กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงติดตามโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนฯ ของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จ.พิษณุโลก

พระราชสำนัก

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงติดตามโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนฯ ของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จ.พิษณุโลก

โดย panwilai_c

24 ส.ค. 2564

24 views

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดตามการดำเนินงาน โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนตามพระราชดำริ ของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ออนไลน์


วันนี้ เวลา 9 นาฬิกา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม ทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามพระราชดำริ ของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านนุชเทียน อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) ทั้งในด้านข้อมูลพื้นฐาน ด้านวิชาการ และพื้นฐานอาชีพ ตลอดจนโครงการตามพระราชดำริ ซึ่งกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และสถาบันการศึกษา จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ให้แก่นักเรียนในทุกระดับชั้นตามความเหมาะสม ปัจจุบันมีนักเรียนระดับชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษารวม 53 คน ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้จัดการเรียนการสอนแบบ On Hand


ทั้งนี้ในสถานการณ์ปกติ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลย์สงคราม ได้ร่วมกับครูผู้สอนจัดวางแผนการเรียนการสอนเสริม และทำแบบทดสอบการเรียน ช่วยให้นักเรียนจดจำได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากกองทุนเสมอภาคด้านการศึกษา จัดหาครูที่มีความชำนาญในแต่ละวิชา มาฝึกอบรมแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อแก้ไขปัญหาครูผู้สอนไม่ตรงตามรายวิชา ในด้านการดูแลเด็กปฐมวัยนั้น นับเป็นโรงเรียนนำร่องในโครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ตามพระราชดำริ ซึ่งกรมสุขภาพจิต สนองพระราชดำริ ในการแก้ไขปัญหาพัฒนาการ โดยใช้กิจกรรม "Triple P" ฝึกอบรมครู ทีมสาธารณสุข และพ่อแม่เด็ก เพื่อส่งเสริมพัฒนาการ และพัฒนาการการเลี้ยงดูของพ่อแม่


ซึ่งในปีการศึกษา 2564 จัดกิจกรรมได้เพียงครั้งเดียว เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงแจกใบงานการบ้าน ให้ผู้ปกครองกลับไปส่งเสริมพัฒนาการและความฉลาดทางอารมณ์ที่บ้านแทน


เบื้องต้นพบว่าเด็กมีความกระตือรือร้นเพิ่มขึ้น ซึ่งจะได้ขยายไปยังโรงเรียนอื่น ในการนี้ มีพระราชดำริให้ดำเนินโครงการนี้ต่อไป เพราะเป็นกิจกรรมที่ประสบผลสำเร็จดี ทำให้เด็กเติบโตมีพัฒนาการสมวัย ทั้งทางด้านอารมณ์ ความคิด และสติปัญญา


ด้านการส่งเสริมสุขอนามัย ได้จัดครูพยาบาล ร่วมกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ติดตามให้ความรู้ด้านโภชนาการ แก่ผู้ปกครอง รวมทั้งให้นักเรียนบริโภคอาหารประเภทโปรตีน โดยเฉพาะนมและไข่เพิ่มขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาเด็กมีภาวะน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ ทั้งได้รับความร่วมมือ จากศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนอุตรดิตถ์ ตลอดจนปราชญ์ชาวบ้าน มาให้ความรู้ด้านวิชาชีพ อาทิ การทำไม้กวาดจากดอกหญ้าและทางมะพร้าว การทำไข่เค็ม การสานสุ่มไก่ เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพยากรในท้องถิ่น และสามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน สร้างรายได้ให้กับครัวเรือน


เช่นเดียวกับกิจกรรมการเกษตร ที่ให้นักเรียนฝึกปฏิบัติ ในการเพาะปลูกพืชผัก ผลไม้ และเลี้ยงสัตว์ นำมาประกอบเลี้ยงเป็นอาหารกลางวัน โดยใช้แหล่งน้ำจากประปาภูเขา และสระน้ำในชุมชน ซึ่งประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม ปีที่ผ่านมาสำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 7 จังหวัดกำแพงเพชร ได้แก้ปัญหาด้วยการเจาะบ่อบาดาล และสร้างระบบประปา ระบบกระจายน้ำ รวมถึงปรับปรุงคุณภาพน้ำให้เป็นระบบ RO ตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัย ส่วนกรมชลประทาน ได้ขยายผลระยะที่ 2 ก่อสร้างระบบส่งน้ำเพิ่มเติมในชุมชนอีก 6 แห่ง ทำให้มีพื้นที่ทำกินได้รับประโยชน์ 750 ไร่


โอกาสนี้ ได้มีพระราชดำรัสกับคณะทำงานสนองพระราชดำริ โดยทรงห่วงใยในสุขอนามัยของนักเรียน ครู และราษฎรในชุมชน ซึ่งจำเป็นที่จะต้องช่วยกันดูแล แก้ปัญหาเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ


ต่อมาเวลา 12 นาฬิกา 57 นาที เสด็จออก ณ วังสระปทุม ทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามพระราชดำริ ของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านลาดเรือ อำเภอชาติตระการ ผ่านสื่ออิเล็คทรอนิกส์ (ออนไลน์) ซึ่งทรงติดตามการดำเนินงานของโรงเรียนแห่งนี้เป็นครั้งที่ 6 และเป็นการทรงงานในโครงการของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนลำดับที่ 1 พัน 40 ปัจจุบันเปิดทำการสอนระดับชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 29 คน มีนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ 25 คน ช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โรงเรียนได้นำถุงยังชีพพระราชทานเพื่อการศึกษา ไปมอบให้นักเรียนที่บ้าน ตามระบบการจัดการเรียนการสอนแบบ on hand โดยครูประจำชั้นจะนัดพบนักเรียนเป็นรายบุคคล และกลุ่มย่อย เพื่อมอบบทเรียน อธิบายการทำใบงาน และนัดตรวจการบ้านสัปดาห์ละ 2 ครั้ง


ด้านการเรียนการสอน ให้ครูประเมินความรู้ ความสามารถของนักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อจัดกิจกรรมการสอนให้เหมาะสม ในรายวิชาที่อ่อน ได้สอนเสริม และร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม อบรมเพิ่มศักยภาพให้กับครู ในการจัดการเรียนการสอน การประยุกต์ใช้สื่อ โดยบูรณาการเข้ากับกิจกรรมในโครงการตามพระราชดำริ เช่น ระดับชั้นอนุบาล มีกิจกรรมเคลื่อนไหวตามจังหวะเพลง ช่วยให้นักเรียนสนุก และสอดแทรกเนื้อหาในบทเพลง นอกจากนี้ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านช่วงหลังพักเที่ยง ฝึกทักษะการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน เพื่อเสริมความเข้าใจในบทเรียนมากขึ้น


ด้านสุขอนามัยและสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ได้จัดครูพยาบาลให้ความรู้ด้านอนามัยแม่และเด็กในชุมชน จากการปฏิบัติ พบว่ามารดามีสุขภาพอนามัยแข็งแรงทุกราย โรงเรียนยังมอบปลาและเกลือเสริมไอโอดีนให้นักเรียนทุกคน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครูออกให้ความรู้กับทุกครัวเรือน เพื่อเสริมความเข้าใจ และดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง กิจกรรมการงานอาชีพ ฝึกให้นักเรียนเย็บหน้ากากผ้าด้วยมือ เพื่อใช้ในครัวเรือน เป็นการสอนให้นักเรียนรู้จักการป้องกันตัวเอง ในกิจกรรมการประกอบเลี้ยงอาหารกลางวัน มีผลผลิตเพียงพอ แต่ยังพบภาวะผอม 5 คน ได้แก้ไขโดยเพิ่มปริมาณอาหาร และเสริมไข่ไก่ในอาหารกลางวันทุกมื้อ พร้อมให้ดื่มนมวันละ 2 แก้ว และแจกนมผงให้ดื่มในวันหยุด ส่วนภาวะอ้วนมี 1 คน ซึ่งได้จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายวันละ 30 นาที ควบคุมอาหาร และจัดครูพยาบาลเยี่ยมบ้าน เพื่อให้ความรู้ด้านโภชนาการแก่ผู้ปกครอง


ทั้งนี้ในกิจกรรมการเกษตร สามารถฝึกฝนให้นักเรียนได้เรียนรู้และปฏิบัติจริง แบ่งหน้าที่รับผิดชอบทั้งการปลูกพืชผักปลอดสารพิษ การขยายพันธุ์พืชแบบเสียบยอด การปศุสัตว์ การประมง และได้ขยายผลสู่ชุมชน โดยมอบเมล็ดพันธุ์ผัก พันธุ์เป็ดเทศให้ผู้ปกครอง นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมวิชาชีพที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น การถนอมอาหาร การทำน้ำยาล้างจาน และมีการจัดตั้งกลุ่ม“การทอผ้า และการแปรรูปอาหาร” ในชุมชน โดยใช้หน่อไม้ที่มีมากในพื้นที่ ทำเป็นผลิตภัณฑ์หน่อไม้ สร้างรายได้เสริมให้ชุมชน


โอกาสนี้ ได้มีพระราชดำรัส โดยทรงห่วงเรื่องการจัดจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร และผลิตภัณฑ์งานฝีมือของราษฎรในส่วนภูมภาค ซึ่งตอนนี้ทำได้ยากลำบาก ต้องพยายามทดลองในหลายช่องทาง