กรมอุทยานฯ มั่นใจไม่เพิกถอนป่าทับลานถึง 2.6 แสนไร่ ชี้รอสรุปการรับฟังความเห็น 1 เดือนก่อนส่งเข้าบอร์ดฯชี้ขาด

สังคม

กรมอุทยานฯ มั่นใจไม่เพิกถอนป่าทับลานถึง 2.6 แสนไร่ ชี้รอสรุปการรับฟังความเห็น 1 เดือนก่อนส่งเข้าบอร์ดฯชี้ขาด

8 ก.ค. 2567

349 views

จากกรณีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธฺุพืช จัดรับฟังความคิดเห็น เพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานพื้นที่ 265,266 ตามคณะรัฐมนตรี (ครม.) 14 มี.ค.2566 ที่เห็นชอบข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ใช้แผนที่ ONE MAP ปรับปรุงการสำรวจแนวเขตปี 2543 พื้นที่ป่าทับลาน จนทำให้เกิดการคัดค้านในกลุ่มนักอนุรักษ์วงกว้าง


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธฺุพืช ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ช่วงวันที่ 4-5 ก.ค.ที่ผ่านมา มีการจัดเวทีรับฟังความเห็นในพื้นที่ปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน 265,266 ไร่ ใน จ.นครราชสีมา และปราจีนบุรี โดยเหลือในระบบออนไลน์จะสิ้นสุดวันที่ 12 ก.ค.นี้


ซึ่งการดำเนินการรับฟังความเห็นเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ตามมติ ครม. หากแล้วเสร็จทั้ง 2 ช่องทาง กรมอุทยานฯ จึงจะสรุปเสนอต่อคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งคาดว่าจะนำเสนอให้พิจารณาได้เร็วสุดน่าจะเป็นเดือน ส.ค.นี้


“หากประมวลข้อคิดเห็นแล้วเสร็จ คาดว่าอย่างช้าภายใน 1-2 เดือนจะสรุปให้คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ มีมติชี้ขาดเพิกถอนป่าทับลาน แต่ยังมั่นใจจะไม่เพิกถอนป่าถึง 2.6 แสนไร่แน่นอน”


นายอรรถพล กล่าวว่า ที่ผ่านมามีกระแสวิจารณ์ต่อกรมอุทยานฯ ว่าไม่มีท่าทีคัดค้านการเพิกถอนป่าทับลาน 265,266 ไร่ ยืนยันว่า กระบวนการต่าง ๆ ยังไม่สิ้นสุด และการรับฟังความเห็นครั้งนี้ จะนำมาประกอบเหตุผลให้บอร์ดอุทยานพิจารณา แต่จะไม่ใช้การแก้ปัญหาที่ดินในพื้นที่ทับลานแบบเหมาเข่งอย่างที่นักอนุรักษ์กังวลเด็ดขาด เพราะก่อนหน้านี้กรมอุทยานฯ แยกและกำหนดรูปแบบของที่ดินทำกินในป่าทับลานไว้ 3 กลุ่มชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มรีสอร์ตกว่า 400 แห่งที่ติดในคดีจะต้องไม่ได้ครอบครองที่ดินป่าอนุรักษ์


“คดีรีสอร์ต 400 กว่าแห่งในป่าทับลานยังยึดกฎหมายเดิมคือเป็นผู้บุกรุก ต้องดูคุณสมบัติเป็นหลัก คนละส่วนกับการเพิกถอนพื้นที่”


ส่วนข้อกังวลว่าหากมีการเพิกถอนป่าทับลานได้จะถูกใช้เป็นโมเดลกับป่าอุทยานอื่น ๆ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ระบุว่า แต่ละพื้นที่มีปัญหาแตกต่างกัน ไม่สามารถใช้โมเดลเดียวกันได้แน่นอน ส่วนที่เลือกทับลานเป็นแห่งแรก เพราะได้ผ่านการตรวจสอบตามมติ ครม.ปี 2543 ให้สำรวจไว้แล้ว


ขณะที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียร เตรียมยื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในช่วงสัปดาห์หน้า เพื่อขอให้มีการพิจารณากระบวนการเพิกถอนพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งเรียกผู้ที่เกี่ยวข้อง และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามาให้ข้อมูล โดยยืนยันว่า ไม่ควรแก้ไขเพิกถอนแบบเหมาเข่ง

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ