเนื่องจากเกรงว่าเด็ก ๆ นักเรียนจะไม่ได้รับความปลอดภัยตามที่เป็นกระแสข่าว
โดยได้รวมตัวกันชูป้ายขับไล่โดยมีข้อความว่า “เราไม่ต้อนรับคนแบบนี้ พวกเราไม่เอาผอ.ใจร้าย เราต้องการความสงบสุขลูกหลานเราต้องปลอดภัย” ซึ่งขณะที่ผู้ปกครองกำลังชูป้ายพร้อมตะโกนขับไล่อยู่นั้นได้มีรถเก๋งสีขาวบรอนซ์เงิน ซึ่งทราบว่าเป็นรถของนางรภัสสรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเข้ามา แต่เมื่อเห็นมีการชูป้ายตะโกนขับไล่จึงได้เลี้ยวกลับรถออกจากโรงเรียนไป ขณะเดียวกันได้มีคณะกรรมการสถานศึกษาเข้ามาไกล่เกลี่ย เพื่อให้ให้ทาง ผอ.คนใหม่เข้ามาดำรงตำแหน่งก่อน แต่ทางผู้ปกครองบอกว่าไม่เอา โดยที่ไม่ต้องมาอ้างเขตการศึกษาให้ฟัง จนคณะกรรมการศึกษาต้องยอมถอยออกไป
ทางด้านนางปริตา ผู้ปกครอง เผยว่าคนเดิมก็อยากให้ไป ส่วนคนที่จะย้ายมาใหม่นั้น ตนมีความคิดว่าแย่เหมือนกันถึงจะยังไม่ได้เจอ แต่ก็ดูในข่าวมา ดูในคลิปให้ว่อนเลย มือตบน่าจะส่งไปเป็นนักบอลเลย์ไม่เหมาะสมที่จะมาเป็น ผอ. ส่วนตัวเองแล้วไม่ขอต้อนรับ ไล่เลยไม่ต้องให้เข้ามา ควรจะส่งคนดี ๆ เข้ามาในพื้นที่ แล้วเข้ามาอยู่ทางเราจะรู้ไหมว่าลูกเราโดนตี โดนทำร้าย แล้วเด็กด้วยก็ไม่กล้าที่จะบอกผู้ปกครอง
โอดส่วนกลางส่งใครมาก็ควรที่จะส่งคนที่มาพัฒนาโรงเรียนให้เด็ก ๆ ได้รับการเรียนรู้ต่าง ๆ ส่วนตนอยากฝากบอกถึง ผอ.เขตการศึกษาว่า ส่งผอ.ที่ดี ๆ เอามาพัฒนาโรงเรียน
ทางด้านนางสาวสมรัก ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ย้ายไปดำรงตำแหน่งแทนนางรภัสสรณ์ เผยว่าตนเองเพิ่งได้รับคำสั่งให้ไปดำรงตำแหน่งรักษาการ ผอ.โรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งตนเองก็ต้องไปตามคำสั่ง ตัวเองก็ยังไม่ทราบในปัญหาของทางนั้น ก็มีการได้คุยกันบ้าง ในเบื้องต้นซึ่งก็รู้สึกว่าเห็นเขาเครียด ๆ อยู่เหมือนกัน ซึ่งตนเองก็จะต้องเข้าไปรายงานตัวในวันนี้เหมือนกัน
ซึ่งการสลับตำแหน่ง ทางเขตไม่ได้เลือกให้เพียงแต่ถามถึงความสมัครใจทั้ง 2 ฝ่าย แต่เนื่องจากว่าตนเองเขียนใบขอย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ โรงเรียนแห่งนี้ มา 4 ปีแล้ว เนื่องจากว่าเป็นโรงเรียนเดิมที่ตนเองเป็นรองผู้อำนวยการอยู่ และอยู่ใกล้บ้านด้วย และตอนนี้ก็ยังไม่ได้ย้ายมันเป็นการรักษาการโดยตำแหน่ง