1 ในผู้ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการสูญหายของเรือลักลอบขนน้ำมันเถื่อนครั้งนี้ คือ "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" เจ้าของฉายา โจ้ น้ำมันเถื่อนที่ถูกตำรวจขนานนามมาตั้งแต่ปี 2555 เมื่อย้อนดูประวัติพบว่าไม่ธรรมดา


"เสี่ยโจ้ ปัตตานี" หรือ นายสหชัย เจียรเสริมสิน ปัจจุบันน่าจะอายุเกือบ 60 ปี เป็นเจ้าของธุรกิจ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สหทรัพย์ค้าไม้ ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรม จ.ปัตตานี ทำธุรกิจค้าไม้ต่อเรือประมงรายใหญ่


จากข้อมูลของตำรวจ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ "เสี่ยโจ้" เคยทำธุรกิจ แพปลา ก่อนผันตัวเป็นเจ้าของโต๊ะพนันฟุตบอล และหวยเถื่อน จนพบช่องทางค้าไม้เพื่อใช้กับอู่ต่อเรือซ่อมเรือ และร่วมลงทุนทำธุรกิจค้าไม้ระหว่างประเทศ โดยนำเข้าไม้มาจากประเทศเพื่อนบ้านด้าน จ.หนองคาย และ จ.บึงกาฬ เพื่อส่งต่อมายัง จ.ปัตตานี ก่อนจะผันตัวมาค้าน้ำมันเถื่อนข้ามชาติ และเปิดร้านรับแลกเงินตราขึ้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อให้การทำธุรกิจเป็นไปแบบครบวงจร


กระทั่งเดือนตุลาคม 2555 กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และดีเอสไอ เข้าตรวจค้น หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้ ในข้อหาค้าน้ำมันเถื่อน ฟอกเงิน ค้าไม้เถื่อน และพัวพันกับขบวนการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จับกุมเรือลักลอบขายน้ำมันในน่านน้ำ จ.สงขลา พร้อมของกลางเงินสด 48 ล้านบาท น้ำมัน 2000 ลิตร แต่ไปพบหลักฐานการซื้อขายน้ำมันเถื่อน จำนวน 500 ล้านลิตร พร้อมบัญชีจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน จึงดำเนินคดีเรื่องการค้าน้ำมันเถื่อน จากนั้นก็ได้ดำเนินคดีเพิ่มเติม ในความผิด พ.ร.บ.ฟอกเงิน


กระทั่งวันที่ 17 มิถุนายน 2557 หลัง คสช.เข้ายึดอำนาจ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้น หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้อีกครั้ง ยึด "ตราประทับ" เข้าเมืองได้ จึงถูกดำเนินคดีข้อหาปลอมแปลงเอกสาร แต่มีการประกันตัว ก่อนที่ศาลจังหวัดปัตตานี ตัดสินลงโทษ “เสี่ยโจ้” 1 ปี 9 เดือน เขาหลบหนีจากศาลจังหวัดปัตตานีไปอยู่นอกประเทศ


ปี 2560 ลือกันว่าเขากลับมาอาศัยที่บ้านใน จ.ปัตตานี เพราะมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วของศาลจังหวัดปัตตานี ให้ลงโทษจำคุกในข้อหาปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม ปรากฏว่า ฝ่ายตำรวจได้ออกมาชี้แจงว่าได้มีการยกเลิกหมายจับ "เสี่ยโจ้" ในปี 2557 ทั้งหมด แต่ความจริงหมายจับยังไม่ถูกยกเลิก


จนวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ตำรวจกองปราบปรามติดตามจับ เสี่ยโจ้ได้ที่ร้านอาหารริมถนนย่านห้วยขวาง ตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลาในคดีร่วมกันฟอกเงิน ในคดีที่โดนจับเมื่อปี 2555 ก่อนจะถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่ปัตตานี แต่ได้รับการประกันตัวในชั้นศาล


สำหรับเสี่ยโจ้ มีคดีอาญาติดตัวไม่ต่ำกว่า 14 คดี มี 7 คดีที่เขารอดพ้นความผิดไปแล้ว เพราะคดีขาดอายุความ ส่วนอีก 7 คดี อยู่ในชั้นอัยการ

1.คดี 1 ปี 2555 แจ้งความอันเป็นเท็จหรือให้ถ้อยคำเท็จต่อเจ้าพนักงานงาน โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ คดีนี้พนักงานสอบสวนสั่งฟ้อง แต่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ทำให้ขาดอายุความ

2.คดีเล่นการพนันสลากกินรวบ หรือหวยเถื่อน

3.คดีร่วมกันนำของที่ยังไม่ได้เสียภาษีเข้ามาในราชอาณาจักร

4.คดีร่วมกันทำให้เสียหายซึ่งเรือของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึด

5.คดีร่วมกันนำน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยังไม่ได้เสียภาษีเข้ามาในราชอาณาจักร

6.คดีทำขึ้นปลอมขึ้นซึ่งดวงตราประทับสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ

7.คดีเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบซึ่งเสียโจ้มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน

8.คดีตั้งและประกอบกิจการโรงงานโดยได้รับอนุญาต

9.คดีปลอมเอกสาร

10.คดีหลบหนีไประหว่างการควบคุมตัวของเจ้าพนักงานตำรวจ (มอบตัว)

11.คดีขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์แก่อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน

12.คดีหลบหนีไประหว่างคุมขังตามอำนาจศาล (มอบตัว)

13.คดีเป็นเจ้าของเรือไม่ได้ติดตั้งระบบติดตามเรือ

14.คดีเรือที่ไม่มีใบอนุญาตทำการประมงแต่ใช้ทำการประมง