เจ้าของเพจ 'นักเลงมือถือ' เปิดใจหลังโพสต์คลิปก้านคอมิจฉาชีพหงาย เผยได้ผลชะงัด ดีกว่าแจ้งตร.

สังคม

เจ้าของเพจ 'นักเลงมือถือ' เปิดใจหลังโพสต์คลิปก้านคอมิจฉาชีพหงาย เผยได้ผลชะงัด ดีกว่าแจ้งตร.

18 ส.ค. 2564

8K views

จากกรณีเพจเฟสบุ๊ค 'นักเลงมือถือ สำนักงานใหญ่' ได้โพสต์คลิป พร้อมระบุข้อความ "คุยดีๆแล้ว เตือนดีๆก็แล้ว ไม่ฟังกันเลย ต้องคุยกับตีน โจรปลอมเฟซโกงชาวบ้าน"


ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ นายพร้อมภัณฑ์ คำพงษ์ อายุ 34 เจ้าของบริษัทนักเลงมือถือ จำกัด เล่าให้ฟังว่า ตนได้ถูกสวมรอยปลอมแปลงเฟสบุ๊คจากคนที่อยู่ในคลิป ได้ใช้ชื่อของตนและรูปในการแอบอ้างปลอมแปลงหรือสวมรอยไปขายโทรศัพท์มือถือในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด และมีการทักหาสมาชิกลูกค้าต่างๆหลายคน ทั้งเยาวชน วัยรุ่น หรือคนมีอายุ กระทั่งพระภิกษุสงฆ์ โดยขายมือถือราคาต่ำกว่าท้องตลาด ทำให้ลูกค้าสนใจและมั่นใจโดยการแอบอ้างชื่อของตน


รวมๆแล้วโกงไปไม่ต่ำกว่าสองหมื่นบาท ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียงและมีลูกค้าทักมาด่าตนและทวงเงินตลอดเวลา ตนจึงทำการสืบหาคนที่สวมรอย ได้มีการว่ากล่าวตักเตือนว่าห้ามทำแบบนี้อีกและให้ชดใช้ค่าเสียหาย สุดท้ายได้มีการนำชื่อเฟสบุ๊คของตนไปแอบอ้างอีกรอบหนึ่ง ตนจึงโทรไปพูดคุย และให้เข้ามาคุยที่ร้าน หลังจากมาถึงร้านตนให้เลือกสองข้อ ข้อ1.ดำเนินคดีตามกฎหมาย ข้อ2.ให้ตนทำโทษโดยการเตะ


คนร้ายเลือกข้อสองเพราะไม่อยากให้ดำเนินคดี ตนจึงได้ทำโทษคนร้ายไปตามในคลิป บางคนอาจจะคิดว่าทำไมถึงไม่แจ้งความดำเนินคดี ทำไมถึงใช้ความรุนแรงในการตัดสินแต่หลายๆครั้งที่ตนดำเนินคดีไป คดีแบบนี้จะหลุดหรือหมดอายุความ ทำให้คนร้ายลอยนวลและกลับมาทำซ้ำอีกเรื่อยไป บางคนอาจคิดว่าถ้าปล่อยไป คนร้ายไปทำกับคนอื่นอีก คนร้ายอาจโดนมากกว่าสิ่งที่ตนทำก็เป็นได้


ทั้งนี้เป็นการตกลงของคนร้ายกับตนเพียงสองคนเท่านั้น อาจไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง แต่หวังว่าคนร้ายจะไม่ทำอีก และอยากให้มิจฉาชีพที่กำลังกระทำอยู่หยุดพฤติกรรม เพราะถ้าผู้เสียหายตามจริงๆ อาจจะไม่ได้จบแบบนี้ทุกราย อาจโดนมากกว่าที่ตนกระทำ


ตนอยากฝากถึงผู้บริโภค ควรตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนโอนเงิน และขอฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยากให้ช่วยดำเนินคดีกลุ่มมิจฉาชีพที่ทำในบักษณะแบบนี้ให้ถึงที่สุด เพราะตนเชื่อว่ายังมีอีกหลายกลุ่มที่ทำแบบนี้และได้เงินไปหลายแสนบาท

คุณอาจสนใจ

Related News