รวบ LGBTQ+ นัดเจอหนุ่มผ่านแอปฯ หลอกถ่ายคลิปลามกขายในกลุ่มลับ

สังคม

รวบ LGBTQ+ นัดเจอหนุ่มผ่านแอปฯ หลอกถ่ายคลิปลามกขายในกลุ่มลับ

28 ส.ค. 2567

828 views

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต.ณรงเวทย์ จิวเดช สว.กก.2 บก.ปคม. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. ร่วมกันจับกุม นายสุภัสสรา อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 4013/2567 ลง 26 ส.ค.67 พร้อมด้วยของกลาง ได้แก่โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ซัมซุง สีดำ รุ่นกาแล็คซี่ M12 จำนวน 1 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ไอโฟน สีทอง รุ่น 14 Pro Max จำนวน 1 เครื่อง, ขาตั้งโทรศัพท์พร้อมไฟส่องสว่าง จำนวน 1 อัน และ ถุงยางอนามัยที่ยังไม่ได้ใช้ จำนวน 20 ชิ้น โดยจับกุม บริเวณแมนชั่น ถ.สุขสวัสดิ์ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร


ในความผิดฐาน “เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้”


สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม.ได้สืบทราบว่ามีความผิดเกี่ยวกับการเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร ทางระบบอินเทอร์เน็ต ผ่านแอปพลิเคชันทวิตเตอร์ (เป็นกลุ่มสาธารณะ ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ากลุ่มได้) และทางสื่อ onlyfans โดยมีผู้ใช้ทวิตเตอร์ มีการลักลอบเผยแพร่คลิปการร่วมเพศและเชิญชวนบุคคลทั่วไปให้เข้ากลุ่มไลน์เผยแพร่คลิปลามกอนาจาร ซึ่งเป็นการร่วมเพศระหว่างเด็กชาย หรือวัยรุ่นชายกับบุคคลลักษณะสาวประเภทสอง


โดยมีข้อความเชิญชวนเข้ากลุ่มแอคล็อกในราคา 599 บาท และกลุ่มไลน์ 1,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนเพื่อพิสูจน์ทราบความผิดด้วยการสมัครเข้ากลุ่ม จากนั้นผู้ต้องหาก็จะเพิ่มรายชื่อผู้ที่โอนเงินแล้วเข้าไปในกลุ่มลับ เพื่อรับชมคลิปลามกอนาจารและการร่วมเพศระหว่างสาวสองกับวัยรุ่นและเยาวชนชายหลายรายไม่ซ้ำหน้า


จากการตรวจสอบคลิปวิดีโอพบว่ามีวัยรุ่นและเยาวชนชายจำนวนประมาณ 100 กว่าราย ที่ตกเป็นเหยื่อถูกถ่ายคลิป ซึ่งมีทั้งคนไทยและคนต่างชาติหลายราย ซึ่งผู้ต้องหามีรายได้จากการสมาชิกในการเข้ากลุ่มเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม.สืบสวนทราบว่านายสุภัสสราฯ ผู้ต้องหา ได้พักอาศัยอยู่ภายในแมนชั่นแห่งหนึ่งแถวราษฎร์บูรณะ ไม่ได้ประกอบอาชีพพักอาศัยอยู่แต่ภายในห้องพัก จึงได้วางแผนนำกำลังเข้าจับกุมตัวนายสุภัสสราฯ


สอบถามผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาและให้การว่าตนเองได้ตั้งกลุ่มในทวิตเตอร์ โอลิแฟน และกลุ่มไลน์ ขึ้นมาเพื่อชักชวนให้สมาชิกเสียเงินเข้ากลุ่ม เพื่อชมคลิปลามกอนาจารการร่วมเพศ ซึ่งตนเองได้ถ่ายทำขึ้นมาแล้วนำเข้าในกลุ่มเพื่อเผยแพร่ให้สมาชิกดู โดยผู้ต้องหาให้การว่าตนเองได้ใช้แอปหาคู่ชื่อ Tinder (ทินเดอร์) ในการติดต่อลวงวัยรุ่นชายและเยาวชนชายมาหาและมีเพศสัมพันธ์กัน โดยตนเองจะตั้งกล้องถ่ายคลิปวีดิโอไว้ จากนั้นก็จะนำคลิปวีดิโอเข้าสู่ระบบของทวิตเตอร์, only fans และกลุ่มไลน์ขายให้สมาชิกเสียเงินเข้ามาดูคลิปวิดีโอที่ตนเองทำขึ้นมา


เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้ข้อกล่าวหา นายสุภัสสราฯ ว่า “เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย


สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาโดยผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าตนเองได้ใช้แอพหาคู่ชื่อ Tinder (ทินเดอร์) ในการติดต่อลวงวัยรุ่นชายและเยาวชนชายมาหาและมีเพศสัมพันธ์กัน โดยตนเองจะตั้งกล้องถ่ายคลิปวิดีโอไว้ จากนั้นก็จะนำคลิปวิดีโอเข้าสู่ระบบของทวิตเตอร์ only fans และกลุ่มไลน์ขายให้สมาชิกเสียเงินเข้ามาดูคลิปวิดีโอที่ตนเองทำขึ้นมาเป็นรายได้หลักที่ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันซึ่งตนเองไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรเป็นหลักแหล่งแต่อย่างใด


ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนภัย ให้ระมัดระวังในการใช้เสื่อสังคมออนไลน์ในยุคที่ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีไร้พรมแดน อาจตกเป็นเหยื่อถูกติดต่อชักชวนจากบุคคลทั้งทางสื่อออนไลน์จากบุคคลแปลกหน้าที่พบ ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อนให้พึ่งใช้ความระมัดระวังในการที่จะพูดคุยติดต่อจากบุคคลแปลกหน้า อาจตกเป็นเหยื่อของมิสสาชีพและถูกล่อลวงไปกระทำสิ่งไม่ดี ซึ่งสิ่งที่ต้องพึงระวังคือถ้าไม่จำเป็นอย่าเชื่อใจคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกันอาจนำภัยมาให้แก่ตนเองและเป็นอันตรายต่อร่างกาย ชีวิต หรือทรัพย์สินสิ่งมีค่า หากวัยรุ่นและเยาวชนคนใดที่ตกเป็นเหยื่อถูกล่อลวงไปมีเพศสัมพันธ์และถูกถ่ายคลิปวิดีโอไว้ประสงค์จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้ให้มาแจ้งความดำเนินคดีได้ที่ กก.2 บก.ปคม.เพื่อจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ