ชาวปราจีนบุรีลุกฮือ! ยื่นหนังสือผู้ว่าฯ ขอ 'หมอแสง' แจกยารักษามะเร็งต่อ หลังสาธารณสุขสั่งห้าม ยันกินแล้วอาการดีขึ้น ยินดีรับผลถ้าเกิดอันตราย



วันนี้ (1 มิ.ย. 67) ได้มีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งและญาติผู้ป่วยที่เดินทางไป เพื่อรับยาสมุนไพรรักษาโรคมะเร็ง ที่บ้านพักนายแสงชัย แหเลิศตระกูล (หมอแสง) ต.บางเดชะ อ.เมืองปราจีนบุรี ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา แต่ทางหมอแสงได้ปฏิเสธการแจกยาให้กับผู้ป่วยและญาติที่เดินทางมารอคอยกันตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว



เนื่องจาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี มีหนังสือคำสั่ง ที่ 85 /2567 เรื่อง พักใช้หนังสือรับรองหมอพื้นบ้าน ตามที่ประธานชมรมคนรักสุขภาพ ได้ร้องเรียนนายแสงชัย แหเลิศตระกูล หมอพื้นบ้าน ต่อ ว่าได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้าน พ.ศ. 2562 และให้พิจารณาดำเนินการลงโทษตามอำนาจหน้าที่นั้น คณะกรรมการหมอฟื้นบ้านจังหวัดปราจีนบุรี จึงมีมติให้ลงโทษพักใช้หนังสือรับรองเป็นระยะเวลา 2 เดือน



ในเรื่องนี้ ทำให้ผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยไม่พอใจ ได้เดินทางไปเพื่อยืนหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ที่บ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ต.ไม้เค็ด อ.เมืองปราจีนบุรี โดยมีนางอรรัตน์ จันทร์เพ็ญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางมาเจรจากับทางผู้เรียกร้องอยู่เป็นเวลานาน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากทางผู้เรียกร้องขอให้ทางสาธารณสุขจังหวัดและนายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ให้เพิกถอนคำสั่งและอนุญาตให้หมอแสงได้แจกยาให้กับผู้ป่วยด้วย เนื่องจากผู้ป่วยและญาติที่มารับยาจากหมอแสงได้กินยาแล้วดีขึ้น หากเกิดอันตรายกับผู้ป่วยก็ยินดีกับเรื่องที่เกิดขึ้นเอง



ในเรื่องนี้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ได้พยายามชี้แจงว่า นายแสงชัย แหเลิศตระกูล มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนี้เป็นหนังสือ ต่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบหรือถือว่าทราบคำสั่ง ทั้งนี้ ตามข้อ 42 แห่งระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้าน พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติ่ม และหากมีการอุทรณ์ก็ต้องมีการประชุมของคณะกรรมการก่อน ทำให้ไม่สามารถอนุญาตได้ในวันนี้ได้เลย ทำให้กลุ่มผู้เรียกร้องไม่พอใจและยังคงรอคำตอบจากผู้ว่าอีกครั้ง



ต่อมา นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้เดินทางกลับจากราชการที่ กทม. ได้เข้ามาชี้แจงให้กับกลุ่มผู้ป่วยให้ทราบถึงรายละเอียดและคำสั่งที่เกิดขึ้น และพร้อมจะดำเนินการประชุมคณะกรรมการอีกครั้ง ในวันที่ 4 มิ.ย. 67 จึงทำให้ผู้ป่วยพร้อมญาติพอใจเดินทางกลับภูมิลำเนา