ในการประชุม ครม. วันพรุ่งนี้ (11 พ.ค.) จะมีการพิจารณากำหนดเวลาการจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้มีสิทธิโครงการเราชนะ และม33เรารักกัน อีกคนละ 2,000 บาท  ซึ่งเป็น 2 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รอบ 3  ท่ามกลางเสียงบ่นว่า รัฐฯ เยียวยาน้อยไปหรือไม่ เมื่อเทียบกับความเสียหายใน 2 รอบแรก อีกมุมก็กังวลว่ารัฐจะมีเงินพอหรือไม่

ซึ่งหากดูจากการชี้แจงของสภาพัฒน์ เกี่ยวกับการใช้งบจาก พ.ร.ก. 1 ล้านล้านบาท ปัจจุบัน (ณ วันที่ 3 พ.ค.) คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติโครงการที่เสนอขอใช้จ่ายเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดฯ เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท แล้ว จำนวน 283 โครงการ รวมกรอบวงเงินกู้ 762,902 ล้านบาท คงเหลือวงเงินกู้ 237,097 ล้านบาท ซึ่งสภาพัฒน์ ยืนยันยังพอเพียงสำหรับการดำเนินการตามมาตรการเยียวยา ระลอก 3 ที่ ครม จะอนุมัติรายละเอียดในวันพรุ่งนี้ ซึ่งประกอบด้วย

-โครงการเราชนะ วงเงิน 6.7 หมื่นล้านบาท

-โครงการ ม33เรารักกัน วงเงิน 1.85 หมื่นล้าน

-โครงการคนละครึ่ง วงเงิน 9.3 หมื่นล้านบาท

-บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วงเงิน 1.94 หมื่นล้านบาท

-โครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้ วงเงิน 2.8 หมื่นล้านบาท

*รวมวงเงินสำหรับการเยียวยารอบที่ 3 นี้ จำนวน 225,900 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี ยังมีเม็ดเงินจากวงเงินงบประมาณ ปี 64 นี้ ทั้งจากงบกลางกรณีฉุกเฉินฯ และงบสู้โควิด รวมอีกราว 1 แสนล้านบาท

ขณะที่ นางจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กล่าวว่า ตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท  ณ.วันที่ 6 พฤษภาคม 64 กระทรวงการคลัง ได้ดำเนินการกู้ ภายในกรอบวงเงินโครงการที่ ครม.อนุมัติแล้ว จำนวน 703,800 แสนล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 92 ของกรอบวงเงินตาม ที่ ครม.มีมติอนุมัติ

อย่างไรก็ดี หากในอนาคตรัฐบาล มีความจำเป็นต้องกู้เงินเพิ่มเติ่ม เพื่อใช้ในการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะก็จะวางแผนการกู้เงินอย่างรอบครอบ และขอให้ทุกคนเชื่อมั่นว่า การบริหารหนี้สาธารณะ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 58 ของจีดีพี.จะเป็นไปอย่างรอบคอบ และถูกต้องตามกฏหมาย

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/zuq3xY9QEDc