สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ หรือปปท.พบการใช้งบประมาณเพื่อแก้วิกฤติโควิด-19 เมื่อปีที่แล้ว ส่อพิรุธว่าจะทุจริต เพราะแม้เพราะกรมบัญชีกลางยกเว้นระเบียบบางประการ เพื่อให้สอดคล้องกับความรุนแรงของปัญหาด้วย แต่ขณะเดียวกัน ก็ยังพบการปลอมแปลงเอกสาร เพื่อเป็นหลักฐานเบิกจ่าย และนำเอกสารผู้อื่นมาเบิกจ่ายโดยเจ้าตัวไม่รู้มาก่อน

ผู้อำนวยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือปปท.เขต 3 เปิดเผยกับ ข่าว 3มิติ ถึงผลการตรวจสอบการร้องเรียนของประชาชน ต่อสงสัยการใช้งบประมาณเพื่อรับมือวิกฤติโควิด-19 ซึ่งระบาดระลอกแรก ปีที่แล้ว แม้ส่วนใหญ่จะเป็นไปตามระเบียบ แต่ก็พบองค์กรปกครองท้องถิ่น 5 แห่ง ที่ส่อพิรุธค่อนข้างชัดเจน

ปปท.เขตพื้นที่ 3 รับผิดชอบตรวจสอบ 8 จังหวัดอีสานตอนล่างคือนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และยโสธร ผลการตรวจสอบพบองค์กรท้องถิ่น 5 แห่ง ที่ส่อพิรุธ แยกเป็น อบจ.2 แห่ง อบต. 2 แห่ง และเทศบาลนคร อีก 1 แห่ง

กรณี อบจ. 2 แห่ง พบว่า อบจ.แห่งแรก จัดซื้อเจลแอลกฮอล์ ใช้เงิน 49 ล้านบาท เพื่อซื้อเจลแอลกฮอมาเป็นสต็อคไว้ แต่ชี้แจงไม่ได้ว่ามีแผนดำเนินการแจกที่ไหนอย่างไรบ้าง และพบว่า อบจ.ดังกล่าวตั้งงบไว้รับมือโควิดเมื่อปีที่แล้ว ถึง 100 ล้านบาท

ส่วนอบจ.แห่งที่สอง ปปท.เขต 3 พบว่า ใช้เอกสารเท็จมาเป็นคู่เทียบราคาเพื่อจัดซื้อเครื่องวัดอุณหภูมิ โดยผลการสืบสวน และตรวจสอบข้อเท็จจริงของปทท.เขต 3 ปรากฎหลักฐานชัดเจน

ส่วน อบต. 2 แห่ง มี 1 แห่ง ที่ซื้อสินค้าจากผู้ค้าคนกลางตามคำสั่งนายกอบต. ทำให้ราคาสูงกว่าท้องตลาดมาก และพ่อค้าคนกลางก็ใช้เอกสารของคนขายลูกชิ้น ที่อยู่คนละจังหวัดมาเป็นเอกสารรับรองว่าเป็นผู้ขาย ขณะที่อบต.อีกแห่ง พบว่า ปลัดอบต.จ่ายเงิน 2-3 พันบาท เพื่อใช้ชื่อร้านสกรีนป้ายมาเป็นผู้ขายเครื่องวัดอุณหภูมิแทน ซึ่งปปท.เขต 3พบหลักฐานชัดเจน

ส่วนผู้รับเหมาก่อสร้างตามหมู่บ้านคนนี้ ถูกใช้เอกสารที่เขาเคยยื่นทำงานกับอบต.แห่งหนึ่งไว้ ไปใช้เป็นหลักฐานเบิกเงินค่าขายเครื่องพ่นน้ำยา โดยที่เขาไม่รู้เรื่องนี้เลย

สำหรับเทศบาลนครอีก 1 แห่งที่ปปท.เขต 3 พบส่อพิรุธคือคณะกรรมการได้ต่อรองราคา หน้ากากอนามัยจากกล่องละ 750 เหลือ กล่องละ 370 บาท โดยเทศบาลประกาศราคาในระบบ EGP แล้ว แต่ภายหลังกลับมาประกาศใหม่เป็นซื้อ 750 บาท โดยไม่ได้แจ้งผู้ขายก่อน ส่อเจตนาจะมีเงินทอนเกิดขึ้น

ตอนนี้ ปปท.เขต 3 ส่งคำไต่สวนเบื้องต้นให้ ปปช.แล้วเพื่อพิจารณาว่าปปช.จะเดินหน้าไต่สวนเองต่อ หรือส่งกลับมาให้ปปท.พิจารณา หากพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีมูลก็ตกไป แต่หากเห็นว่ามีมูล ก็จะเรียกทั้ง 5 องค์กรท้องถิ่นดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหา และชี้แจงข้อเท็จจริง

โดยนี่เป็นส่วนหนึ่งของผลการตรวจสอบการใช้งบประมาณเฉพาะใน 8 จังหวัดของเขต 3 เท่านั้น แต่ยังต้องจับตางบประมาณจากเงินกู้ 4 แสนล้าน ที่ปปท.ได้ส่งรายงานวิเคราะห์ความเสี่ยงให้นายกรัฐมนตรีไป