สังคม
เจ้าของรถกระบะปะทะคารมไฟแนนซ์ แย่งยึดรถค้างค่างวด 502 วัน
15 ส.ค. 2567
5.1K views
วันนี้ (15 ส.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ สภ.เมืองอุดรธานี นายภานุมาศ เจ้าของเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ได้รับการร้องเรียนจากนายธนภัทร อายุ 47 ปี ชาว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู และเป็นเจ้าหน้าที่ฯ ฝ่ายเร่งรัดหนี้สินธนาคารแห่งหนึ่ง แจ้งว่ารถยนต์ที่ตกเป็นทรัพย์ของธนาคาร ซึ่งตนติดตามมาได้จากผู้เช่าซื้อรายหนึ่งจอดไว้หน้ากองบังคับการตำรวจสืบสวนจังหวัดอุดรธานี ถูกคนซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตัดที่ล็อกล้อและเอารถไป ทำให้ได้รับความเสียหายเป็นเงิน 9,000 บาท
หลังรับแจ้งนายภานุมาศฯ ได้ประสานผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบผู้เสียหายที่จุดที่เกิดเหตุ ที่หน้ากองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธร จ.อุดรธานี เพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้เสียหายได้เปิดคลิปวิดีโอให้ดู โดยในคลิปจะเป็นช่วงเหตุการณ์ที่เจ้าของรถกระบะยี่ห้อโตโยต้ารีโว่ สีขาว 4 ประตู ซึ่งเป็นเจ้าของโวยวาย อ้างว่ามายกไปได้ยังไง รถคันดังกล่าวเป็นของตนเอง จังหวะนั้นเองมีผู้ชายคนหนึ่งคาดว่าเป็นลูกชายของเจ้าของรถคันนี้ได้เดินไปที่รถถามเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ว่า ใครมาทำอะไรรถผม พี่ทำอะไรครับ เจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ก็บอกว่า ผมจะมายกรถครับ ขาดส่งศาลพิพากษาเป็นกรรมสิทธิ์ของธนาคารแล้ว
ด้านลูกชายของเจ้าของรถก็บอกว่า ไม่ได้ครับ แบบนี้ผมไม่โอเค จากนั้นชายคนนี้ก็ไปนั่งฝั่งคนขับ บอก จนท.ไฟแนนซ์ว่า ถอยไปครับ ขณะที่กำลังสตาร์ทรถออกไป ฝ่ายไฟแนนซ์ก็ไม่ยอม จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น และได้ยินเสียง จะมายกรถแบบนี้ไปได้ไง จนโทรศัพท์หลุดมือ ฝ่ายไฟแนนซ์ก็บอกว่า แบบนี้ไม่ได้นะครับ จะมากกระชากผมแบบนี้ไม่ได้ แบบนี้ผมจะแจ้งความดำเนินคดีนะครับ โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์จะเข้าไปในรถ คุณป้าท่านนี้ก็พยายามดึงเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ออกมา พร้อมบอกว่า จะมาเอารถฉันไปได้อย่างไร รถแม่นะเนี่ย ๆ เรียกตำรวจมาช่วยหน่อย ลูกแม่ก็เป็นทนายนะ ตกลงกันดี ๆ ไม่ได้ ฉันผ่อนรถคันนี้มาหลายปีแล้ว และคุณป้าท่านนี้ก็พยายามขึ้นไปในรถ โดยมีลูกชายเป็นคนขับและพยายามขับหนีไฟแนนซ์ คุณป้าเจ้าของรถ ถามตำรวจว่า จะไม่ช่วยอะไรฉันเลยหรือ ตร.ก็บอกว่า ในเมื่อศาลตัดสินแล้วทรัพย์สินก็ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของทรัพย์ แต่หญิงรายนี้ไม่สนอ้างว่าฉันอุทธรณ์ต่อศาลแล้ว เมื่อตร.ขอดูเอกสารอุทธรณ์กลับไม่มี สุดท้ายรถกระบะค้างค่างวดก็ล่องหน ทราบว่าผู้เช่าซื้อได้ขับออกไปแล้ว เบื้องต้นนายภานุมาศฯ ได้แนะนำให้ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
นายธนภัทรฯ เล่าว่า ตนได้รับมอบอำนาจจากธนาคารให้ติดตามรถยนต์ เนื่องจากขาดส่งงวดมาแล้ว 502 วัน และศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ทรัพย์นั้นตกคืนธนาคาร หลังติดตามจนพบจากนั้นได้มีการเจรจาพูดคุยกันแต่ตกลงไม่ลงตัวฝั่งเจ้าของรถต้องการจะเอารถไป ส่วนผู้เช่าซื้อก็ไม่ยอมให้ยึดไป พนักงานเร่งรัดจึงโทรไปยังผู้ค้ำประกันเบื้องต้นผู้ค้ำประกันบอกจะมาวันนี้ (15 ส.ค.) เพื่อไกล่เกลี่ยพูดคุย ฝั่งเจ้าของรถจึงนำที่ล็อกล้อมาล็อกรถคันดังกล่าวไว้เพื่อรอ กระทั่งฝั่งผู้ใช้รถได้มีการยื้อยุดฉุดกระชากจนชุลมุน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นตามคลิปเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 67 ที่ผ่านมา และต่อมาเช้าวันนี้ได้รับแจ้งว่ารถนั้นมีคนมาตัดที่ล็อกล้อ และขับรถไปจึงเดินทางมาดู และพบว่ารถคันดังกล่าวได้หายไป พร้อมที่ล็อกล้อรถก็ถูกเอาไปด้วย
นายธนภัทรฯ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันนี้ผู้เช่าซื้อเริ่มหัวหมอมากขึ้น และพยายามที่จะเลี่ยงกฎหมาย ผู้เช่าซื้อบางคน ไม่ยอมรับความจริงว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด กรณีนี้ส่วนตัวมองว่าศาลมีคำสั่งพิพากษาให้คืนทรัพย์แล้ว นอกจากนี้ยืนมีหมายบังคับคดี ผู้เช่าซื้อหรือผู้ใช้รถก็ควรจะยอมรับไม่สมควรที่จะยื้อไว้ หรือหาช่องโหว่ในด้านกฎหมายมาสู้คดี ทั้งนี้ตนต้องยอมรับว่ากรณีนี้ คู่กรณี มีความกล้าหาญมากกล้ามาตัดที่ล็อกล้อซึ่งอยู่ภายในสถานีตำรวจสำหรับเรื่องนี้ผมจะได้แจ้งความไว้แล้ว ขอให้ว่าไปตามกฎหมายต่อไปแล้วกัน
แท็กที่เกี่ยวข้อง