สังคม
ดรามาเข็มทิศชีวิตเปลี่ยน ครูอ้อย ออกมาฟาดกลับตุ๊ยตุ่ย
11 พ.ค. 2566
3.6K views
เป็นดรามา “เข็มทิศชีวิต” ที่ลากยาวมาตลอดสัปดาห์ จุดเริ่มต้นมาจากการเปิดใจของพิธีกร นักแสดงมากความสามารถ “ตุ๊ยตุ่ย” พุทธชาด ที่ไปออกรายการ “แฉ” เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ก็เล่าเหตุการณ์ที่ที่ผ่านมากับการถูกลัทธิครอบงำจนสูญเงินไปกว่า 100 ล้านบาท ปัจจุบันกลายเป็นหนี้กว่า 50 ล้านบาท
ตุ๊ยตุ่ย เริ่มเรื่องว่า เราก็นึกว่าสิ่งที่เราเคยอยู่ เคยมีความสุข เล่นกับน้อง มาทำงานในวงการบันเทิง ตอนนั้นมันกลายเป็นของที่มันไร้สาระ มันเป็นงานอะไรก็ไม่รู้ เราไม่ควรทำ การทำสิ่งนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่ดี ไม่ควรรับงาน ไม่ควรมายุ่งกับคนพวกนี้ที่ไร้สาระ มันได้ถูกกรอบความคิด แต่เราก็โง่เองด้วย ไม่มีใครจะมากรอบความคิดเราได้นะ ถ้าเราไม่ได้มีวิบากเก่ากับเขา
เมื่อก่อนก็ไปไหนมาไหนกับแก๊งมดดำ แต่ไปฟังบางอย่างมาแล้วคิดว่างานในวงการเป็นเรื่องไร้สาระ
“คือเมื่อก่อนเราก็ไปไหนแก๊งเดียวกัน ไปไหนไปด้วยกัน เอิ้กอ๊ากไม่หยุด เพิ่งมารู้ตัวตอนจบแล้ว เพราะคิดไปว่าการรับงานในวงการบันเทิงเป็นเรื่องไร้สาระ มันเปลืองของเวลาของชีวิต ซึ่งที่คิดแบบนั้น เพราะมันเป็นเรื่องของการเอาตัวเองเข้าไปรับฟังเรื่องบางสิ่งบางอย่าง แล้วเห็นเป็นชอบ เห็นเป็นเหมาะเป็นสม เห็นเป็นคุณธรรมอันแสนจะสูงส่ง คืองานในวงการบันเทิง จริงๆ แล้วมันสร้างความสุขให้กับคน การถ่ายละคร การทำละคร มันเอาชีวิตคนมาถอดเป็นบทเรียน คนดูจะได้ไม่ต้องมาประสบปัญหาเหมือนกับละครนั้น ถ้าดูให้เป็นมันจรรโลงไง เพื่อนฝูงที่หัวเราะเอิ้กอ้ากกันไปวันๆ มันเยียวยาจิตใจเรา บนโลกที่เราอยู่โดดเดี่ยวเดียวดาย เกาะกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน มันเป็นความบันเทิง มันไร้สาระตรงไหน
โดนชักจูงจนหลงเตลิด มีแฟนก็ต้องเลิก เพราะขัดขวางการทำคุณงามความดี
“มีก็ต้องเลิก (หัวเราะ) คือมันขัดขวางการทำคุณงามความดี ขัดขวางเราที่จะรับใช้คุณงามความดี อันนี้ต้องบอกก่อนว่า ในคำสั่งสอนของแต่ละสำนัก หรืออะไรต่างๆ นานา คือดีหมดนะ แต่มันอยู่ที่สติปัญญาของเราด้าย เพราะมีบ้างที่เซ็ตอัปตัวเอง เรียนแบบโคลนนิ่งกับสิ่งที่เปึของจริงของแท้ แล้วเขาก็ชักจูงเราไป ภายในภาพที่เหมือนเป็นของจริงของแท้ ถ้าเราไม่มีสติปัญญาทัน เราก็จะหลงเตลิดไป เหมือนอย่างที่อาเคยเป็น และเสียเวลาในชีวิตเยอะมาก ประมาณ 6-7 ปี”
ไม่ใช่ไม่มีคนเตือน แต่ใครเตือนก็ผีบ้าตาขวางใส่
“คือตาแข็ง ตาขวางเลย อาไก่ (สมพล ปิยะพงศ์สิริ) เคยพยายามจะพูด ก็ไปตาแข็งใส่เขา (เสียงสั่น) จนอาไก่เขาเสียใจ แล้วก็ห่างกันไปเลย ไม่ได้อยากโกรธเขา แต่รู้สึกว่าความห่วงใยมันทิ่มแทง มันขวางเรา หรือถ้ามดดำเตือน เราก็จะรู้สึกว่ามดดำคือพวกมาร พวกคนบาป พวกที่จะชักจูงเราไปในทางที่ไม่ดี เราอุตส่าห์มาดีแล้ว แล้วเหยียดคนอื่นโดยไม่รู้ตัว แย่มากตัวเองในตอนนั้น”
หนักจนไม่เหลือใครในชีวิต
“ไม่เหลือ ไม่ใช่เพราะเขาเกลียดชังเรานะ โชคดีที่เป็นแบบไหนคนก็ยังรัก แต่ถ้าเตือนแล้วทำตาแข็งใส่เขา เขาก็เลือกที่จะถอย เขาก็บอกว่าวันหนึ่งถ้ามีสติ ถ้ารู้ตัว แล้วบาดเจ็บมา พี่จะกอดเอาไว้ พี่จะรับเสมอ (เสียงสั่น) ทั้งๆ ที่เคยทำตัวแบบนั้น”
เมื่อก่อนทำอะไรก็ต้องเป็น “อาไก่-อาตุ่ย” แต่กลับมองว่าพี่น้องในวงการที่เตือน คือไร้สาระ
“ใช่ แล้วรู้สึกว่าคนไหนที่เราชวน ให้ไปฟังในสิ่งที่เราได้รับ แล้วเขาไม่ไป จะโกรธเขามาก มดดำเราก็ชวน แล้วคิดว่าถ้ามดดำมากับเรา จะดีกว่านี้อีก”
จากมีเงินเป็นหลักร้อยล้าน แต่วันหนึ่งไม่เหลืออะไรเลยนอกจากหนี้
“ก็รู้สึกว่าตัวเองสูญเสียอะไรไปเยอะ ขายของมา 13 ปี เก็บเงินเก่งด้วย แต่เราไปทุ่มเหมือนเราเป็นเอฟซี อยากจะทุ่มสปอยล์เอาใจ เอาไปซื้อข้าวซื้อของ พอมานั่งทบทวนตรงนี้นะ ถ้าคนอื่นซื้อเท่านี้ เราจะได้ซื้อแพงกว่ามากๆ ตังค์มันก็จะไปหมดตรงนั้น แต่หลายๆ อย่าง ไม่ใช่แค่เรื่องนั้น มันสูญสลายมลายสิ้นไป จนถึงวันนี้ก็เหลือไง เหลือหนี้ 50 กว่า พยายามกลับมาทำงานในวงการบันเทิง แล้วก็ไปโฟกัสการค้าขายมากขึ้น แต่มันก็ยังไปกอบกู้มาไม่ได้มากมาย ยังมีหนี้ติดอยู่หลายสิบล้าน ยังขับรถคันเก่า มีรถใช้อยู่คันเดียว แต่งตัวเหมือนเป็นคนชอบสมถะ แต่จริงๆ ไม่มีตังค์จะแต่ง (หัวเราะ)”
ทองที่ซื้อเก็บไว้ก็ไม่เหลือแล้ว
“ไม่มี ขายหมดเลย คือมันเป็นเรื่องของความหลงผิด ฉะนั้นคุณผู้ชมอย่าได้วู่วามนะ ว่าเงินทองที่ใส่ลงไปจะทำให้เราได้สติ ได้ปัญญา ได้เป็นคนที่ดีขึ้น ไม่ใช่นะคะ มันอยู่ที่การปฎิบัติตัวของเรามากกว่า แต่ก็พยายามคิดทุกอย่างในแง่บวก ว่าอย่างน้อยเราก็ได้เป็นอสังหาริมทรัพย์ คิดแบบนี้ไปก่อน เพื่อเป็นแรงใจยืนหยัดในการทำงาน”
สิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ คือความผิดหวังและเสียใจของคนที่รัก ขนาดแม่ยังไม่กล้าเตือนเพราะกลัวลูกบาป
“แต่สิ่งที่มันเสียและประเมินค่าไม่ได้ คือความรักที่เกิดขึ้น จากคนที่เขารักเรา ห่วงเรา เขาต้องผิดหวังเสียใจแค่ไหน แม่เราอยากจะเตือนอยากจะพูด แต่พอแตะเขาหน่อย บรรยากาศมาคุแล้ว หน้าตึงขึ้นมาแล้ว คุณแม่อยากจะเตือนมาก แต่สุดท้ายแม่ไม่เตือน แม่กลัวลูกบาป แล้วแฟนคลับของเรา เขาก็รู้แล้วก็ติงมาด้วย มานั่งอ่านคอมเมนต์ ก็รู้สึกว่าถ้าเขาไม่เคยรักเรา เขาจะไม่มีทางผิดหวังในตัวเรา แล้วในเวลานั้นเราทำให้หลายๆ คนผิดหวังในตัวเรา มันเสียใจมากตรงนั้นแหละ เรื่องเงินทองที่หายไปมันก็คือเงินทอง แต่ความรักที่หายไปมันเยอะมาก”
ทุกอย่างเกิดจากความอยากมี ไม่รู้โดนให้กินอะไรหรือเปล่า ไม่มีหลักฐานเลยพูดไม่ได้
“เกิดจากความที่เราอยากมีก่อนหนึ่ง แล้วเราก็เห็นภาพลักษณ์อันดีนั้นสอง แล้วก็เซ็ตติ้งที่มันน่าเชื่อถือ มีคนพูดว่าทำไมถึงหลงจัง คนอย่างเธอทำไมถึงหลงขนาดนั้น โดนให้กินอะไรหรือเปล่า คำตอบคือไม่รู้จริงๆ เพราะว่าอันที่เราไม่รู้ เราพูดไม่ได้ แต่เราไม่ปกติจนคนสงสัยแบบนั้น ซึ่งถ้าไม่มีหลักฐานเราพูดไม่ได้ค่ะ”
หลังจากรายการออกอากาศไป ก็เกิดเสียงวิจารณ์มากมาย ซึ่งโซเชียลโยงไปถึง ครูอ้อย-ฐิตินาถ ณ พัทลุง เจ้าของคอร์สเรียนดังอย่าง “เข็มทิศชีวิต” ที่มีลูกศิษย์ลูกหาเป็นเซเลบริตี้คนดังจำนวนมาก
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ครูอ้อย ได้ออกมาโพสต์ข้อความตอบกลับประเด็นดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่าขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
“ความจริง การที่ตุ่ย ได้ไปออกรายการ แล้วทำให้คนที่ได้ฟังและสื่อจำนวนมากเผยแพร่ออกไปว่า มาเข็มทิศ เสียเงิน 100 ล้าน เป็นหนี้ 50 ล้าน ซึ่งเป็นความเท็จ
ความจริงคือ
1. ตุ่ยไม่เคยให้เงินครู ในทางใด หรือค่าเรียนอะไรก็ตาม มาอยู่ฟรี พักฟรี กินฟรี เรียนฟรี โดยไม่เคยเสียค่าใช้จ่าย ค่าเรียน หรือ ค่าใดๆ ที่จ่ายให้ครูอ้อยแม้แต่บาทเดียว ไม่เคยให้ทั้งค่าเรียน หรือให้โดยเสน่หา ไม่เคย เงินร้อยล้านของตุ่ยมีตอนไหนไม่เคยเห็น ถ้ามีหรือเคยให้ ขอดูหลักฐาน โปรดไปถามเขาชัดๆ เคยให้เงินครูอ้อย100 ล้าน จริงไหมให้เขาตอบมา เขาอาจจะบอกว่าไม่ได้พูด
2. หนี้ 50 ล้าน ไม่ได้ให้ครู ไม่เกี่ยวกับครู ตุ่ยหาที่อยู่ แล้วไปซื้อคอนโดจากโครงการที่สาทร ประมาณ 40 ล้าน อยู่มาถึงตอนนี้ เกือบ 10 ปี ไปถามเขาใหม่ หนี้ 50 ล้าน คือ ค่าบ้านคอนโดที่ตัวเองอยู่มา เกือบ 10 ปีใช่หรือไม่
3. ปี 2560 วันที่ตุ่ยกลับจากศรีสัชนาลัย ครูบอกตุ่ยว่า ไม่ต้องมาเจอกันอีก ขอยุติการคบกันแค่นี้ และตุ่ยจะมาหาครูที่บ้าน ครูจึงออกไปพักที่โรงแรมสุโขทัยคนเดียว และเขียนกลับมาบอก ในกลุ่มไลน์โดยมีน้องสาวครูและตุ่ยอยู่ว่า ครูขออนุญาตไม่เอาแล้ว เลิกคบกัน ครูพอแค่นี้ เพราะครูเชื่อว่า ทุกคนควรมีสิทธิ์ขอยุติความสัมพันธ์ และต่างคนต่างไปมีชีวิตของตัวเอง โดยไม่ต้องออกมาให้ร้ายกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมา ครูเงียบเฉยมาตลอดแม้จะถูกพาดพิง
ไปถามตุ่ยได้ ว่า วันนั้น ทางไลน์กลุ่มครูไลน์หาจากโรงแรมที่ครูไปพัก ครูขอเลิกคบกัน แล้วตุ่ยบอกว่า รักครูเหมือนแม่ จริงหรือไม่ จากนั้น ครูไม่เคยพบตุ่ย พูดคุยหรือติดต่อกันอีก ตลอด 6-7 ปีที่ผ่านมา
4. การสอน ครูไม่สอนมาหลายปี แต่ตอนที่สอน ครูสอนให้
– [ ] รักครอบครัว รักพ่อแม่ กตัญญู ภรรยาให้เคารพสามี สามีให้รักภรรยา
– [ ] คิดดี พูดเรื่องดีดี เอาชีวิตไปทำเรื่องดีดี
– [ ] ตั้งเป้าหมายที่ดีงาม แล้วไปทำให้สำเร็จ
คนที่มุ่งร้ายต่อครู โจมตีครูมาตลอด สิบกว่าปี (ซึ่งก็อยู่เบื้องหลังการปั่นข่าวครั้งนี้อีกเหมือนเดิม ครูยังไม่ได้เริ่มจัดการ) เรียก การกตัญญูต่อพ่อแม่ ทำงานให้มีคุณภาพ เรียกให้เสื่อมเสียน่ารังเกียจว่าเป็นลัทธิ
การที่เรารักพ่อแม่ กอดท่าน กตัญญูต่อท่าน สามีภรรยา ควรรักกันอย่างซาบซึ้ง เข้าใจต่อกัน และคนทุกคนควรมีโอกาสทำความฝันที่จะเลี้ยงดูพ่อแม่และครอบครัวให้ดี ต้องถูกตราหน้าว่าเป็นลัทธิหรือ?
ปัจจุบันครูไม่สอนแล้ว เพราะบทเรียนฟรี ที่ครูทำไว้ให้มีมากพอ และครูก็อยากใช้เวลาสงบสุขของตัวเอง
5. เมื่อหลายปีก่อน ตอนยังคบกัน ตุ่ยบอกว่า เพราะครูเลยขายของ ตอนนั้นขายดีมาก วันแรกมาเจอครูอยากมีเงินแค่ 1 ล้าน วันที่ 8 มีนาคม 2559 ที่ห้องเรียน เข็มทิศฟรีฟรีฟรี มีคนไปฟรี 1,000 คน ตุ่ยประกาศว่ามีเงินรวมทรัพย์สิน 200 กว่าล้าน
และภายหลังประกาศกับประชาชนออกสื่อว่าเพราะครูสอนให้ทำงานแบบมีคุณภาพเลยได้งานพิธีกรรายการ Amazing Thailand (ชื่อรายการจำไม่ได้แม่น) ถ่าย 3 เทปได้เงิน 7 แสนบาท ตุ่ยพูดว่า ปกติทำพิธีกรเหนื่อยราวกับไถนา พอทำที่ครูสอนได้เงินจากขายของและทำพิธีกร ดีกว่าเดิมมากๆเลย ไปถามตุ่ยได้ว่า พูดจริงหรือไม่
สรุป ตลอดเวลาที่คบกัน ทุกวันตุ่ยจะขอบคุณครูในสิ่งที่ครูทำให้ และครูไม่เคยได้เงินจากตุ่ยเลย และครูเป็นคนว่าตุ่ยและขอเลิกคบตุ่ย ตลอดเวลาที่เราเคยคบกันตุ่ยไม่เคยแสดงหลักฐานการมี100 ล้านให้ดู และ ไม่เคยมีเหตุเสียเงิน 100 ล้านใดๆ ดูจากสเตทเม้นท์ธนาคารของเขาได้
แต่หลังจาก ครูเลิกคบตุ่ยแล้ว เขาไปเสียเงินกับใครที่ไหนครูไม่เกี่ยวและไม่ทราบ
สุดท้าย แม้ครู ไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับตุ่ย แต่ครูก็มีความปรารถนาดีและเห็นใจตุ่ยเสมอ คนบอกว่าตุ่ยเล่าในรายการว่าลำบาก เงินหมด เป็นหนี้ ครูก็ขอเอาใจช่วยให้ตุ่ย พ้นจากเคราะห์กรรมวิบาก พ้นเคราะห์พ้นโศก โรคภัยเสนียดจัญไรเวรกรรม”
แท็กที่เกี่ยวข้อง เข็มทิศชีวิต ,ครูอ้อยเข็มทิศชีวิตเปลี่ยน ,ดรามาตุ๊ยตุ่ย