แบงค์ชาติ และสมาคมธนาคารไทย ยืนยันจะเร่งคืนเงินให้ลูกค้าที่ถูกดูดเงินจากบัตรเดบิต และเครดิต ภายใน 5 วัน หลังตรวจพบข้อมูล พร้อมวางมาตรการเข้มป้องกัน

นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย และนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ร่วมชี้แจง กรณีการตัดเงินผิดปกติจากบัญชีบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า เกิดเหตุมากที่สุดช่วงวันที่ 14 ถึง 17 ตุลาคมที่ผ่านมา มีบัตรถูกดูดเงิน จำนวน 10,700 ใบ มูลค่าความเสียหาย 130 ล้านบาท

ส่วนใหญ่กว่า 50 % เกิดกับบัตรเดบิต และเป็นการทำธุรกรรมเล็ก ๆ เช่น 1 ดอลล่าร์ ซึ่งไม่ต้องใช้ตัวเลข โอทีพี.ยืนยันตัวตน โดยมาจากการทำธุรกรรมชำระค่าสินค้า และบริการกับร้านค้าออนไลน์ที่อยู่ในต่างประเทศเป็นหลัก ไม่ได้เกิดจากการรั่วไหลของข้อมูลจากธนาคารพาณิชย์เจ้าของบัญชี 

วิธีการ คือ มิจฉาชีพจะใช้โรบอทเข้ามาสุ่มตัวเลขบนบัตร กับบัตรที่ผูกกับการซื้อสินค้าออนไลน์ กับร้านค้าในต่างประเทศ ซึ่งเมื่อธนาคารตรวจพบ หรือ ได้รับแจ้ง ก็ได้ทำการอายัดบัตรทันที

เบื้องต้นแบงค์ชาติ ได้กำชับให้ธนาคารพาณิชย์ ยกระดับการตรวจจับ โดยตั้งค่าการตรวจจับที่มีธุรกรรมต่ำ เช่น 1 ดอลล่าร์ เพื่อให้เกิดการแจ้งเตือนทันที เมื่อมีการใช้จ่ายผิดปกติ และเตรียมหารือกับวีซ่า และมาสเตอร์การ์ด ให้มีการยืนยันตัวตนเพิ่มเติม รวมทั้งร่วมมือกับ กสทช. , เอดด้า และตำรวจ ยกระดับเครื่องมือตรวจจับให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกดูดเงินออกจากบัตร กรณีบัตรเดบิต เมื่อธนาคารได้รับแจ้ง จะเร่งคืนเงินภายใน 5 วัน ส่วนบัตรเครดิต ธนาคารจะยกเลิการใช้ โดยที่ลูกค้าไม่ต้องชำระยอดเงินที่เสียหาย และไม่คิดดอกเบี้ย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/49uCYkTxhs4