ไม่คึกคึก! ตลาดนักเตะพรีเมียร์ลีก ใช้งบเสริมทัพน้อยสุดในรอบ 9 ปี

ตลาดนักเตะหน้าหนาวที่ปิดลงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดย ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุด

ลิเวอร์พูล คว้าตัวเซนเตอร์ฮาร์ฟมาเสริมทีม 2 ราย คนแรกคือ เบน เดวีส กองหลังชาวอังกฤษ ที่ย้ายมาจากเปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ในลีกแชมเปี้ยนชิพ ด้วยค่าตัวรวมทั้งสิ้น 2 ล้านปอนด์ อีกคนคือ โอซาน คาบัค เซนเตอร์ดาวรุ่งทีมชาติตุรกี ยืมตัวจาก ชาลเก้ 04 จนจบฤดูกาล พร้อมออฟชั่นซื้อขาดในราคา 18 ล้านปอนด์ โดยสาเหตุที่ ลิเวอร์พูล ต้องซื้อเซนเตอร์ฮาร์ฟถึง 2 คน เนื่องจาก โจแอล มาติป เซนเตอร์ฮาร์ฟตัวหลักในตอนนี้ เจ็บข้อเท้าต้องพักยาวทั้งฤดูกาล  ส่วนที่ปล่อยออกไปก็คือ ทาคุมิ มินามิโนะ ตัวรุกทีมชาติญี่ปุ่น ที่ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนาม ย้ายไปอยู่กับ เซาธ์แฮมป์ตัน แบบยืมตัวจนจบฤดูกาล 

ด้านทีม "ปืนใหญ่" ตลาดหน้าหนาวนี้ปล่อยตัวนักเตะออกไปหลายคน เริ่มที่ ชโคดราน มุสตาฟี่ เซนเตอร์ฮาร์ฟทีมชาติเยอรมัน ย้ายไปร่วมทีม ชาลเก้04 แบบไม่มีค่าตัว เซ็นสัญญาระยะสั้นถึงจบฤดูกาลนี้ นอกจากนั้นยังปล่อย 2 ดาวรุ่ง เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส ย้ายไปร่วมทีม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน แบบยืมตัวจนจบฤดูกาล และ โจ วิลล็อค ย้ายไปร่วมทีม นิวคาสเซิ่ล แบบยืมตัวจนจบฤดูกาลเช่นกัน

ทางฝั่ง แมนยูไนเต็ด นั้น มาร์กอส โรโฮ ปราการหลังชาวอาร์เจนไตน์ เตรียมย้ายไปอยู่กับ โบคา จูเนียร์ ทีมดังในอาร์เจนติน่า หลัง แมนฯยูไนเต็ด ยินดียกเลิกสัญญาเพื่อให้ โรโฮ สามารถย้ายทีมได้ทันที 

ภาพรวมตลาดนักเตะในปีนี้ถือว่าไม่คึกคัก เนื่องจากทุกสโมสรประสบปัญหาทางการเงิน จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถ้านับเฉพาะพรีเมียร์ ลีก ตลาดรอบนี้ทั้ง 20 ทีมใช้เงินไปแค่ 68 ล้านปอนด์ ซึ่งน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2012 

นักกีฬาทีมชาติชุดโอลิมปิก-แข่งขันนานาชาติ ได้รับวัคซีนโควิดก่อน

ควันหลงจากการประชุมแผนนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ร่วมกับการกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาต่างๆ 

ซึ่งมี คุณพิพัฒน์ รัชประกิจการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นประธาน ในประเด็นการรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ประชุมมีมติว่ากลุ่มแรกที่จัดสรรให้ภาคส่วนของกีฬา จะเป็นนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เกมส์ ถัดมาจะเป็นนักกีฬาที่ต้องเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ เช่นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย และนักวอลเลย์บอลทีมชาติไทย ชุดเนชั่นส์ ลีก ที่ปีนี้จะปรับมาแข่งขัน ด้วยระบบเจ้าภาพชาติเดียว 

'กัน-เมย์-กิ๊ฟ-วิว-บาส-ปอป้อ' ได้ไปโอลิมปิกแล้ว เร่งผลักดันนักแบดไทยชิงตั๋วเพิ่ม

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยไทย และฝ่ายพัฒนากีฬาสมาคมฯ วางแผนส่งนักกีฬาไทยไปแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมสำหรับโอลิมปิก โตเกียว 2020 และหาประสบการณ์อย่างน้อยอีก 6 รายการในช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม

เนื่องจากมีอีกหลายคนที่ยังมีลุ้นโควต้า ไม่ว่าจะเป็น "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์, "โอ๊ต" สิทธิคมป์ ธรรมศิลป์ จากชายเดี่ยว, "ครีม" บุศนันทน์ อึ๊งนำรุงพันธ์, "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ จากหญิงเดี่ยว และ "เอิร์ธ" พุธิตา สุภจิรกุล กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี จากประเภทหญิงคู่

ปัจจุบันมีนักตบลูกขนไก่ที่ค่อนข้างจะแน่นอนว่า ได้สิทธิ์ร่วมแข่งขันโอลิมปิก เกมส์ 2020 ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้แล้ว คือ "กัน" กันตภณ หวังเจริญ ประเภทชายเดี่ยว, "เมย์" รัชนก อินทนนท์ หญิงเดี่ยว, "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธรากุล และ"วิว"รวินดา ประจงใจ จากหญิงคู่ และ "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย จากคู่ผสม ที่เพิ่งสร้างประวัตศาสตร์คว้า 3 แชมป์ ระดับเวิล์ด ทัวร์ ซุปเปอร์

4 จอมเตะไทย เตรียมชิงตั๋วโอลิมปิกเพิ่ม มี.ค.นี้ ที่จอร์แดน

หลังจากหยุดพักมา 1 ปี นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย เตรียมลงแข่งขันรอบคัดเลือกชิงตั๋วไปโอลิมปิก 

เมื่อเวลา 16.00 ที่ผ่านมา (2 ก.พ.) ที่สมาคมกีฬาเทควันโด นักเทควันโดทีมชาติไทย กลับมาซ้อมเป็นวันที่ 2 เตรียมแข่งขันโอลิมปิด รอบคัดเลือก ที่จอร์แดน ปลายเดือนนี้ ซึ่งเลื่อนมาจากปีก่อนจากสถานการณ์โควิด ถือเป็นการแข่งขันครั้งแรกในรอบ 1 ปี โดยไทยส่งนักกีฬาไปแข่งขัน 4 รุ่น นำโดย "เทนนิส"พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดอันดับ 1 ของโลก รุ่น 49 กก. ได้สิทธิ์ไปแข่งขันรอบสุดท้ายโอลิมปิกแน่นอนแล้ว ส่วนอีก 3 รุ่นจอมเตะไทยต้องไปชิงตั๋วโอลิมปิก ประกอบด้วย รามณรงค์ เสวกวิหารี ลงแข่งรุ่น 58 กก. ดีกรีเหรียญทองแดงชิงแชมป์โลก ปี 2017 , หลักชัย ห้วยหงษ์ทอง ดีกรีเหรียญทองซีเกมส์ ในรุ่น 68 กก. และ พรรณนภา หาญสุจินต์ ดีกรีแชมป์โลก 2019 ลงแข่งรุ่น 57 กก.หญิง

สำหรับนักเทควันโดทีมชาติไทยจะไปกักตัวล่วงหน้า หรือ Bubble Quarantine ทันทีที่ถึงประเทศจอร์แดน ก่อนแข่งขันโอลิมปิก รอบคัดเลือก ช่วงปลายเดือนมีนาคม นี้ ส่วนกีฬาโอลิมปิก ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กำหนด แข่งขัน 23 ก.ค. - 8 ส.ค.