หดหู่ คนงานก่อสร้างฉุดเด็กหญิงวัย 13 ข่มขืนบนรถกระบะ ขณะขี่รถพ่วงไปรอรับแม่

อาชญากรรม

หดหู่ คนงานก่อสร้างฉุดเด็กหญิงวัย 13 ข่มขืนบนรถกระบะ ขณะขี่รถพ่วงไปรอรับแม่

โดย nicharee_m

23 ต.ค. 2564

1.6K views

หนุ่มก่อสร้างวัย 31 ปี ข่มขืนเด็กหญิงอายุ 13 ปีบนรถกระบะ ขณะที่เด็กหญิงผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์พ่วงไปรอรับแม่ที่กลับมาจากทำงาน


เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 19 ตุลาคม ริมถนนหลังวัดคานหาม หมู่ 2 ต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเด็กหญิงอายุ 13 ปี ถูกคนร้ายเป็นชาย ดักฉุดขึ้นรถกระบะ นิสสัน ก่อนลงมือข่มขืนบนรถจนสำเร็จความใคร่ ขณะที่เด็กอายุ 13 ปีคนนี้ กำลังขี่รถจักรยานยนต์พ่วงสามล้อจากบ้านพัก ไปรับแม่ที่เลิกจากงาน จากโรงงาน แต่ระหว่างทางจะกลับบ้าน ปรากฎว่ารถพ่วงน้ำมันหมด ก่อนที่ผู้ก่อเหตุ จะขับรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน สีเหลือง เดินลงมาจากรถ และกระชากตัวเด็กไปข่มขืน


โดยทราบภายหลังว่าคนก่อเหตุคือนายน็อต อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นคนงานรับเหมาก่อสร้างที่อาศัยอยู่ใกล้กับบ้านพักของเด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ


ทีมข่าวได้พูดคุยกับแม่ผู้เสียหาย เล่าว่า ผู้ต้องหาคงจะมองลูกสาวมานานแล้ว เพราะห้องพักคนงานอยู่ใกล้กัน อีกทั้งผู้ต้องหาเคยบอกว่าชอบลูกสาวและอยากได้เบอร์โทรศัพท์ จึงไปขอเบอร์จากเด็กแถวบ้าน ก่อนที่จะส่งข้อความมาหา ซึ่งลูกสาวก็ไม่ได้สนใจอะไร


กระทั่งในคืนเกิดเหตุ ที่ลูกสาวไปรอรับอยู่หลังวัดคานหาม ลูกสาวจึงบอกให้ตนปั่นจักรยานนำมาก่อน แล้วจะขี่รถพ่วงตาม แต่ปรากฏว่ารถพ่วงของลูกสาวน้ำมันหมดพอดี


เมื่อตนปั่นมาถึงบ้าน ยังไม่เห็นลูกสาวกลับมา จึงตัดสินใจปั่นจักรยานกลับไปดู และภาพที่เห็นคือลูกสาวขี่รถพ่วงกลับมา พร้อมกับโก่งๆ ตัว เหมือนเจ็บปวด และร้องไห้ ก่อนที่จะวิ่งไปหาพี่สะใภ้ตอนถึงบ้าน แล้วบอกกับพี่สะใภ้ว่าถูกข่มขืน


วินาทีนั้น ใจสลาย รับไม่ได้ เพราะเป็นห่วงลูก แต่ก็พยามปลอบลูกว่าอย่าเสียใจนะลูก แล้วรีบตัดสินใจพาลูกไปโรงพยาบาลอุทัยเพื่อตรวจร่างกาย ขณะที่ลูกสาว ยังมีอาการตกใจ ต้องคอยปลอบทุกวัน ว่าลูกอย่าคิดอะไรมาก เวลาไปทำงานลูกสาวก็จะโทรมาถามว่าเมื่อไหร่จะกลับมา เวลาพ่อแม่ไม่อยู่ด้วยก็ซึมเศร้า


ตนอยากถามนายน็อตว่า ถ้าเป็นคนอื่นมาทำลูกหรือภรรยาตนเองจะทำยังไง “มึงมีหัวอกความเป็นพ่อไหม เพราะเขามีลูกมีเมียมีลูก”


ทางด้านพ่อผู้เสียหาย กล่าวว่า เสียใจมาก พูดอะไรไม่ออก นอนไม่ได้ วันนั้นโกรธมาก พอทราบข่าวทำอะไรไม่ถูกเลย และพยามแอบมาดูที่บ้านพักคนงานอยู่เรื่อยๆ อยากให้ตามตัวผู้ก่อเหตุมาให้ได้ และมาขอโทษน้อง


ขณะที่ทีมข่าวได้พูดคุยกับน้องชายของผู้ต้องหา เล่าว่า ตนและครอบครัว ย้ายมาทำงานก่อสร้าง อยู่ที่บ้านเช่าใกล้กับบ้านผู้เสียหายได้ประมาณสองเดือนกว่า ในวันเกิดเหตุ ไม่มีใครทราบเรื่อง กระทั่งช่วงเย็นของวันถัดมา นายน็อตโทรมาหาตนเอง และถามว่า มีวัยรุ่นมาดักรออยู่หน้าห้องเช่ารึเปล่า ตนเองสงสัย จึงออกไปถามชาวบ้าน และทราบว่าพี่ชายไปข่มขืนน้อง 13 ปี มา


ซึ่งที่ผ่านมา นายน็อตไม่เคยมีพฤติกรรมลักษณะนี้ และเจ้าตัวมีภรรยาอยู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และมีลูกติด ซึ่งคุณพ่อผู้ต้องหาก็ตกใจ ไม่คิดว่าจะทำแบบนั้น และไม่สมควรทำ เบื้องต้นได้บอกครอบครัวของผู้เสียหายไปแล้วว่าขอโทษแทนพี่ชายที่ไปทำแบบนั้น


ที่ผ่านมา ตนพยามเกลี้ยกล่อมให้พี่ชายเข้ามอบตัว ซึ่งสาเหตุที่หลบหนี เพราะกลัวโดนอาต่อว่า ก่อนที่ผู้ต้องหาจะบอกว่าอยู่แถวโรจนะ พร้อมบอกว่าจะมอบตัวภายในสามวัน กระทั่งคืนก่อนที่จะถูกจับกุม ก็ได้ส่งโลเคชั่นมาให้น้องชายโดยพิกัดยังอยู่ที่อำเภออุทัย


ล่าสุด ตำรวจ สภ.อุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ติดตามจับกุมตัวนายน็อตได้เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ตำบลหนองรี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ขณะกำลังขับรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุ หลบหนีไปหาเพื่อนที่ไซต์งานก่อสร้าง ตำรวจจึงแกะรอยจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม


เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ทำการล่วงละเมิดทางเพศจริง โดยจอดรถที่บริเวณหลังวัดคานหาม จากนั้นเห็นน้องผู้หญิงอายุ 13 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเลยเรียกให้จอด ก่อนจะบังคับให้น้องผู้หญิงขึ้นมาบนรถกระบะ จากนั้นกระทำอนาจารและกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ ก่อนที่จะปล่อยตัวเด็กทิ้งไป ส่วนตนเองหลบหนี


ตำรวจแจ้งข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร และพาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตามฯ ก่อนที่วันนี้ (23 ต.ค.) พนักงานสอบสวน จะทำการขออำนาจศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฝากขังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ผัดแรกต่อไป


อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://youtu.be/2PCF6GNrcKo

คุณอาจสนใจ