วันนี้ (6 มิ.ย.) แม่ของเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ได้นำคลิปภาพในโทรศัพท์ของคนร้าย ได้แอบถ่ายนักเรียนหญิง ขณะกำลังเข้าห้องน้ำ มาร้องทุกข์กับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมกับเล่าว่า เหตุเกิด เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 9 โมงเช้า คนร้ายได้เข้ามากระทำอนาจารลูกสาวโดยการกอด หอมแก้ม ล้วงจับหน้าอก และจับอวัยวะเพศ แต่ครูโทรมาแจ้งเมื่อเวลา 15.00 น.


หลังทราบเรื่องตนรีบเดินทางไปถึงที่โรงเรียน และได้พบกับครูประจำชั้นและผู้อำนวยการโรงเรียนครูประจำชั้นและผู้อำนวยการโรงเรียน เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ลูกของตนถูกกระทำเป็นรายที่ 3 เพราะเกิดเหตุในเวลาไล่เลี่ยกันไม่นาน ก่อนเกิดเหตุกับลูกของตน มีเด็กหญิง อายุ 8 ขวบ เจอคนร้ายเป็นคนแรกที่ห้องน้ำนักเรียนหญิง และถูกบังคับให้กินขนมคล้ายยา ลักษณะเป็นเม็ดสี่เหลี่ยม จากนั้นเด็กวิ่งหนีมาได้ แต่ไม่ได้บอกครู


ต่อมาเด็กหญิงมีอาการปวดท้อง ครูจึงรีบพาส่งโรงพยาบาลสอบถามภายหลังจึงได้ทราบเรื่อง ส่วนรายที่ 2 เป็นเด็กหญิง อายุ 9 ขวบ ขณะอยู่ในห้องน้ำเห็นมือคนยื่นโทรศัพท์มือถือลอดเข้ามาใต้ห้องน้ำเหมือนจะแอบถ่าย เด็กตกใจจึงรีบวิ่งออกมา และไปบอกครูประจำชั้น


ซึ่งระหว่างนั้นมาเกิดเหตุกับลูกของตนเป็นรายที่ 3 ช่วงที่เด็กหญิง 2 คน วิ่งไปบอกครู ส่วนรายที่ 4 ครูอยู่ระหว่างตรวจสอบ ซึ่งคาดว่าจะถูกแอบถ่ายคลิปเช่นกัน


หลังจากที่เด็กหญิง 2 คน วิ่งมาบอกครู ครูได้แจ้งผู้อำนวยการโรงเรียนให้ทราบ ก่อนจะระดมครูทุกคนช่วยกันล้อมจับคนร้าย ทราบชื่อต่อมาคือ นายเอ้ (นามสมมุติ) ได้บริเวณห้องน้ำนักเรียนหญิง


สอบถามเบื้องต้น นายเอ้ อ้างว่า ไม่ได้ทำอะไร เพียงแค่มาส่งหลานที่โรงเรียน และมาล้างมือเท่านั้น จากนั้นครูได้คุมตัวนายเอ้ ส่งให้ ตำรวจที่ สภ.ครบุรี แต่สุดท้ายนายเอ้ ได้ประกันตัวออกไป


ขณะที่แม่หลังทราบเรื่องได้มาร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาฯ ให้ช่วยเหลือ เพราะเกรงว่าลูกสาวจะไม่ปลอดภัย ซึ่งหลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.นพดล ช่วยบุญ ผู้กำกับการ สภ.ครบุรี ทันที เพื่อให้แม่ของเด็ก ๆ พาลูกเข้าแจ้งความ รวมถึงแม่เด็กหญิงเอ ก่อนจะพาลูกไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล จากนั้นตำรวจจะสอบปากคำแม่เด็กๆ เบื้องต้นก่อน ก่อนจะนัดสอบร่วมกับสหวิชาชีพอีกครั้ง


ขณะเดียวกัน นางปวีณา ได้เชิญ ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแม่เด็กหญิงเอ เข้าร่วมประชุมพร้อมกับหารือแนวทางป้องกันเหตุร้ายไม่ให้เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนอีก เบื้องต้นแม่เด็กหญิงเอ จะขอย้ายลูกสาวไปเรียนโรงเรียนอื่น ซึ่งทาง ดร.ธีร์ รับปากจะช่วยเหลือดำเนินการให้ตามที่แม่เด็กต้องการ