แม่ร้องขอความเป็นธรรม ลูกชายถูกรุ่นพี่สถาบันดัง ย่านปทุมวัน ซ้อมขณะเตรียมทำกิจกรรมรับน้อง หามเข้าโรงพยาบาล 8 วันสิ้นใจ เหตุเพราะไม่ช่วยตอบแชทรุ่นน้องในกลุ่มไลน์

นางมนัสนันท์ ตามกลาง อายุ 57 ปี ชาวอำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ร้องขอความเป็นธรรม หลังลูกชาย คือ นายวีรพัฒน์ ตามกลาง หรือ น้องปลื้ม อายุ 22 ปี นักศึกษา ชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (อุเทนถวาย) รุ่น 89 แผนกวิศวกรรมก่อสร้าง เสียชีวิตปริศนา ขณะเตรียมกิจกรรมรับน้องของสถาบัน

โดยเมื่อเช้ามืดวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อนลูกชายโทรศัพท์มาบอกว่า น้องปลื้มล้มจากเก้าอี้ ขณะนั่งคุยกับเพื่อนในคณะ แล้วเกิดอาการชักเกร็ง จึงพากันนำตัวส่ง รพ.หัวเฉียว กทม. จึงรีบโทรบอกลูกชายคนโตที่ทำงานอยู่ที่ราชบุรี ให้รีบไปดูน้องก่อน

แต่เมื่อแม่ไปถึง เห็นน้องปลื้มอยู่ในห้องไอซียู ในสภาพถูกมัดมือมัดเท้าเพราะชักเกร็ง ไม่สามารถพูดคุยสื่อสารได้ เพราะใส่ท่อช่วยหายใจ รักษาตัวได้ 5 วัน อาการก็ทรุดลง จึงตัดสินใจย้ายไป รพ.มหาราชนครราชสีมา และรักษาได้เพียง 3 วัน น้องปลื้มก็เสียชีวิต ในวันที่ 5 มิถุนายน หมอบอกว่า ซี่โครงซี่ที่ 3 หัก หน้าอกช้ำ ปอดติดเชื้อ ส่วนสาเหตุที่เสียชีวิต เกิดจากลิ่มเลือดหลุดไปอุดตันเส้นเลือดขั้วปอด จึงเชื่อว่าลูกน่าจะถูกทำร้าย เป็นเหตุให้เสียชีวิต

ลูกเคยบอกว่าสถาบันแห่งนี้ เป็นความใฝ่ฝันของเค้าตั้งแต่เด็กที่จะเข้าไปศึกษา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เกี่ยวกับครู หรือสถาบัน เพราะเป็นการกระทำของตัวบุคคล อยากให้คนที่ทำผิดออกมาแสดงความรับผิดชอบ

ด้านนายวีรพงษ์ ตามกลาง อายุ 27 ปี พี่ชายน้องปลื้ม ก็ติดใจการตายของน้อง เพราะปกติเป็นคนแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว จึงไปตามหาความจริงจากกล้องวงจรปิดของมหาวิทยาลัย ในวันเกิดเหตุ 27 พฤษภาคม ช่วงประมาณ 2 ทุ่ม เห็นน้องชายเดินเข้าไปในตึกคณะ จากนั้นเวลาประมาณ 3 ทุ่ม เห็นเพื่อน ๆ หามน้องชายออกมา

จากนั้นยังได้ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ของน้องชาย พบการสนทนาใน LINE มีคนยอมรับว่า ได้กระทำรุนแรงเกินไป ระหว่างทำกิจกรรมเตรียมรับน้องใหม่ จากนั้นก็มีแชทลับออกมาว่า ทุกคนช่วยกันปกปิด ช่วยคนผิด และมีการโทษว่า น้องปลื้มสุขภาพไม่ได้ เตะไป 2 ครั้ง แล้วน้องวูบ ไม่หายใจ ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลที่เพื่อนบอกแม่ และการที่ทุกคนพากันปกปิดว่าน้องโดนซ้อม ยิ่งทำให้หมอรักษาไม่ตรงจุด ทำให้น้องเสียชีวิต

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า ในวันที่ไปรับศพน้องปลื้ม รุ่นพี่คณะได้มอบเสื้อช็อปอัดกรอบให้น้อง และตั้งไว้หน้าศพ เหมือนจะบอกว่า ต้องรอให้ตายก่อน ถึงจะได้เสื้อช็อป เหมือนเป็นการไม่ให้เกียรติผู้ตาย

โดยเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ บอกว่า ที่น้องปลื้มบาดเจ็บ เพราะถูกลงโทษ ที่น้องปลื้มเป็นหัวหน้าห้อง แต่ไม่ตอบไลน์เรื่องที่จะจัดกิจกรรมรับน้อง ตอนเกิดเหตุรุ่นพี่ให้น้องปลื้มนั่งขัดสมาธิอยู่กลางห้อง แขนแนบลำตัว และเก็บคอ จากนั้นให้รุ่นพี่ 12 คน เตะลงโทษ แต่ถูกเตะไป 2 คน น้องปลื้มก็ล้มวูบและชักเกร็ง เพื่อน ๆ ต้องพากันหามส่ง รพ.หัวเฉียว

ซึ่งสอดคล้องกับที่ น.ส.กิตติยารัตน์ อายุ 21 ปี แฟนสาวของน้องปลื้ม ที่เล่าว่า ก่อนเสียชีวิต น้องปลื้ม บอกว่าถูกรุ่นพี่ รุ่นที่ 88 เวียนเตะคนละครั้ง เพื่อเป็นการลงโทษ ที่ไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในการจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ ที่ใกล้จะถึงนี้ เพราะเป็นหัวหน้าห้อง ยืนยันแฟนเป็นคนแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว คงจะไม่เสียชีวิตจากสาเหตุอื่น นอกจากการถูกทำร้าย

นางวิไลลักษณ์ ศรีคงอยู่ อายุ 64 ปี อดีตครูโรงเรียนอนุบาลหนองกี่ และเคยเป็นครูประจำชั้นน้องปลื้ม เผยว่า ตั้งแต่ยังเล็ก น้องปลื้มมีจิตเป็นผู้นำ เป็นหัวหน้าห้อง กระทั่งปัจจุบันยังคงรักษาความเป็นผู้นำ คือ ได้เป็นหัวหน้าห้อง ในฐานะครูรู้สึกดีใจ แตาไม่คิดว่า ลูกศิษย์จะมาเสียชีวิตแบบนี้ ทำให้เสียใจมาก แต่ไม่โทษสถาบัน เพราะเกิดจากจิตสำนึกของนักศึกษาด้วยกันเอง อยากเรียกร้องไม่ให้เกิดเรื่องแบนนี้อีกในระบบการศึกษาของไทย

ด้าน ผศ.พรชัย อัจฉริยเมธากร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ได้เข้าร่วมงานสวดอภิธรรมศพน้องปลื้ม พร้อมเผยว่า ทางมหาวิทยาลัย ไม่นิ่งนอนใจ จากการสอบสวน ทราบว่า กลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ที่ร่วมกระทำมีทั้งหมด 12 คน ทั้งหมดให้การรับสารภาพแล้ว

ในกฎระเบียบของมหาวิทยาลัย ถ้ามีการกระทำรุนแรงขนาดนี้ จะต้องให้ออกสถานเดียว ตอนนี้ได้เสนอชื่อ นศ.ทั้งหมดที่ก่อเหตุ ถึงอธิการบดีแล้ว ถ้าอธิการเซ็นลงนาม ก็สิ้นสุดกระบวนการคือให้ออกสถานเดียว ส่วนทางคดีต้องให้ตำรวจเป็นฝ่ายจัดการ ทางมหาวิทยาลัยพร้อมให้ความร่วมมือ  สำหรับการเยียวยา มหาวิทยาลัย จะต้องดำเนินการตามระเบียบเท่าที่กระทำได้