วันที่ 9 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ ริมถนนสายรอบเกาะสมุย ในตำบลตลิ่งงาม อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีป้ายไวนิลขนาดใหญ่ ติดหราที่หน้าร้าน มีข้อความว่า “ฝากพิเศษ ทำคนตาย ไม่รับผิดชอบ” มีภาพประกอบ การลำเลียงหญิงสาวไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ จากเกาะสมุย ไปยังโรงพยาบาลในจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมแฮชแท็กว่ามีได้ที่นี่ #โรงพยาบาล ณ บนเกาะสมุย” ซึ่งภายหลังป้ายและข้อความที่ป้ายไวนิลดังกล่าวที่ติดไว้ ได้ถูกนำไปเผยแพร่ในเพจและสื่อโซเชียลต่างๆ ทำให้คนเข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก


ต่อมาวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปที่ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างดังกล่าว และได้พูดคุยกับ นายธรรมรัตน์ อายุ 40 ปี เจ้าของร้าน พร้อมเปิดเผยและนำภาพต่างๆ ที่ถ่ายเอาไว้ในวันที่ภรรยา เสียชีวิต และวันที่นำร่างของภรรยาทำพิธีทางศาสนา และเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.ศิริวรรณ อายุ 39 ปี ภรรยาตั้งท้อง และได้เข้าไปฝากท้องที่คลินิกแห่งหนึ่ง ในเกาะสมุย จนถึงวันที่ 19 เม.ย.67 กำหนดผ่าคลอด และ แฟนได้เสียชีวิตวันที่ผ่าคลอด โดยภรรยาตั้งท้องเป็นท้องที่ 2


หมอบอกสาเหตุที่เสียชีวิตว่า น้ำค่ำอุดตันในกระแสเลือด เหตุการณ์ เมื่อวันที่ 19 เม.ย. หมอนัดผ่าคลอดเวลา 13.00 น. แต่ให้เดินทางไปถึงโรงพยาบาล เวลา 09.00 เพื่อทำการตรวจสภาพร่างกาย และ เตรียมความพร้อม ตอนเที่ยงก่อนเข้าห้องผ่า ตนก็ได้ถ่ายรูปกับแฟนเสร็จ จนถึงคิวผ่าตัดทำคลอดบ่ายโมง จนกระทั่งบ่าย 2 กว่าๆ พยาบาลก็นำลูกชายออกมา บอกว่าน้ำหนักได้ 3.3 กิโลกรัม ลูกชายมีสภาพสมบูรณ์ รอให้คุณแม่นอนพักฟื้นสัก 2 ชั่วโมง


ช่วงที่ผมนั่งรอภรรยา เริ่มเอะใจว่า ทำไมคุณหมอวิ่งเข้าวิ่งออกหลายคน และเวลาบ่าย 3 โมง ผมจึงเดินไปถามพยาบาลว่า ทำไมแฟนยังไม่ออกมา ทีมแพทย์ได้ออกมาบอกว่า แฟนเกิดอาการวิกฤติ หัวใจล้มเหลวฉับพลัน เนื่องจากภาวะร่างกายอ่อนแอ ซึ่งตนก็ท้วงขึ้นว่า แฟนของตนสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี


จากนั้นทางโรงพยาบาลที่ทำคลอดในเกาะสมุย ได้ประสานงานไปที่หน่วยบินศูนย์นเรนทร์ทรอ่าวไทย นำเฮลิคอปเตอร์ ข้ามจากเกาะสมุย นำร่างภรรยาตนไปส่งยังโรงพยาบาลในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตรงนี้ตนต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ทหารอากาศสถานีรายงานสมุย มา ณ ตรงนี้ที่ได้อำนวยความสะดวก


นายธรรมรัตน์ กล่าวต่อด้วยใบหน้าที่เศร้าและเสียใจ ว่า หลังจากภรรยาเสียชีวิต โรงพยาบาลให้นำศพกลับบ้านทันที รุ่งเช้าอีกวันตนได้เดินทางมาติดต่อขอดูผลการรักษาและเสียชีวิตของภรรยา และสอบถามเจ้าหน้าที่หลายเรื่องในประเด็นต่าง ๆ


ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะให้เงิน 400,000 บาท และนำศพกลับบ้านได้ พร้อมแจ้งว่าเป็นการช่วยเยียวยาจากการสูญเสียของแฟน


“ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าหากติดใจการเสียชีวิตสามารถส่งศพชันสูตรได้ แต่ถ้าผลชันสูตรออกมาแล้ว จะไม่จ่ายเงินเยียวยาส่วนนี้ เป็นการพูดลักษณะข่มขู่ว่าอย่าให้เดินเรื่อง”


และแจ้งว่าใบชันสูตรรอได้ไหมอาจต้องใช้เวลา 1 เดือน 2 เดือน หรือเป็นปี ตอนนั้นตนรู้สึกจุก ไปหมดมันมืดไปหมด พูดไม่ออก เลยติดต่อไปทางทีมแพทย์เพื่อเดินเรื่องชันสูตรต่อ หลังจากส่งเรื่องชันสูตรคุณหมอบอกว่า ให้นำศพกลับบ้านได้เลย เพราะมีการเก็บเนื้อเยื่อและชิ้นส่วนส่งไปยัง มอ.หาดใหญ่ โดยตลอด ระยะเวลาย่างเข้า 3 เดือน ทางแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไรเลย ปิดเรื่องเงียบอย่างเดียว ซึ่งตนก็จะดำเนินตามกฏหมายให้ถึงที่สุด


นายธรรมรัตน์ กล่าวทั้งน้ำตา สาเหตุที่ตนขึ้นป้าย เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ความเห็นใจ เพราะคุณไม่มาดู แลเราเลย ถึงความสูญเสียครั้งนี้ สำหรับความไว้วางใจที่ครอบครัวตน ไว้วางใจไปฝากท้องกับคลินิกทั้งแต่ท้องแรก จนท้องที่สอง สิ่งที่คุณให้จากความไว้วางใจคือไม่ดูดำดูดีอะไรเลย นับตั้งแต่วันที่แฟนจากไป ตนพูดไม่ออก เพราะตนกับแฟนทำงานด้วยกันตลอดตั้งแต่สมัยเรียน และสร้างเนื้อสร้างตัวจนมีร้านขายของ


แต่พอเราสองคนผ่านความลำบากมาด้วยกัน เขาก็มาเสียชีวิต ตั้งแต่แฟนเสียชีวิต ทุกอย่างมีแต่ความว่างเปล่า หันไปดูเก้าอี้ตัวที่เค้าเคยนั่งเจอแต่ความว่างเปล่า มันจุก มันพูดไม่ออก จึงอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้เค้า เพราะคิดถึงเค้าตลอด ตอนนี้ตนกลายเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว และจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และจะเลี้ยงดูเขาเป็นปกติเหมือนตอนที่แม่เค้ายังอยู่ จะพาไปทำกิจกรรมต่าง และอาทิตย์หน้าก็พาลูกสาวคนโตไปแข่งว่ายน้ำ ลูกสาวคนโตอายุ 9 ขวบ ลูกชายคนเล็ก 2 เดือนกว่า


ตนอยากขอความเป็นธรรม เพราะคุณไม่มาดูดำดูดีเลยกับการเสียหายว่า คนที่ได้สูญเสียมีความรู้สึกอย่างไร คุณคิดจะปิดข่าวอย่างเดียว กลัวการเสียชื่อเสียงของคุณ ไม่ได้มามองว่าคนที่เสียหาย ขาดเหลืออะไรไหม ลูกเสียแม่ไป เหลือแต่พ่อเลี้ยงเดี่ยว เขาจะดูแลกันอย่างไร


สำหรับคนรู้จักเขายังซื้อแพมเพิตมาเยี่ยม แต่คุณไม่คิดติดต่ออะไรเลย อยากให้คุณได้มีการแสดงความเสียใจ ที่ออกมาจากใจลึก ๆ ของคุณ ว่าได้พยายามและช่วยเต็มที่แล้ว อย่างน้อยเราก็ยังได้รับความอุ่นใจบ้าง ซึ่งในช่วงนั้น ลูกสาวอยู่บ้านเพื่อน ลูกคนเล็กอยู่โรงพยาบาล แฟนอยู่ห้องดับจิต ผมอยู่บ้านญาติ ทุกอย่างในชีวิต มันดับมืดไปเลย