ญาติเอือมระอาขอนำคลิปวงจรปิดร้องเพจดัง พี่ชายหลอนยาอาละวาดจะทำร้ายพ่อแท้ๆ ครอบครัววอนหน่วยงานช่วยแก้ไขหวั่นจะเกิดเหตุสลด

จากกรณีเพจเฟซบุ๊กกลุ่ม “กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่“ ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ที่สมาชิก ได้นำคลิปวงจรปิดภายในบ้านมาร้องขอความช่วยเหลือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากน้องชายแท้ๆ มีพฤติกรรมทำร้ายคนในครอบครัวบ่อยครั้ง เนื่องจากมีพฤติกรรมไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

ซึ่งเหตุการณ์ในคลิปวงจรปิดนั้นคือลูกชายแท้ๆ กำลังจะเข้าไปทำร้ายพ่อที่นอนอยู่ภายในบ้าน โดยมีการโต้เถียงกันถึงเรื่องของการเก็บข้าวโพดขาย และการทวงเงินที่ลูกชายยืมไป โดยลูกชายก็โต้เถียงพ่อไปว่า มาลักทรัพย์หักข้าวโพดของตนทำไม ตนกู้เงินคนอื่นมาลงทุน พ่อมาทำแบบนี้ก็เท่ากับลักทรัพย์จะแจ้งความจับ ขณะเดียวกันฝ่ายพ่อก็ถือไม้ที่วางอยู่เข้าไปทำท่าจะตีลูกชาย พร้อมปกป้องหลานที่ถูกพ่อแท้เดินมาทำร้ายต่อหน้า ขณะเดียวกันมีคลิปจากมือถือที่คนในละแวกถ่ายไว้ขณะเกิดการโต้เถียงกัน

โดยมีข้อความระบุว่า “ลูกชั่วต้อนรับวันพ่อแห่งชาติ ร้องเพจกำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่ ลูกคลั่งอาละวาดคนในครอบครัว วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือคุณตาด้วยครับ เหตุการณ์หนุ่มคลั่งอาละวาด ด่าพ่อ เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 4 ธ.ค. 2566 ณ บ้านหนองบง หมู่ 21 ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร โดยสมาชิกในครอบครัวส่งคลิปภาพพฤติกรรมของลูกชาย ที่จะอาละวาดคนในครอบครัว ของคุณตาสุวรรณ์ อายุ 71 ปี ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ ขาลีบ เป็นผู้พิการ โดยทำพฤติกรรมแบบนี้มาแล้วบ่อยครั้ง วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้วยครับก่อนจะเกิดเหตุสลด”

ด้าน น.ส.สุมาลี สิงห์แรง อายุ 45 ปี ผู้นำคลิปร้องเพจ เล่าว่า ตนทำงานอยู่ที่ กทม. ได้ติดกล้องวงจรปิดไว้ภายในบ้านหลายจุด เพื่อดูความเป็นอยู่ของพ่อและคนในครอบครัว ซึ่งน้องชายแท้ๆของตนเองมีพฤติกรรมเสพยา และเคยติดคุกมาแล้วถึง 3 ครั้ง โดยเพิ่งออกจากคุกมา ทุกครั้งที่ไปเสพยาก็จะมีอาการหลอน

ล่าสุดจากเหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 17.45 น. วันที่ 4 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการโต้เถียงเกี่ยวกับเรื่องของการเก็บข้าวโพดไปขาย โดยพี่ชายได้ยืมเงินพ่อในการลงทุนปลูกข้าวโพด ซึ่งก็มีการทวงถามกันเกิดขึ้น โดยพี่ชายได้เดินไปตบลูกชายที่อายุ 18 ปี ทางตาวัย 71 ได้เข้าไปช่วยหลาน โดยก่อนหน้านั้นพี่ชายของตนมีพฤติกรรมแบบนี้บ่อยครั้งได้ตบตีทำร้ายลูกเมียและทำลายข้าวของภายในบ้าน จนทุกคนหวาดกลัวว่าอาจจะก่อให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงกว่านี้ จนทุกคนย้ายหนีไปอยู่ จ.สมุทรปราการ ได้ 2 สัปดาห์แล้ว

ที่ผ่านมาได้แจ้งตำรวจในพื้นที่ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เพราะมองว่าเป็นเรื่องของคนในครอบครัว ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าหากวันไหนอดทนไม่ได้คว้าปืนยิงพี่ชายตายไป แม้ติดคุกก็ยอมเพราะทำร้ายพ่อบ่อยครั้ง ซึ่งก่อนหน้านั้นตอนแม่มีชีวิตอยู่ก็ทำร้ายร่างกายแม่บ่อยครั้ง ซึ่งแม่ก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งและเครียดเรื่องพี่ชายเมื่อต้นปี

โดยพี่ชายเพิ่งออกจากคุกมาเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา พี่น้องทุกคนก็คิดว่าจะกลับตัวเป็นคนดี ทุกคนให้โอกาสและทุกอย่างครบ แต่กลับหนักกว่าเดิม ที่ผ่านมาลูกๆทุกคนพยายามให้พ่อมาอยู่ด้วย แต่ผู้สูงอายุก็ไม่มาเพราะติดบ้าน เราก็ห่วงหากจะเอาไปบำบัดก็ไม่รู้ว่าจะกลับมายุ่งกับยาเสพติดอีกหรือไม่ ซึ่งทุกคนในครอบครัวก็เป็นห่วงพ่อกลัวว่าจะเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น ก่อนหน้านี้ตนเองทำงานอยู่ในหน่วยงาน กอ.รมน. ที่กำแพงเพชร ก็เกิดปัญหาแบบนี้เหมือนกัน ก็เข้าช่วยเหลือได้ทุกครั้ง แต่ตอนนี้อยู่ไกลก็ยังไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร