ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ กิตติศักดิ์ฟาร์ม ของ จ.ร้อยเอ็ด เนื่องจากทราบข่าวว่าวันนี้จะมีเจ้าของฟาร์มชนไก่จาก ซุ้ม ส.ทวีโชคฟาร์ม เดินทางจาก จ.บุรีรัมย์ มาขอซื้อไก่ชนที่มีชื่อว่า เจ้าอินทรีย์แดง ฉายา แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ น้ำหนักกว่า 3 กิโลกรัม โดยให้ราคาสูงถึง 1 ล้านบาท



โดยเสี่ยต้อม คุณกิตติศักดิ์ จันทร์ทอง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ทางเสี่ยโจ๊ก จากซุ้ม ส.ทวีโชคฟาร์ม จะมาขอซื้อไก่ชนจากตน ซึ่งโดยปกติแล้วเสี่ยโจ๊กเองก็เป็นลูกค้าที่มักจะมาซื้อลูกไก่ชนจากตนเป็นประจำอยู่แล้ว โดยมักจะซื้อลูกของเจ้าอินทรีย์แดง สาเหตุเพราะ เจ้าอินทรีย์แดงเป็นไก่ชนที่เก่งมาก อีกทั้งมีประวัติการลงสนามที่น่าสนใจคือ เมื่อปี 2563 ลงสนามชนไก่ครั้งแรก ด้วยวงเงินแข่งขันชนไก่ที่ 4 หมื่นบาทก็สามารถคว้าชัยไปได้ พอมาถึงการลงแข่งขันชนไก่ในครั้งที่สองที่สนามบางเลน วงเงินในการแข่งขันก็สูงขึ้นถึง 2,200,000 บาท ก็สามารถคว้าชัยได้อีก จนกระทั่งมาถึงการลงแข่งขันในครั้งที่สามที่สนามเรืองชัย วงเงินในการแข่งขันก็อยู่ที่ 1,100,000 บาท ก็ยังสามารถชนชนะคว้าชัยไปได้อีก ซึ่งการแข่งขันครั้งที่สองและครั้งที่สามใช้เวลาเพียงแค่ 29 วันนับเป็นสถิติที่น่าสนใจสำหรับเซียนชนไก่เป็นอย่างมาก อีกทั้งเสี่ยโจ๊ก จากซุ้ม ส.ทวีโชคฟาร์ม ก็คลั่งไคล้เจ้าอินทรีย์แดงถึงขนาดเรียกได้ว่าเป็นแฟนคลับของเจ้าอินทรีย์แดงเลยทีเดียว



จากสาเหตุข้างต้นนี้เอง เสี่ยโจ๊ก ก็ได้ติดตามเดินทางมาซื้อลูกไก่ชนของเจ้าอินทรีย์แดง จนกระทั่งวันหนึ่งเสี่ยโจ๊กต้องการซื้อลูกเจ้าอินทรีย์แดงอีก แต่ทางเสี่ยต้อมบอกว่า ลูกของเจ้าอินทรีย์แดงหมดแล้ว จะเหลือก็แค่เจ้าอินทรีย์แดง ก็เลยออกปากท้าเสี่ยโจ๊กว่า เอาไหมล่ะขายให้ตัวละ 1 ล้านบาท ปรากฏว่าเสี่ยโจ๊กได้ยินก็ดีใจด้วยความชอบเจ้าอินทรีย์แดงอยู่แล้ว จึงตัดสินใจซื้อทันที ทำเอาเสี่ยต้อมตกใจว่าพูดเล่นๆแต่เอาจริง แต่ก็คืนคำไม่ได้ ก็เลยเป็นที่มาของการขายเจ้าอินทรีย์แดงให้เสี่ยโจ๊กในราคา 1 ล้านบาท



ซึ่งในขณะที่ทำการซื้อขายและวางพานเงินจำนวน 1 ล้านบาทไว้ ก็มีสักขีพยานที่สนใจมาร่วมงานในครั้งนี้ พร้อมทั้งถามหาว่า พ่อกับแม่ไก่ชนของเจ้าอินทรีย์แดงคือตัวไหน ทางเสี่ยต้อมก็เลยให้ผู้ดูแลไก่ชนไปพาแม่ของเจ้าอินทรีย์แดงมาให้กับทุกๆคนได้เห็น ซึ่งน่าเสียดายที่ตัวพ่อชื่อ แสนคม นั้นเสียไปแล้ว ส่วนตัวแม่มีชื่อว่า พญาอินทรีย์ ลักษณะดี สีเหลืองทอง ดูสง่า พอคนในงานถามว่า ตัวแม่พญาอินทรีย์ ราคาเท่าไร เสี่ยต้อมก็เลยพูดเล่นๆว่า 3 แสนบาท เฉพาะวันนี้นะ หลังจากวันนี้ 5 แสนบาทก็ไม่ขายแล้วนะ ซึ่งในขณะนั้นเสี่ยโจ๊กก็ขอพญาอินทรีย์มาอุ้ม แล้วบอกว่า ผมเอาเลยครับ เล่นเอาเสี่ยต้อมตกใจหน้าเหวออย่างหนักน้ำตาจะไหล ไม่คิดว่าเสี่ยโจ๊กจะเอาจริง



จากนั้นทางคนในงานก็ถามว่า จะจ่ายเป็นเงินสดเลยไหม ทางเสี่ยโจ๊กก็เลยบอกว่า จะจ่ายเป็นเงินสดแต่ไม่ครบครับพี่ ทีนี้เสี่ยต้อมดีใจคิดว่าไม่ต้องขายพญาอินทรีย์ให้กับเสี่ยโจ๊กแล้ว แต่เสี่ยโจ๊กบอกว่า เงินสดไม่พอ ขอโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารให้แทน เล่นเอาเสี่ยต้อมทำหน้าเหวออีกครั้ง โดยเสี่ยโจ๊กควักเงินสดจำนวน 2 แสนบาทออกมาวางไว้ให้ แล้วที่เหลืออีก 1 แสนบาทก็ทำการโอนผ่านบัญชีธนาคาร โดยโชว์สลิปการโอนให้กับผู้สื่อข่าวดูด้วยว่าโอนให้เสี่ยต้อมจริงๆ ซึ่งสรุปการซื้อขายในวันนี้คือ ไก่ทั้งสองตัวทั้งเจ้าอินทรีย์แดงและแม่พญาอินทรี ราคารวมกัน 1,300,000 บาท



เสี่ยโจ๊ก จากซุ้ม ส.ทวีโชคฟาร์ม จ.บุรีรัมย์ เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนติดตามเจ้าอินทรีย์แดงมานานแล้ว ตั้งแต่การชนไก่ครั้งที่สองที่มีการวางเงินแข่งขันที่ 2,200,000 บาท ตั้งแต่ปี 2563 พอเกิดสถานการณ์โควิดขึ้น เจ้าอินทรีย์แดงก็ไม่ได้ลงสนามชนไก่อีก ตนก็เลยเดินทางมาที่ กิตติศักดิ์ฟาร์ม เพื่อขอซื้อลูกของเจ้าอินทรีย์แดงไปพัฒนาฝึกซ้อมให้เป็นไก่ชน โดยเจ้าอินทรีย์แดงเองก็ให้ลูกที่ดก ตนเองชอบอินทรีย์แดงมาก แต่ก็ไม่กล้าพูดขอกับเสี่ยต้อม พอดีว่าวันหนึ่งตนกลับมาว่าจะซื้อลูกของอินทรีย์แดงอีก แต่เสี่ยต้อมบอกว่า ลูกหมดแล้วเหลือแต่พ่อมัน เสี่ยต้อมท้าขายเจ้าอินทรีย์แดงให้ผมในราคา 1 ล้านบาท โดยที่คิดว่าผมจะไม่กล้าซื้อ แกพลาดท่าให้ผม แกพูดมาก็ต้องรับผิดชอบในคำพูด โดยตนมีความตั้งใจจะนำอินทรีย์แดงไปพัฒนาสายพันธุ์ เพื่อลงแข่งขันชนไก่เงินแสนเงินล้านต่อไป ส่วนในวันนี้ตนไม่ได้ซื้อแค่เจ้าอินทรีย์แดงเพียงตัวเดียว แต่กลับได้ตัวแม่พญาอินทรีย์ซึ่งเป็นแม่ของอินทรีย์แดงอีกตัวในราคา 3 แสนบาทกลับไปด้วย สำหรับผมผมว่าไม่แพง ซึ่งในอนาคตอาจจะมีอินทรีย์แดงตัวที่สองตัวที่สามตัวที่สี่ตัวที่ห้าตามมาอีกก็ได้ ซึ่งอาจจะได้ไปชนไก่แถวภาคกลาง ในสังเวียนใหญ่ๆ และอาจจะค่าตัวแพงกว่าอินทรีย์แดงก็ได้ ซึ่งเราก็ไม่รู้อนาคตในภายภาคหน้า ซึ่งมันก็อยู่ในเชิงธุรกิจครับ



ส่วนเสี่ยต้อม กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้เป็นการย้ายค่ายของเจ้าอินทรีย์แดง ตัวนี้เป็นไก่ที่ชนะเงินล้าน 2 ไฟต์ติดภายในระยะเวลา 29 วัน โดยย้ายค่ายจาก กิตติศักดิ์ฟาร์ม จ.ร้อยเอ็ด ไปสู่ซุ้ม ส.ทวีโชคฟาร์ม จาก จ.บุรีรัมย์ ด้วยค่าตัว 1 ล้านบาท สำหรับความผูกพันธุ์ของไก่ทั้งสองตัวนี้ เราก็ปั้นมันมาตั้งแต่เป็นหนุ่ม ความผูกพันธ์ย่อมมีแน่นอน ทุกครั้งที่เราเอาไปชน เห็นมันเจ็บ มันก็เหมือนกับลูกหลานเราโดน เราก็เอาใจช่วยมันเต็มที่ ผมเลี้ยงไก่มาตั้งแต่เด็ก ผูกพันธ์กับไก่มาตลอดทั้งชีวิตครับ เสี่ยต้อมกล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำตาซึมๆ