สังคม
‘เด็ก 13’ เผยเสพยาตั้งแต่ ป.6 คลั่งยา 2 ปี สำนึกผิด สงสาร ตา-ยาย เคยขู่รีดเงินไปซื้อ
20 ก.พ. 2566
682 views
ทาสยาตั้งแต่ ป.6! “เด็ก 13 ชาวบุรีรัมย์” เผย รุ่นพี่ชวนลองยานรกเพียงเม็ดเดียว กลายเป็นเสพติดนาน 2 ปี วันนี้สำนึกผิด เข้าศูนย์บำบัดฟื้นฟู สงสาร ตา – ยาย เคยขู่เอาเงินไปซื้อแทบทุกวัน
วันที่ 20 ก.พ.66 ที่วัดจันทราวาส ต.ลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งเป็นศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ของมูลนิธิอานัตพลซารัมย์ เป็นโครงการที่นำผู้ที่ติดยาเสพติดแล้วสมัครใจมาบำบัดรักษาให้เลิกเสพ พร้อมส่งเสริมอาชีพหลังจบหลักสูตรฟื้นฟู 5 วัน โครงการดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งความหวังของบรรดาผู้ปกครองเด็กเยาวชนที่ยังผวาว่าบุตรหลานของตนเองจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ หรือหากเข้าไปแล้วจะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สามารถพึ่งพาได้
ด.ช.จูน (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ลำปลายมาศ หนึ่งในผู้เข้าร่วมบำบัดในโครงการ เล่าว่า ตอนเรียนอยู่ชั้น ป.6 ถูกเพื่อนรุ่นพี่ในโรงเรียนมาชวนให้ไปเสพยาบ้า ตอนแรกไม่กล้า แต่โดนรบเร้า จึงลองเสพเม็ดแรกซึ่งทำได้ไม่ยากเพราะสูบบุหรี่เป็นอยู่แล้ว แต่ไม่น่าเชื่อเพียงเม็ดเดียวที่เสพ กลายเป็นความอยากยากในวันถัดมา เพื่อนรุ่นพี่บอกว่า “มันดีด” จึงขอซื้อจากเพื่อนรุ่นพี่ในราคาเม็ดละ 100 บาท เสพมาอย่างต่อเนื่อง แทบทุกวันที่ขอเงินจากปู่กับย่ามาได้
ต่อมาเสพวันละเม็ดไม่เพียงพอ จะต้องเสพวันละ 2-3 เม็ด ยอมรับว่าจะต้องขอเงินตา กับยายทุกวัน หรือบางครั้งจะต้องขโมยเอามาเพื่อเอาไปซื้อยาบ้ามาเสพ ยอมรับสงสารตากับยายที่พยายามหาเงินมาให้ทุกวันๆ ละ 200 - 300 บาท รวมแล้วเสพยาบ้ามานานกว่า 2 ปี
จนกระทั่งมีโครงการนี้มาจึงสมัครเข้าบำบัด ตอนนี้รู้ซึ้งแล้วจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกแล้ว และอยากจะฝากถึงเพื่อนๆที่คิดอยากจะลองเสพยาบ้า ตนขอแนะไม่ใกล้ดีที่สุด เพราะเป็นการพลาดแล้วพลาดเลยกว่าจะแก้ได้ต้องใช้เวลา ครั้งนี้หากไม่มีโครงการนี้อาจจะถลำลึกไปมากกว่านี้ได้
ด้านนายโสภณ ซารัมย์ ประธานมูลนิธิอานัตพลซารัมย์ กล่าวว่า มูลนิธินี้ได้ตั้งขึ้นมาหลังจากลูกชายชื่ออานัตพล ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เป้าหมายเพื่อช่วยเหลือสังคมทุกรูปแบบไม่เกี่ยวกับการเมือง ระยะหลัง เห็นยาเสพติดแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ทุกหมู่บ้านจะต้องมีคนเสพไม่มากก็น้อย มีความรู้สึกเป็นห่วงสังคม ซึ่งบางรายที่ตนพบพ่อแม่ ไม่มีแม้ข้าวจะกรอกหม้อ แต่ลูกชายมีเงินซื้อยาบ้ามาเสพ จึงเอางบประมาณจากมูลนิธิฯมาเปิดเป็นศูนย์บำบัด โดยมีหน่วยงานราชการและภาคเอกชน เข้ามามีส่วนร่วมด้วย
นายโสภณ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ได้ประเมินเอาไว้ว่า ผู้ที่เข้ามาบำบัดในศูนย์แห่งนี้ แต่ละรอบถ้าออกไปแล้ว จำนวนหนึ่งคาดว่าประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์จะหันกลับไปเพราะเพื่อนชวน อีกส่วนหนึ่งเชื่อว่าจะไม่หวนกลับไป เพราะมีการอบรมเข้ม
สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือยาบ้าเข้ามาในทุกรูปแบบ และกระจายอย่างรวดเร็ว ในฐานะที่เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่ง อยากให้มีการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไปให้ช่วยกันสอดส่องดูแลเป็นตาสัปปะรด เพื่อความสงบสุขของสังคมต่อไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง เด็กติดยา ,ข่าวยาเสพติด ,เด็กป6ติดยา ,เด็ก13ติดยาเสพติด