เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเรื่องช็อกในวงการฟุตบอล คริสเตียน อีริคเซ่น ผู้เล่นทีมชาติเดนมาร์ก ล้มฟุบระหว่างแข่งขันฟุตบอลยูโร ก่อนที่แพทย์จะทำ cpr ช่วยชีวิตไว้ได้ ล่าสุด อีริคเซ่น อาการทรงตัวแล้ว แต่ยังต้องรักษาต่อเพื่อตรวจว่า จะกลับมาเล่นฟุตบอลได้หรือไม่ ขณะที่ทั่วโลกชื่นชมภาพการช่วยเหลือในสนาม

วันนี้ (13 มิ.ย.) สมาคมฟุตบอลเดนมาร์ก แถลงว่า อาการของ คริสเตียน อีริคเซ่น กองกลางทีมชาติเดนมาร์ก ทรงตัวแล้ว หลังล้มฟุบระหว่างการแข่งขันฟุตบอลยูโร ซึ่ง เดนมาร์ก พบกับ ฟินแลนด์ เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกินขึ้นนาทีที่ 43 คริสเตียน อีริกเซน กำลังวิ่งอยู่ทางริมเส้นฝั่งซ้าย เกิดทรุดตัวลงไปนอนกลางสนาม

มอร์เท่น โบเซ่น นายแพทย์ประจำทีมเดนมาร์ก บอกหลังการแข่งขันว่า ที่แรกเห็น อีริคเซ่น นอนตะแคงอยู่ หายใจ ชีพจรแล้วยังเต้นอยู่ แต่จู่ๆ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ซึ่งต้องขอบคุณทีมแพทย์สนามประจำการแข่งขันมาเร็วมาก ทำให้ อีริคเซ่นกลับมารู้สึกตัว

ขณะที่ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ หัวหน้าโค้ชเดนมาร์ก ชื่นชมลูกทีมทุกคนร่วมกันยืนล้อมไม่ให้เห็นภาพระหว่างการช่วยเหลือนั้น และเหตุที่ตัดสินใจแข่งต่อ เพราะไม่มีนักเตะคนไหนที่จะกลับบ้านไปนอนหลับสนิท หลังจากเกิดเหตุแบบนั้น แล้วมาแข่งขันใหม่วันรุ่งขึ้น อีกทั้ง อีริคเซ่น ก็โทรมาบอกว่า อาการดีขึ้น ให้เพื่อนๆลงไปแข่งขันต่อ

เมื่อเกิดเรื่องร้ายบางอย่าง เราก็ได้เห็นสิ่งสวยงามในสังคมฟุตบอล แฟนบอลฟินแลนด์ ตะโกนเรื่องชื่อ คริสเตียน แฟนบอลเดนมาร์ก ก็ตะโกนนามสกุล อีริคเซ่นกลับไป เป็นการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

ส่วนแฟนบอลบางกลุ่มไปให้กำลังใจ อีริคเซ่น ที่หน้าโรงพยาบาลในกรุงโคเปนเฮเก้น ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา รวมถึงข้อความส่งกำลังใจจากทั่วโลกไปให้ อีริคเซ่น

หนึ่งในนั้นมีข้อความจาก ฟาบริซ มูอัมบา อดีตนักเตะเยาวชนทีมชาติอังกฤษ มูอัมบา เคยล้มกลางสนามในการแข่งขันเอฟเอ คัพ ปี 2012 ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เขารอดชีวีตมาได้ แต่หลังจากนั้น 5 เดือน มูอัมบา ตัดสินใจเลิกเล่นฟุตบอลตอนอายุแค่ 24 ปี ตามคำแนะนำของแพทย์โรคหัวใจ มูอัมบา ให้สัมภาษณ์ว่า เขาร้องได้ตอนเห็น อีริคเซ่น ล้มลง และภาวนาขอพรจากพระเจ้า

ขณะที่้ สก็อตต์ เมอร์เรย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจระบบสาธารณสุขแห่งชาติ สหราชอาณาจักร มองว่า อีริคเซ่น กองกลางทีมชาติเดนมาร์ก อาจจะหมดสิทธิ์กลับมาลงเล่นฟุตบอลแล้ว เมื่อมีความเสี่ยงภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน

สำหรับ คริสเตียน อีริคเซ่น วัย 29 ปี โด่งดังที่สุดของเดนมาร์ก ชุดนี้ เคยเล่นกับ สเปอร์ส ก่อนย้ายไปอิตาลี และคว้าแชมป์ลีกกับอินเตอร์ มิลาน

แม้ว่าศึกยูโร เดนมาร์ก จะเปิดสนามแพ้ ฟินแลนด์ 0-1 โจเอล โปห์ยานพาโล คนทำประตูชัยให้ฟินแลนด์ ก็ไม่แสดงอาการดีใจให้เกียรติคนเดนมาร์ก ทำให้สิ่งที่น่าจดจำในเกมนี้ คือ การได้เห็นความช่วยเหลือของเพื่อนนักเตะ , ทีมแพทย์ , กำลังใจจากทั่วโลก และน้ำใจนักกีฬา สิ่งเหล่านี้คือคุณค่าที่มากกว่าผลการแข่งขันแพ้ชนะในเกมฟุตบอล