อาชญากรรม
ลูกสาวรับติดพนันออนไลน์ ทำพ่อวัยชราตาบอด ช้ำใจผูกคอดับ ขายทรัพย์สินนับล้านใช้หนี้ให้
10 ส.ค. 2564
395 views
เปิดปม พ่อวัยชราตาบอด เครียดหนักผูกคอดับ เพราะขายที่นา ทรัพย์สิน ได้เงินนับล้านบาท ให้ลูกเอาไปใช้หนี้ สุดท้ายยังถูกทวงเงิน ตำรวจเร่งล่าแก๊งเงินกู้โหด ล่าสุดจับได้แล้ว 1 คน
กรณี นายปรีดี อายุ 70 ปี ใช้ผ้าขาวม้า ผูกคอตัวเองกับกิ่งต้นขนุนหลังบ้าน พื้นที่หมู่ 16 ตำบลหินโคน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ จนเสียชีวิต เพราะเครียดหนักที่ถูกแก๊งเงินกู้ตามทวงเงิน ซ้ำยังด่าทอแบบสาดเสียเทเสีย จี้ทวงให้จ่ายให้ได้ แม้แต่ในงานศพยังขับรถตามเข้าไปทวง แต่เมื่อเห็นผู้สื่อข่าว จึงรีบขับรถหนีไปนั้น
ขณะที่ น.ส.พยูง อายุ 35 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต ซี่งเป็นลูกหนี้เงินกู้รายวัน ตอนแรกอ้างว่า เพราะพิษโควิดทำให้มีรายได้จากการขายผักสดในตลาดเทศบาลลำปลายมาศ ไม่ดีเหมือนเดิม จนมีเพื่อนมาชวนให้กู้เงินรายวัน ค้ำกันไปมา เริ่มจาก 6,000 บาท ส่งวันละ 300 บาท แต่ก็ยังหมุนไม่ทัน จึงต้องกู้เจ้าอื่นมาอีก รวมเป็น 6 เจ้า เฉลี่ยส่งวันละ 2,000 บาท พอหาเงินไม่ได้ก็เลิกขายของ กลับมาอยู่บ้าน ก็ถูกตามถึงบ้าน แต่เมื่อถูกจี้ถามหนักเข้า จึงยอมรับว่า ได้กู้เงินนอกระบบจริง ทั้งเงินสด และทองรูปพรรณ รวมเป็นหนี้แล้วกว่า 100,000 บาท ส่วนสาเหตุที่ไปกู้เงินมาเป็นจำนวนมาก เพราะติดพนันออนไลน์
ขณะที่ น.ส.บี (นามสมมุติ) เพื่อน น.ส.พยูง และเป็นคนค้ำประกันร่วมกับ น.ส.พยูง ได้ออกมาระบุว่า พวกตนได้รวมกลุ่มกัน 5 คน ต่างคนต่างค้ำประกันเงินกู้ให้กัน ก่อนหน้านี้มีอาชีพขายผักสดในตลาด ต่อมาหันมาเล่นพนันออนไลน์ เพราะอยากจะหาเงินมาใช้หนี้ให้กับแก๊งเก็บเงินกู้รายวัน แต่ยิ่งเล่นกลับยิ่งเสีย จนไม่มีจ่าย ส่วนนางพยูง ตนไม่รู้ว่ากู้เงินเอามาทำอะไร ไม่อยากถาม
พันตำรวจเอก สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผู้กำกับการ สภ.ลำปลายมาศ เผยว่า สาเหตุที่นายปรีดี ผูกคอตัวเองตาย อาจจะไม่ใช่เพราะโดนทวงหนี้อย่างเดียว โดยพบข้อมูลเมื่อเดือนมีนาคม เสียชีวิตได้ขายที่นาจำนวน 4 ไร่ ได้เงินมากว่า 4 แสน บาท เพื่อให้ลูกสาวนำไปชำระหนี้ให้หมด แต่ก็ไม่พอ เมื่อต้นเดือนสิงหาคม จึงตัดสินใจขายที่นาอีก 4 ไร่ ได้เงินมาอีก 4 แสนบาท รวมเป็น 8 แสนบาท
ยังไม่รวมวัวควายที่ขายให้ลูกสาวไปใช้หนี้อีกร่วม 2 แสนบาท รวมแล้วทรัพย์สินที่ขายไปให้ลูกไปใช้หนี้นับล้านบาท แต่ยังมีคนมาทวงหนี้อีก และทวงหนักกว่าเดิม ซึ่งก่อนที่นายปรีดีจะผูกคอตาย ได้ให้คนพาไปเดินรอบที่นา คาดว่า น่าจะเสียดายจนรับกับสภาพที่เกิดขึ้นไม่ได้จึงคิดสั้น
สำหรับขบวนปล่อยเงินกู้รายวัน ล่าสุดจับกุมได้แล้ว 1 คน หลังสอบสวน ได้ส่งตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้อัยการฟ้องศาลต่อไป จากการสืบสวน พบว่ายังมีแก๊งปล่อยทองรูปพรรณคิดดอกเบี้ยโหดอีกกลุ่มหนึ่ง กลุ่มนี้จะซื้อทองรูปพรรณมา แล้วมาปล่อยให้พ่อค้า-แม่ค้า หรือคนที่สนใจ มาผ่อนเป็นรายวัน เท่าที่ทราบจะผ่อน 81 วัน
แต่เมื่อคำนวณดูแล้ว เป็นการคิดดอกเบี้ยสูงเกินจริง ซึ่งผู้ที่ซื้อส่วนใหญ่จะไม่สนใจว่าจะแพงแค่ไหน ขอให้ได้ทองมาไว้กับตัว เพราะเป็นทรัพย์สินที่เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่าย แล้วเอาไปขายเป็นเงินสดมาหมุน กลุ่มนี้จะเลี่ยงกฎหมาย ตอนนี้กำลังรวมรวบหลักฐานและหาแนวทางเข้าไปดำเนินการกับกลุ่มนี้