จากกรณีโลกโซเชียลในจังหวัดเชียงใหม่ ต่างช่วยกันประกาศตามหา ด.ญ.พรศิริ วงศิลารุ่ง หรือ น้องจีน่า อายุ 1 ขวบ 11 เดือน ที่ได้หายไปอย่างปริศนาจากบ้านพัก ในพื้นที่บ้านห้วยฝักดาบ ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าก่อนที่เด็กจะหายไป ได้อยู่กับแม่ และพี่ชาย ระหว่างนั้นแม่กำลังทำกับข้าว พ่อเอาขยะไปทิ้ง น้องกำลังเล่นกัยแมวอยู่บริเวณบ้าน มีคนเห็นครั้งสุดท้ายเดินออกไปถนนหน้าบ้าน ถนนห่างจากบ้าน 10 เมตร ตัวบ้านอยู่ในหมู่บ้าน มี 100 กว่าหลังคาเรือน ละแวกใกล้กัน น้องใส่เสื้อชมพู กางเกงสีแดง ตัดผมสั้นพ่อสงสัยมีคนอุ้มไป เพราะถ้าจะเดินหายไปไกลต้องมีคนเห็นเพราะเป็นหมู่บ้านติดกันหลายหลังคาเรือน

พ.ต.อ.ณฐภณ แก้วกำเนิด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่แตง เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สนธิกำลังร่วมกับฝ่ายปกครองตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง และชาวบ้านเจ้าหน้าที่กู้ภัย รวมกว่า 200 นาย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้นำสุนัขดมกลิ่น มาช่วยค้นหา

ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่อีกชุด ปูพรมเป็นน่ากระดานในการค้นหาตัวของน้องจีน่า วัยขวบเศษ ที่ได้หายตัวไปอย่างปริศนา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการแบ่งชุดกำลังปูพรมค้นหาก็ลงพื้นที่บริเวณรอบๆหมู่บ้านและจุดต้องสงสัยส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนก็ลงพื้นที่หาข้อมูล มาทำการวิเคราะห์สืบสวน เพื่อติดตามหาตัวน้องจีน่า

จากการปฏิบัติการตลอดทั้ง ตามจุดต่างๆ ที่คาดว่า น้องจีน่า อาจจะพลัดหลงเข้าไป ทั้งในพื้นที่ป่ารอบหมู่บ้าน ไร่ข้าวโพด สวนผลไม้ และแหล่งน้ำในบริเวณใกล้เคียง แต่ยังไร้วี่แวว ที่จะพบตัวน้องจีน่า ทำให้ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่เตรียมปรับแผนการค้นหาเป็นการปูพรมตรวจค้นหาทุกตารางนิ้วครอบคลุมบริเวณบ้านทุกหลังในหมู่บ้าน

เนื่องจากพบว่าสภาพทั่วทั้งหมู่บ้านค่อนข้างรก มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมหนาแน่น เพราะเป็นหมู่บ้านกลางป่าและภูเขา ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่น้องจีน่าอาจจะพลัดหลงเข้าไปอยู่ในจุดลับสายตาในบริเวณใกล้เคียงหมู่บ้าน เนื่องจากยังเพิ่งอายุเพียงขวบเศษ จึงไม่น่าจะเดินไปได้ไกล อย่างไรก็ตามยังไม่ตัดประเด็นอื่นๆ เช่น มีผู้พาตัวไป เป็นต้น โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสอบปากคำชาวบ้านในหมู่บ้านหลายคนเพื่อหาเบาะแสและความเป็นไปได้ต่างๆ

นางสาวมาลี ปะสี อายุ 23 ปี แม่ของน้องจีน่า บอกว่า เป็นห่วงน้องมากจนไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะคิดถึงลูก ตอนนี้อะไรก็ยอมขอให้ลูกกลับมา แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตแม่ก็ยอมให้ได้ ปกติน้องจีน่าไม่เคยออกบ้านเพียงลำพังไปไหน ต้องมีพ่อแม่ไปด้วยตลอด และเป็นเด็กที่กลัวคนแปลกหน้า จะไม่ยอมใกล้คนที่ไม่รู้จัก แม้กระทั่งเพื่อนบ้านยังไม่ยอมให้อุ้ม ตอนนี้จึงมืดแปดด้านไม่รู้ว่าหายตัวไปได้อย่างไร แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังมีความหวัง ขอให้เป็นการพลัดหลงและพบตัวโดยเร็วที่สุด

ขณะที่นางสาวสุภารส พรชมพู เพื่อนบ้านที่อยู่ห่างจากบ้านน้องจีน่าประมาณ 50 เมตร ซึ่งเป็นผู้ที่พบเห็นน้องจีน่าเป็นคนสุดท้าย ให้ข้อมูลว่า ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน ผ่านมาเห็นน้องจีน่าเดินอยู่กลางถนนเพียงลำพังจึงชะลอความเร็วและถามว่าหนูน้อยจะไปไหน แต่น้องไม่ตอบ จึงขี่รถผ่านไปและตะโกนบอกชาวบ้านที่เจอด้านหน้าว่าเจอะเด็กแต่ไม่รู้ลูกใคร

สำหรับประเด็นการหายตัวเบื้องต้นตั้งไว้สามประเด็น คือ ประสบอุบัติเหตุและมีนำขึ้นรถไป พลัดหลง และ ถูกลักพาตัวไป โดยเบาะแสที่เพิ่มเติมคือพบรถยนต์จำนวน 5 คันที่เข้าออกในหมู่บ้านในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกับการหายตัว ตรวจสอบพบว่าเป็นรถของคนในหมู่บ้าน 3 คัน อีก 2 คันเป็นรถเร่ขายของจากนอกพื้นที่ซึ่งขณะนี่ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าทีพิสูจน์หลักฐานให้เข้าตรวจสอบหาหลักฐานรวมทั้งหาเบาะแสเพิ่มเติมจากกล้องวงจรปิดที่พบมีอยู่ 3 จุดอยู่นอกหมู่บ้าน

นอกจากการปูพรมตามหาแล้ว ยังได้มีการดำเนินการสอบสวนควบคู่กันไปในเรื่องของสาเหตุการหายตัวไปของน้อง ซึ่งได้ทำการสอบปากคำคนในหมู่บ้าน รวมทั้งมีผู้ต้องสงสัย 1 ราย ที่ยังพบพิรุธให้การยังไม่ตรงนัก ผู้ต้องสงสัยรายนี้ เป็นเพื่อนของพ่อน้องจีน่า

แต่เมื่อสอบสวนแล้วพบว่า เป็นคนต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองมาโดยผิดกฏหมาย และอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ที่สำคัญเป็นบุคคลที่น้องจีน่ารู้จักมักคุ้นเนื่องจากแวะเวียนมาหาครอบครัวบ่อยๆ เบื้องต้นได้ให้ชุดสืบทำการควบคุมตัวข้อหาต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง และทำการสอบเพิ่มอีกครั้ง

ทั้งนี้ ยังพบว่ามีประเด็นที่ตั้งขึ้นมาในเรื่องของรถยนต์ต้องสงสัย 5 ค้น ซึ่ง 2 คันเป็นรถกระบะและรถเก๋งที่วิ่งออกจากหมู่บ้านไปในช่วงที่พ่อของน้องจีน่า นำขยะไปทิ้งและเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่น้องหายตัวไปก็ได้ให้ชุดสืบแกะรอยจากวงจรปิดเพื่อนำมาสอบสวน

จึงตั้งประเด็นสงสัยว่ามีโอกาสที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ชนน้องหรือไม่ จนทำให้ต้องนำร่างของน้องออกไปจากพื้นที่เพื่อไปซ่อนเร้นอำพราง หรือว่าอาจจะลักพาตัวไปเพื่อการอื่นซึ่งก็ต้องรอให้ชุดสืบสวนทำงานก่อนยังไม่สามารถตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออกไปได้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/xnKlBAFTJ6E