จากกรณี นายสิงหวัฒน์ อายุ 49 ปี พนักงานโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง และเป็นผู้ช่วยผู้สื่อข่าวท้องถิ่น ถูกยิงเสียชีวิตในรถเก๋งฮอนด้า สีขาว ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา บริเวณริมถนนทางหลวงชนบท หมายเลข อย.2045 ต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุด ตำรวจสามารถคุมตัว นายนพพล หรือ "จิ๊บ ไผ่เขียว" ผู้ลงมือก่อเหตุยิงได้เเล้ว โดยเช้านี้ (16 ธ.ค.) ฝากขังศาลนัดแรก เจ้าตัวนั่งคอตก ไม่ยอมปริปากร้องขอความเป็นธรรม โดยมีกำลังรถตำรวจ ติดตามควบคุมป้องกันอย่างเข้มงวด กว่าทุกครั้งที่พนักงานสอบสวนนำผู้ต้องหาส่งฝากขังศาล

ขณะเดียวกันด้านภรรยา "จิ๊บ ไผ่เขียว" เข้าพบพนักงานสอบสวน ขอเข้าเยี่ยม จิ๊บ ไผ่เขียว สามีถูกตำรวจ ควบคุมตัว อยู่ในห้องขังโรงพักอุทัย ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้ช่วยนักข่าวที่อยุธยา และได้แต่งตั้งทนายเตรียมยื่นขอประกันตัวในชั้นศาล โดยเมียของจิ๊บได้ร้องขอความเป็นธรรม ให้กับสามีว่าหลังจากสามีออกจากคุก ก็ตั้งใจทำมาหากินเปิดร้านหมูกระทะ ดูแล มาโดยตลอด ข่าวที่ออกไปเชื่อมโยง เรื่องเก่าทำให้สร้างตราบาป ให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก ขอให้นำเสนอข่าว อย่างตรงไปตรงมา อย่าไปเชื่อมโยงกับเรื่องเก่ากับเรื่องพี่ชาย กับเรื่องการล้างแค้น ไม่เป็นความจริง ในส่วนประเด็นที่ผู้ตายมาจอดรถขวางทางร้านแล้วไปมีปากเสียงนั้น ไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร แต่ทราบว่าผู้ตายด่า ด้วยถ้อยคำรุนแรงให้ของลับกันด้วย ซึ่งไม่ทราบว่าร้านที่ผู้ตาย ไปใช้บริการรับประทานอาหารมาพูดอย่างไร กับผู้ตายถึงเกิดเหตุมีปากเสียงกัน 

ล่าสุด ด้านพลตำรวจตรี โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรียกด่วน ชุดสืบสวนภาค 1 ชุดสืบสวนจังหวัดและชุดสืบสวนโรงพักอุทัย รวมทั้งพันตำรวจเอกมนัส อัดโดดดร ผู้กำกับโรงพักอุทัยประชุม คลี่คลายคดีไล่ล่า "นายกร" มือยิงรายที่ได้ออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ ฆ๋าผู้ช่วยนักข่าวอยุธยา โดยได้บอกในที่ประชุมสั้นๆว่า เคสนี้ เป็นเคสที่คนร้ายยังลอยนวล อีก 1 คน เชื่อมั่นว่าไม่ผิดตัว มีหลักฐานเพียงพอ ไม่ผิดตัวแน่นอน ขอให้ชุดสืบสวนเก็บทุกประเด็น ทุกรายละเอียด ทุกมิติ ยังมีบางอย่างที่ยังต้องเก็บนำมาเป็นหลักฐานให้ได้ ซึ่งจะเป็นอะไรนั้น ไม่ได้รับการเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ก่อนที่จะออกจากที่ประชุม ซึ่งผลการประชุมเป็นอย่างไร จะรายงานความคืบหน้า ให้ทราบต่อไป