พ่อค้าโรตีเจอกระแสดรามาหนัก ขายโรตีไม่ได้ วอนฟังความอีกข้าง ขณะที่เจ้าของโพสต์เปิดใจ ที่โพสต์ลงโซเชียลหวังให้เกิดความเปลี่ยนแปลง

สังคม

พ่อค้าโรตีเจอกระแสดรามาหนัก ขายโรตีไม่ได้ วอนฟังความอีกข้าง ขณะที่เจ้าของโพสต์เปิดใจ ที่โพสต์ลงโซเชียลหวังให้เกิดความเปลี่ยนแปลง

23 มิ.ย. 2567

4K views

จากดรามาที่มีนักท่องเที่ยวหญิงพาครอบครัว ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ มาเที่ยวเชียงใหม่ และมาเดินเที่ยวประตูท่าแพ ในคืนวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ส่วนตัวที่หวังจะซื้อโรตีที่มีรถเร่ขาย แต่พอตนทักท้วงพ่อค้าโรตีว่า จะมีการล้างมือก่อนที่จะจับแป้งทำโรตีก่อนไหม แต่ถูกไล่ให้ไปกินร้านอื่น แถมยังมีการด่าไล่หลังอีกนั้น



ล่าสุดจากกระแสในโลกออนไลน์ที่พุ่งไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ทัวร์พากันมาลงยับที่พ่อค้าโรตี แม้พ่อค้าโรตีจะออกมาแก้ต่างว่าที่พูดไปด้วยอารมณ์โมโห เหมือนกับถูกเหยียดว่าร้านตนเองไม่สะอาดเลยบอกให้ไปกินร้านอื่น ล่าสุดทีมข่าวช่อง 3 กลับไปลงพื้นที่อีกครั้ง พบว่าประตูท่าแพมีการจัดกิจกรรมของภาคเอกชน อีกทั้งพบว่ามีเจ้าหน้าที่เทศกิจของเทศบาลนครเชียงใหม่ และสายตรวจของตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ มาประจำการบนข่วงประตูท่าแพ และเฝ้าไม่ให้พ่อค้าแม่ค้ารถเร่ขึ้นมาขายสินค้าบนข่วงประตูท่าแพ รวมทั้งรถเร่โรตี ที่มีประเด็นดรามา ซึ่งจอดรถขายที่บริเวณริมถนนฝั่งตรงข้ามนั้น ก็ถูกเจ้าหน้าที่มากวดขันไม่ให้จอด จนต้องย้ายร้านไปในซอย



ทางด้านนางหน่อย (นามสมมติ) ภรรยาที่กำลังตั้งท้องของพ่อค้าโรตี เปิดเผยว่า ตัวเองรู้สึกเสียใจและได้รับผลกระทบอย่างมาก หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป เนื่องจากถูกผู้คนจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ไปจนถึงขั้นถูกเหยียดหยาม ด้อยค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยที่ผู้คนเหล่านั้นไม่ได้รับรู้ความจริงทั้งหมด ทั้งนี้ยืนยันว่าตัวเองและสามีเป็นเพียงคนทำมาหากิน ไม่ได้เป็นอันธพาล และเป็นคนต่างด้าวอย่างที่ถูกกล่าวหา รวมทั้งยืนยันด้วยว่าทำโรตีขายด้วยความสะอาด ถูกสุขอนามัย ซึ่งในช่วงเกิดเหตุหากคู่กรณีไม่มั่นใจความสะอาด ก็สามารถเลือกที่จะไม่ซื้อได้ โดยไม่จำเป็นต้องด้อยค่าหรือดูถูกเหยียดหยามจนเกิดการกระทบกระทั่งขึ้น ทั้งนี้มองว่าการที่คู่กรณีนำเรื่องราวไปโพสต์ไม่เป็นความจริงทั้งหมด และเป็นการกระทำที่เกินไป เพราะตัวเองไม่มีโอกาสแก้ตัว และถูกผู้คนดูหมิ่นเกลียดชังไปแล้ว รวมทั้งได้รับผลกระทบอย่างมากต่อการทำมาหากิน เนื่องจากลูกค้าไม่กล้าอุดหนุน ซึ่งคิดว่าทางคู่กรณีคงพึงพอใจแล้วที่ได้กระทำกับคนที่ไม่มีทางสู้



จึงขอวอนให้สังคมเข้าใจและเห็นใจฝ่ายตนเองบ้าง ที่ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะแก้ต่างให้กับตนเอง หรือมาฟังความฝั่งของตนบ้าง ตอนนี้ได้แต่ทำใจก้มหน้ารับผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อไป ซึ่งตลอดทั้งวั้น (22 มิย.) ตั้งแต่มาตั้งร้านช่วงบ่ายจนถึงเวลา 18.00 น. ก็ยังไม่สามารถขายโรตีได้สักแผ่น ยังไม่ได้เงินสักบาทเลย



ล่าสุดทีมข่าวช่อง 3 ได้ติดต่อกับเจ้าของโพสต์ดังกล่าว และสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดย น.ส.สมาพร ซึ่งพื้นเพเป็นชาวพิษณุโลกเปิดใจว่า ตนเองแต่งงานกับสามีชาวอเมริกา ย้ายไปอยู่ที่อเมริกาได้ 17 ปีแล้ว และตั้งแต่ช่วงโควิดเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้วไม่ได้กลับมาเที่ยวเมืองไทย และสามีเป็นคนชวนเองว่าอยากจะมาเที่ยวเชียงใหม่



ในคืนที่เกิดเหตุนั้น ก็พาครอบครัว คือ สามีและลูกอีก 2 คน ออกมาหาซื้อยา แต่ผ่านประตูท่าแพก็แวะมาเดินเที่ยว ส่วนตัวเป็นคนชอบทานโรตีมาก และยิ่งไปอยู่ต่างประเทศนาน เลยทำให้อยากกิน สบโอกาสเห็นโรตีรถเร่เจ้าดังกล่าว จอดขายบนประตูท่าแพ จึงเข้าไปถาม แต่ไม่พบว่ามีเจ้าของร้านตรงรถ จึงอุ้มลูกชายยืนรอและจู่ ๆ ก็มีพ่อค้าโรตีวิ่งออกมาจากหลังป้ายที่มีตั้งไว้บนพื้น จึงคิดว่าน่าจะนอนอยู่ตรงนั้น พอตนเองถามจะซื้อโรตี แต่ด้วยความที่เห็นว่าพึ่งลุกมาจากพื้น และมือก็เล่นมือถืออยู่ อีกทั้งมีการปัดก้นมา ทำท่าจะขาย ก็เลยท้วงว่าจะล้างมือก่อนทำไหม เท่านั้นก็เจอไล่ไปกินร้านอื่น และมีการด่าไล่หลัง ซึ่งตนเองได้ยิน รวมทั้งน้องสาวที่ยังยืนอยู่แถวรถขายโรตี (ซึ่งเป็นคนถ่ายคลิปให้) ได้ยินชัดว่า “เรื่องมากก็ไม่ต้องแดก” " ยิ่งทำให้ตนเองรู้สึกโมโหกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพียงแค่ท้วงติง เพื่อความสะอาด เป็นสิทธิพื้นฐานที่ลูกค้าต้องได้รับอยู่แล้ว



จึงนำเรื่องดังกล่าวมาโพสต์ ซึ่งไม่คิดว่าโพสต์ดังกล่าวจะเป็นประเด็นใหญ่โตขึ้นมา เพราะตั้งใจเพียงอยากจะสะท้อนมุมมองในฐานะนักท่องเที่ยว ที่ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น และหวังว่าจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ซึ่งหลังจากที่โพสต์ไปแล้วต่อมากลายเป็นที่สนใจอย่างกว้างขวาง ทำให้รู้สึกตกใจมาก รวมทั้งทำให้ได้รับรู้และยืนยันได้ว่าคนเชียงใหม่จริง ๆ น่ารักเป็นมิตรมาก ตอนแรกที่โพสต์ก็ยังติดว่าเสียบรรยากาศการท่องเที่ยวในครั้งนี้ของตน แต่พอมาเห็นกระแสในโลกออนไลน์ ส่วนใหญ่ให้ความเห็นใจตนเองกับครอบครัว และปลอบใจ บางส่วนก็แนะนำร้านที่ดี ๆ อร่อยสะอาดชื่อดังให้ ก็ทำให้รู้สึกดีกับชาวเชียงใหม่ เลยคิดว่าจะลบโพสต์ดีไหม แต่ก็อยากให้เกิดความเปลี่ยนแปลงก็เลยปล่อยไป ส่วนคนขายโรตีนั้นมองว่า แม้จะเป็นคนต่างถิ่น มาทำมาหากินที่เชียงใหม่ ก็ต้องเรียนรู้ว่าจะใช้ชีวิตในสถานที่สำคัญของประเทศ โดยเฉพาะผู้ทำงานเกี่ยวกับอาหารการกิน เรื่องความสะอาดนั้นสำคัญ

คุณอาจสนใจ