สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ ในสถานศึกษาในจังหวัดอำนาจเจริญ ที่อยู่ในความดูแล ของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

วันนี้เวลา 09.04 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ ของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยฆ้อง ตำบลป่าก่อ อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์)

ซึ่งเปิดสอนระดับชั้นอนุบาล ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 119 คน ที่ผ่านมานักเรียนชั้นอนุบาล มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ จึงได้เพิ่มอาหารและเสริมไข่ 1 ฟองทุกวัน ส่วนนักเรียน ที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ ให้ออกกำลังกาย และให้ความรู้เรื่องการรับประทานอาหาร ให้ครบ 5 หมู่ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพอนามัยให้แข็งแรง

ด้านการส่งเสริมการศึกษา จัดให้ครูประจำชั้นรายวิชา จัดกิจกรรมสอนเสริมหลังเลิกเรียน 1 ชั่วโมง เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มากยิ่งขึ้น และจัดโครงการบุตรบุญธรรม โดยครูทุกคนทำหน้าที่เป็นพ่อแม่บุญธรรม เพื่อแก้ปัญหานักเรียนบกพร่อง ทางการอ่านและเขียน นอกจากนี้มีโรงเรียนอนุกูลนารี จังหวัดกาฬสินธุ์ ในโครงการโรงเรียนพี่โรงเรียนน้อง เข้ามาสอนเสริมเพิ่มความรู้ ในกิจกรรมพี่ชวนน้องรักการอ่าน, กิจกรรม English for Fun และคณิตศิลป์กับเส้นด้าย

ส่งผลให้ปีการศึกษา 2563 ผลสัมฤทธิ์การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-NET ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพิ่มขึ้นทุกรายวิชา

ด้านการฝึกอาชีพ วิทยาลัยเทคนิคหัวตะพาน เข้ามาจัดสอนวิชาชีพ หลักสูตรระยะสั้น เช่น การประกอบมุ้งลวด, การติดตั้งไฟฟ้า ภายในอาคารเบื้องต้น และการทำชาใบหม่อน

นอกจากนี้ โรงเรียนจัดให้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติจริง ในกิจกรรมด้านการเกษตร ประมง และปศุสัตว์ เพื่อนำผลผลิตไปประกอบอาหารกลางวัน แต่เนื่องจากผลผลิตประเภทถั่วเมล็ดแห้ง ผัก และผลไม้ไม่เพียงพอ จึงได้ขยายพื้นที่ปลูกถั่วเมล็ดแห้ง ผักกินใบ และไม้ผล เช่น ถั่วเขียว ถั่วมะแฮะ แก้วมังกร กล้วย และมะละกอ

รวมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้ ให้แก่ผู้ปกครอง เลี้ยงไก่พื้นเมือง สุกร ขยายเมล็ดพันธุ์ผัก พันธุ์กล้าไม้ กล้าไม้ผล เพื่อให้ได้ผลผลิตที่เพียงพอต่อการบริโภค และยังสามารถจำหน่ายสร้างรายได้ครัวเรือนด้วย

โอกาสนี้ ได้พระราชทานพระราชดำรัสถึง สภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ที่เปลี่ยนแปลงไปมาก จึงต้องศึกษา หาแนวทาง พัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น รวมทั้งการศึกษาในปัจจุบัน ที่ยากกว่าเดิม จึงจำเป็นต้อง ฝึกหัด ฝึกทำงาน ฝึกปฏิบัติ ด้วยตนเอง เพื่อให้ได้ความรู้ที่หลากหลาย สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน

ทั้งนี้ด้วยทรงห่วงใยความเป็นอยู่ของราษฎร ทั้งในเรื่องที่ทำกิน แหล่งน้ำ และการหาตลาดจำหน่ายสินค้า ซึ่งทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะได้น้อมนำแนวทางพระราชทาน ไปปฎิบัติให้เกิดประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป

ต่อมา เวลา 13.09 น. เสด็จออก ณ ห้องประชุม วังสระปทุม ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ ที่ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านภูดานกอย อำเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์)

ซึ่งเปิดสอนระดับชั้นอนุบาล ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 103 คน ทางโรงเรียนมีการประเมินนักเรียนเป็นรายบุคคล และได้สอนเสริมในวิชาที่นักเรียนสอบได้คะแนนน้อย เพื่อให้นักเรียนมีทักษะทางวิชาการเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ยังเป็นโรงเรียนนำร่อง ที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ในพื้นที่ทุรกันดาร ตามพระราชดำริ ฯ โดยนำผู้ปกครองและนักเรียนมาร่วมกิจกรรมกับแพทย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีสมวัยต่อไป

ด้านการฝึกอาชีพ มีการสอนตัดผม โดยครู ตชด.ซึ่งเป็นศิษย์เก่า ได้เข้ามาช่วยสอนนักเรียนให้มีอาชีพติดตัว สามารถนำไปหาเลี้ยงครอบครัวได้ นอกจากนี้มีกิจกรรมการอนุรักษ์ และสืบทอดวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การทอเสื่อกก และการฟ้อนตังหวาย โดยคนในชุมชนมาช่วยสอนนักเรียน ที่ผ่านมาได้ไปแสดงในโอกาสต่างๆ ของชุมชน ทำให้เด็กรักและหวงแหนวัฒนธรรมท้องถิ่นของตน

ส่วนโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ทั้งในด้านปศุสัตว์ และเกษตรกรรม โดยผลผลิตที่ได้ เนื้อสัตว์ มีเพียงพอต่อการบริโภค แต่พืชผักผลไม้และถั่วเมล็ดแห้งมีผลผลิตไม่เพียงพอ

เนื่องจากโรงเรียนมีพื้นที่ปลูกจำกัด จึงต้องขยายแปลงปลูกเพิ่มเติม และขอความร่วมมือผู้ปกครอง ให้นำถั่วไปปลูกในพื้นที่ว่างเปล่าของแต่ละบ้าน เมื่อได้ผลผลิตแล้ว ให้นำกลับมาให้โรงเรียน เพื่อประกอบเลี้ยงอาหารกลางวันแก่เด็กนักเรียน

นอกจากนี้ยังปลูกผลไม้เพิ่มเติมด้วย เพื่อให้นักเรียนมีอาหารรับประทานอย่างครบถ้วน และยังมีการพัฒนาสถานศึกษา เป็นศูนย์บริการความรู้ ขยายผลให้กับชุมชน 3 ฐาน คือ ฐานการเกษตร , ฐานปศุสัตว์ และฐานประมง มีหน่วยงาน รวมทั้งประชาชนทั่วไปเข้ามาศึกษาดูงาน รวม 85 คน

โอกาสนี้ พระราชทานพระราชดำรัส เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ และสร้างขวัญ กำลังใจ แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคณะครู นักเรียน และราษฏรในพื้นที่