สาวท้องแก่ไปรพ. แต่หมอไม่ยอมผ่าคลอด สุดท้ายเด็กเสียชีวิต

สังคม

สาวท้องแก่ไปรพ. แต่หมอไม่ยอมผ่าคลอด สุดท้ายเด็กเสียชีวิต

โดย nutda_t

15 ก.พ. 2565

1.2K views

ความคืบหน้ากรณี พ่อแม่ซึ่งทำงานอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่ง ในจังหวัดลพบุรี ลางานเพื่อมาคลอดลูก แถมผู้เป็นพ่อแม่ ได้สร้างบ้านเอาไว้เพื่อที่จะให้ยายเอาไว้เลี้ยงดูหลานที่กำลังจะคลอด สุดท้ายกลายเป็นต้องเสียลูกชาย ซึ่งเด็กมีน้ำหนัก 3.3 กิโลกรัม แทนที่จะเป็นงานฉลองรับลูกชายคนแรก แต่กลับต้องมาเปลี่ยนเป็นการจัดงานศพแทน เหตุเพราะหมอที่รับฝากครรภ์แบบพิเศษไม่ยอมมาดูแลตอนกำลังจะคลอด แถมยังติดต่อไม่ได้ มาเจอหน้าอีกทีตอนรู้ว่าลูกชายตายคาท้องแล้ว





โดยวานนี้ ญาติ ๆ ได้เดินทางมารับตัว นางสาวจิราภร อายุ 24 ปี ออกจากโรงพยาบาล ส่วนลูกชายที่เสียชีวิต หมอได้ทำการผ่าตัดเอาเด็กออกจากท้อง โดยญาติยังคงขอฝากเด็กชายไว้ที่ห้องดับจิต ทั้งนี้ฝ่ายบริหารของโรงพยาบาล ได้มาพูดคุยกับทางญาติ และขอนัดเจรจาในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 65 เบื้องต้นทางโรงพยาบาลได้มอบเงินเยียวยาเพื่อให้การช่วยเหลือกับทางญาติไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งทางญาติเอง ตอนแรกก็ไม่อยากจะรับเพราะกลัวว่าต่อไปทางโรงพยาบาลจะปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งทางโรงพยาบาล ยืนยันจะมีการส่งเรื่องนี้เข้ากองทุน เพื่อที่จะให้การช่วยเหลืออย่างแน่นอน ทางญาติจึงตัดสินใจรับเงินเยียวยาในเบื้องต้นเอาไว้



ทั้งนี้ทางโรงพยาบาล ได้ชี้แจงว่า สาเหตุที่ไม่ได้ทำการคลอดให้ในวันนั้น เนื่องจากน้ำคร่ำยังไม่เดิน ปากมดลูกเปิดเพียงแค่ 1 เซนติเมตร ซึ่งตามปกติ ต้องเปิดราว 5-10 เซนติเมตร จึงจะทำการคลอดให้ แต่เห็นว่าน้ำคร่ำยังไม่เดิน จึงเลื่อนการผ่าตัดออกไป ส่วนสาเหตุของการที่เด็กเสียชีวิต เชื่อว่าเกิดจากการที่สายสะดือพันคอ ซึ่งไม่เกี่ยวกับที่โรงพยาบาลไม่ยอมผ่าตัด



ขณะเดียวกัน ทางด้านหมอประจำคลินิก ได้เปิดเผยข้อมูลกับทางผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเพิ่งจะรับฝากท้องแม่และเด็ก ได้เพียงครั้งเดียว คือราวช่วงเดือนมกราคม 2565 มาทราบอีกครั้งในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ว่าแม่และเด็ก เข้าโรงพยาบาล และทราบจากพยาบาลว่ามดลูกเปิดได้แค่ 1 เซนติเมตร และไม่มีอาการน้ำคร่ำเดิน จึงยังไม่ตัดสินใจผ่าตัดให้ อีกทั้งการตรวจสภาพร่างกายเด็กด้วยอุปกรณ์การแพทย์ พบว่าเด็กมีสภาพร่างกายแข็งแรง จึงยังไม่ทำการผ่าตัด กระทั่งวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 มาทราบอีกครั้งว่าแม่และเด็กมาที่โรงพยาบาล ซึ่งผลการตรวจอัลตราซาวด์ พบว่าเด็กไม่มีชีพจรแล้ว และทางหมอประจำคลินิก ก็ได้ทำการผ่าตัด และทำแผลให้กับทางผู้เป็นแม่มาโดยตลอด ตั้งแต่วันที่ 10-11-12 และ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา



จากการสอบถาม นางสาวจิราภร แม่ของเด็ก เปิดเผยว่า รอบแรกตนเองมาวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ได้โทรไปถาม เพราะว่ามีมูกออกมา จะต้องมีมูกขนาดไหนถึงจะไปโรงพยาบาล เพราะมีอาการท้องปั้น ก็ได้คำตอบว่า ถ้าไม่มั่นใจก็ให้ไปเลย เพราะแต่ละเคสไม่เหมือนกัน บางคนปวดท้อง บางคนไม่ปวดท้อง ตนเองก็เลยเดินทางไปโรงพยาบาล เข้ารับการตรวจ ปากมดลูกเปิด 1 เซนติเมตร ท้องปั้นถี่บ่อย หมอให้แอดมิทเผื่อเจ็บท้องแล้วพอเช้ามา ทางโรงพยาบาลก็เปลี่ยนใจให้กลับบ้าน จนกระทั่งได้มาเจอหมอที่ฝากครรภ์พิเศษ ช่วงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ตอนเย็น หลังจากลูกตายแล้ว โดยหมอรับฝากครรภ์เมื่อมาถึงก็ทำการอัลตราซาวด์ แล้วแจ้งกับตนว่า เด็กในท้องเสียแล้ว

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ