โจรขาเทียมเจ้าเล่ห์ แปลงไม้ค้ำยันเป็นปืนแก๊บ บุกลักทรัพย์รีสอร์ตญาตินักกีฬาทีมชาติ

อาชญากรรม

โจรขาเทียมเจ้าเล่ห์ แปลงไม้ค้ำยันเป็นปืนแก๊บ บุกลักทรัพย์รีสอร์ตญาตินักกีฬาทีมชาติ

โดย nicharee_m

12 ต.ค. 2564

6.2K views

ตำรวจ สภ.มัญจาคีรี คุมตัว นายจวบ โจรขาเทียมดัดแปลงไม้ค้ำยันเป็นปืนแก๊บ ปั่นจักรยานเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ในรีสอร์ทญาติของนักกีฬาเซปักตะกร้อมทีมชาติไทย พบอาวุธปืนแก๊บสั้นอีก 1 กระบอกซุกซ่อนอยู่ในผ้าห่มบนเตียง ซึ่งนั่งทับไว้ตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุม


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ต.ค.2564 พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น พร้อมพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน คุมตัว นายศุภชัย เย็นใจ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ภายในรีสอร์ทของพรชัย เค้าแก้น นักกีฬาเซปักตะกร้อทีมชาติไทย และภายในห้องเช่าไม่มีชื่อซึ่งเป็นของเครือญาติกัน มาชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ


หลังจากที่ได้ลงมือก่อเหตุเปิดรถเก๋งของผู้มาเช่าอาศัยภายในห้องเช่าไปประมาณเกือบ 200 บาท พร้อมทั้งล็อคแม่กุญแจประตูหน้าห้องไม่ให้ผู้เสียหายออกมา ซึ่งขากลับได้ลืมไม่ค้ำยันดัดแปลงเป็นปืนแก๊บยาวไว้หลังกระบะภายในรีสอร์ทนักกีฬาทีมชาติ เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2564 ที่ผ่านมา


กระทั่งเมื่อช่วงค่ำวานนี้(11 ต.ค.64) ผกก.นำชุดสายตรวจและชุดสืบสวน สภ.มัญจาคีรี ลงพื้นที่ไปหานายศุภชัย ถึงที่บ้าน และตรวจค้นพบอุปกรณ์ทำอาวุธปืน เครื่องเชื่อม เครื่องตัดเหล็กอยู่ภายในห้องซึ่งปิดทึบมีหลอดไฟเล็กดวงเดียว และมีมีดซ่อนอยู่ตามซอกมุมต่างๆ ในห้องนายศุภชัย ซึ่งพ่อแม่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างดีใจ เพราะลูกชายสร้างความเดือดร้อนให้พ่อแม่ ด่าทอพ่อแม่ อยากให้ตำรวจนำตัวไปดำเนินคดีเพื่อดัดนิสัย




ซึ่งบรรยากาศตลอดการชี้จุด นายศุภชัย จะปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ แล้วสักพักก็จะยกมือขอโทษทุกคน จะไม่ทำอีก ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่าขอโทษทำไม ทำอะไรผิด ซึ่งนายศุภชัยก็ยอมรับว่าลงมือขโมยเงินผู้เสียหายไปจริงเอาไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ แล้วก็กลับบ้าน ส่วนไม้ค้ำยันเป็นของตนเองจริง แต่ไม่รู้ว่าไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไง อาจจะมีคนกลั้นแกล้งใส่ความ ก่อนที่นายศุภชัยจะเดินเข้าไปขอโทษผู้เสียหายอีกครั้ง




ซึ่งผู้เสียหายก็ให้อภัยแต่เนื่องจากเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ยอมความไม่ได้ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากเสร็จจุดที่ก่อเหตุทางตำรวจก็คุมตัวนายศุภชัย ไปชี้จุดที่บ้านเป็นที่ถูกตำรวจจับกุมตัวเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งช่วงที่จับกุมนั้นนายศุภชัยจะนั่งนิ่งไม่ยอมลุก โดยได้นั่งทับปืนแก๊บที่ตัวเองทำขึ้นมาแล้วเอาผ้าห่มปกไว้ตบตาเจ้าหน้าที่สำเร็จ


แต่ในช่วงเช้าที่ผ่านมาครอบครัวนายศุภชัยเข้ามาดูในห้องก็พบว่ามีปืนแก๊บสั้นอยู่ใต้ผ้าห่ม ซึ่งตลอดการชี้จุดนั้นแม่ของนายศุภชัยได้พูดขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ตลอดเวลา และพูดถึงการกระทำที่ไม่ดีของลูกอยากให้ตำรวจจับไปดัดนิสัยนานๆ เพื่อกลับออกมาอาจจะกลับตัวกลับใจได้ เวลานี้ดีใจที่ตำรวจมาเอาตัวลูกชายไป


โดยการชี้จุดในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาพาชี้ 2 จุด คือที่จอดรถหน้าห้องเช่าหญิงผู้เสียหาย ชาว จ.ขอนแก่น ซึ่งนายศุภชัยเข้ามาก่อเหตุขโมยเงินในเก๊ะรถไปประมาณเกือบ 200 บาท แล้วปั่นจักรยานหลบหนีไป โดยยังได้เข้าไปภายในรีสอร์ทของนักกีฬาทีมชาติอยู่อยู่ใกล้กันรื้อค้นของในรถเจ้าของรีสอร์ทแต่ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไปเพราะมีแต่เอกสาร แต่กลับเผลอลืมไม้ค้ำยันเอาไว้ที่ท้ายรถกระบะ จนนำไปสู่การจับกุมตัวได้ภายในบ้าน




ซึ่งเป็นจุดที่ 2 ที่ตำรวจคุมตัวนายศุภชัยมาชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ โดยได้ตรวจค้นพบปืนแก๊บสั้นเพิ่มเติม และพบว่ารอบห้องของนายศุภชัยนั้นมีมีดและของมีคมอื่นๆวางซุกซ่อนไว้ตามจุดต่างๆรอบห้องด้วย ภายหลังการชี้จุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายศุภชัย ส่งฟ้องศาลฝากขังผัดแรกในข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและลักทรัพย์โดยผ่านสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือเพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ที่ศาลจังหวัดขอนแก่นตามขั้นตอนต่อไป


ด้านนางสาวรุ่ง ผู้เสียหายเล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนเกิดเหตุนั้น ตนเองจะเดินทางออกจากห้องพักไปทำงาน พอเปิดประตูออกมาก็ขนของขึ้นรถแล้วกลับไปเอาของในบ้านอีกรอบ พอออกมารอบสองก็พบกับนายศุภชัยยืนอยู่ข้างรถตนเองซึ่งจอดอยู่หน้าประตูห้อง พร้อมกับยืนอยู่ข้างจักรยานคันเล็ก จึงเห็นว่าไม่น่าไว้วางใจจึงกลับเข้าไปในบ้านและปิดประตู


กระทั่งผ่านไปประมาณ 10 นาที คาดว่านายศุภชัยจะออกไปแล้วจึงเปิดประตูออกมาดูเพื่อจะขนของขึ้นรถและออกไปทำงาน แต่ไม่สามารถเปิดประตูออกมาได้คาดว่าจะถูกใส่กุญแจล็อคจากด้านนอก จึงเรียกเจ้าของรีสอร์ทให้มาช่วยเปิด และพอเปิดได้ก็ไม่พบนายศุภชัยกับรถจักรยานแล้ว จึงขนของขึ้นรถและพบร่องรอยรื้อค้นข้าวของในรถกระจัดกระจาย เงินสดประมาณ 200 บาทที่เก็บไว้ในรถหายไป จึงเชื่อว่าจะเป็นนายศุภชัยที่ก่อเหตุขโมยไป หลังเกิดเหตุจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.มัญจาคีรี ซึ่งตนเองก็ไม่ติดใจอะไรก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย

คุณอาจสนใจ