สังคม
เปิดเงื่อนไข "เสียชีวิต" อย่างไร เข้าข่ายเกิดจาก "ฉีดวัคซีนโควิด"
โดย pattraporn_a
21 มิ.ย. 2564
211 views
ประเด็นวัคซีน นอกจากพบปัญหาการกระจายไปในพื้นที่ต่างๆแล้ว อีกปัญหาหนึ่ง ที่ประชาชนสงสัยคือ อาการไม่พึงประสงค์ ไปจนถึงการเสียชีวิต ว่าต้องเข้าหลักเกณฑ์ใดบ้าง จึงจะถูกลงความเห็นว่า เกี่ยวข้องกับวัคซีน
ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้เชี่ยวชาญจากคณะ แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ตอบข้อสงสัยกรณีเหตุไม่พึงประสงค์จากการรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งหลายครั้งคณะกรรมการพิจารณาเหตุไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีน มักระบุว่าเป็นอาการร่วม โดยไม่ใช่ปัจจัยจากวัคซีน แม้จะได้รับวัคซีนในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้า
ศ.พญ.กุลกัญญา ระบุว่า การพิจารณาหลักเกณฑ์ว่าจะเข้าข่ายหรือไม่ คือ กรณีที่มีอาการอันตรายถึงชีวิต ที่สอดคล้องกับกลุ่มอาการของโรค, กรณีผลกระทบสู่ทารกในครรภ์, การพิการ และต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลมากกว่า 3 วัน
ข้อมูลวันที่ 15 มิถุนายน มีผู้ได้รับผลข้างเคียงจากวัคซีน 1,464 คน เสียชีวิต 68 คน จากจำนวนผู้ได้รับวัคซีน 6.7 ล้านโดส ในจำนวนนี้มีผู้แพ้รุนแรง 21 คน และ ไม่รุนแรง 19 คน โดยมี 13 คนจากจำนวนผู้เสียชีวิตที่คณะกรรมการวินิจฉัยว่าเป็นเหตุการณ์ร่วม
ขณะที่ผู้เสียชีวิตที่เหลืออยู่ระหว่างชันสูตร ซึ่งมตินี้ผ่านการพิจารณาโดยคณะกรรมการที่เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากโรงเรียนแพทย์และราชวิทยาลัย เป็นองค์กรอิสระที่ตั้งขึ้นเพื่อศึกษากรณีนี้โดยเฉพาะ
ส่วนการระบุหาสาเหตุของอาการไม่พึงประสงค์ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ แบ่งได้ 3 เกณฑ์ คือ กรณีที่เกี่ยวของกับวัคซีนโดยตรง กลุ่มนี้จะมีสาเหตุอธิบายได้แน่ชัด เช่น อาการกลุ่มลิ่มเลือดอุดตันที่ร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำ, มีปัญหาในคุณภาพวัคซีน, มีข้อผิดพลาดขณะฉีด และมีอาการแพ้รุนแรงทันทีหลังได้รับวัคซีน
กลุ่มต่อมาคือกลุ่มอาการที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน แต่ไม่แน่ชัด เช่นกรณีเป็นโรครุนแรงอยู่ก่อนแล้วอาการไข้หลังได้รับวัคซีนจึงอาจไปกระตุ้นอาการดั้งเดิมให้กำเริบขึ้น และอาจมีปัจจัยอื่นร่วม
และกลุ่มสุดท้ายคือไม่เกี่ยวกับวัคซีน มีสาเหตุแน่ชัด และพ้นช่วงระยะเวลาผลข้างเคียงของวัคซีนแล้ว
ล่าสุด มีมติจากที่ประชุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ยืนยันจากผลชันสูตรแล้วว่า ผู้เสียชีวิต 4 คน จาก 25 คน มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายและขาดเลือด 3 คน และมีน้ำท่วมปอด 1 คน รวมทั้งทั้ง 4 คนมีโรคเส้นเลือดหัวใจตีบอย่างมาอยู่ก่อนแล้ว แต่ยังไม่แน่ชัดว่าวัคซีนอาจเป็นปัจจัยกระตุ้นอาการด้วยหรือไม่ จึงเข้าข่ายสาเหตุที่อาจจะเกี่ยวข้องกับวัคซีน
ดังนั้น ผู้ที่มีโรคหัวใจโดยเฉพาะเส้นเลือดหัวใจตีบ ควรได้รับการประเมินโดยแพทย์ประจำตัวก่อนฉีดวัคซีน หากมีอาการผิดปกติใดๆ ควรรีบพบแพทย์ทันที
ปัจจุบันทางคณะกรรมการได้รวบรวมกรณีผู้มีอาการไม่พึงประสงค์หลังเข้ารับการฉีดวัคซีนมาทบทวนอย่างละเอียด เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด แม้อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากวัคซีนจะมีเป็นส่วนน้อย หรือ 1:100,000 คน
ขณะที่การพิจารณาจ่ายเงินชดเชยจะเป็นหน้าที่ของสปสช. โดยไม่เกี่ยวข้องกับผลวินิจฉัยของทีมแพทย์ เนื่องจากเป็นคณะกรรมการคนละชุด ซึ่ง สปสช.จะเป็นผู้พิจารณาเพื่อเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากอาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีนด้วยตัวเองในจำนวนเงินสูงสุด 4 แสนบาท